ยางสปอร์ด คืออะไร และดีกว่ายางรถทั่วไปแค่ไหน
หลายคนที่ใช้รถมานานเกิน 3 - 5 ปีหรือวิ่งไปจะ 50,000 กิโลเมตร เริ่มจะหาแล้วว่ายางรถของคุณกำลังเสื่อมลง การเปลี่ยนยางนั้นนอกจากทำให้ปลอดภัย อาจจะทำให้รถขับดีขึ้น โดยเฉพาะบางคนหันไปหา ยางสปอร์ด ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากยางทั่วไป แต่จะดีกว่าไหมถ้าเรามารู้เรื่องยางแบบนี้กันก่อนที่จะเปลี่ยนนอกจากเซฟเงินแล้วอาจจะเซฟหูของคนที่มีคุณภรรยา วันนี้ Sanook Auto จะมาบอกว่ายางสปอร์ดนั้นคืออะไรดีกว่าหรือแย่กว่ายางปกติ พร้อมแล้วมาดูกัน
ยางสปอร์ดคืออะไร ดีกว่ายังไง
ยางสปอร์ตคือยางที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ สมรรถนะขั้นสูงสุด โดยใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ถอดแบบมาจากสนามแข่ง ทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือกว่ายางทั่วไปอย่างชัดเจน
การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม: นี่คือหัวใจสำคัญของยางสปอร์ต ด้วยส่วนผสมของเนื้อยางชนิดพิเศษ (คอมปาวด์) ที่มีความนิ่มและเหนียวกว่าปกติ ทำให้หน้ายางสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวถนนได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งบนถนนแห้งและถนนเปียก ส่งผลให้การเข้าโค้ง การเปลี่ยนเลนกะทันหัน และการทรงตัวที่ความเร็วสูงทำได้อย่างมั่นใจ
การตอบสนองของพวงมาลัยที่เฉียบคม: โครงสร้างของยางสปอร์ต โดยเฉพาะบริเวณแก้มยาง จะมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ เพื่อลดการบิดตัวหรือเสียรูปขณะเข้าโค้ง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้อย่างแม่นยำและฉับไวกว่า พวงมาลัยจะมีความ "คม" และสื่อสารกับผู้ขับขี่ได้โดยตรง
ระยะเบรกที่สั้นลง: ด้วยคุณสมบัติการยึดเกาะที่เหนือกว่า ทำให้ยางสปอร์ตสามารถสร้างแรงเสียดทานกับพื้นถนนได้มากกว่า ส่งผลให้ระยะเบรกสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการการหยุดรถอย่างรวดเร็ว
การระบายความร้อนและรีดน้ำที่มีประสิทธิภาพ: ลายดอกยางของยางสปอร์ตมักถูกออกแบบให้มีร่องรีดน้ำขนาดใหญ่และทิศทางที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำออกจากหน้ายางอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงของอาการเหินน้ำ (Hydroplaning) เมื่อขับขี่บนถนนเปียก นอกจากนี้ยังทนทานต่อความร้อนสูงที่เกิดจากการขับขี่ด้วยความเร็วต่อเนื่องได้ดีกว่า
ข้อแลกเปลี่ยนที่ต้องยอมรับของ "ยางสปอร์ต"
แม้จะมีสมรรถนะที่น่าดึงดูดใจ แต่ยางสปอร์ตก็มีข้อด้อยบางประการที่ต้องพิจารณา ซึ่งเป็นจุดที่ยางปกติทำได้ดีกว่า
อายุการใช้งานสั้นกว่า: เนื้อยางที่นิ่มกว่าเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ทำให้ดอกยางของยางสปอร์ตสึกหรอเร็วกว่ายางปกติอย่างชัดเจน
ความนุ่มนวลและความเงียบลดลง: โครงสร้างแก้มยางที่แข็งแรงและลายดอกยางที่เน้นสมรรถนะ ส่งผลให้การซับแรงกระแทกทำได้ไม่ดีเท่ายางปกติ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะรู้สึกถึงความกระด้างและเสียงรบกวนจากพื้นถนนที่ดังเข้ามาในห้องโดยสารมากกว่า
ราคาสูงกว่า: ด้วยเทคโนโลยีและวัสดุที่ใช้ในการผลิตที่ซับซ้อนกว่า ทำให้ยางสปอร์ตมีราคาสูงกว่ายางปกติในขนาดเดียวกัน
อาจสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า: ในบางกรณี ด้วยหน้ายางที่กว้างกว่าและความหนืดของเนื้อยางที่มากกว่า อาจส่งผลให้มีแรงต้านการหมุน (Rolling Resistance) สูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น
เทียบกับยางปกติ
แม้คุณสมบัติและข้อสังเกตของยางสปอร์ดที่บอกไปขั้นต้นอาจจะมีทั้งข้อดีและข้อที่เป็นจุดสังเกตให้คุณได้คิด ในทางกลับกัน ยางปกติหรือยางเน้นความนุ่มเงียบ (Comfort Tire) ก็มีจุดเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
ความนุ่มนวลในการขับขี่: แก้มยางที่ยืดหยุ่นกว่าและลายดอกยางที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและสบายกว่า
เสียงรบกวนต่ำ: ลายดอกยางถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กและถี่ เพื่อลดเสียงที่เกิดจากการเสียดสีกับพื้นถนน ทำให้ห้องโดยสารเงียบสงบ
อายุการใช้งานยาวนาน: ส่วนผสมของเนื้อยางที่แข็งกว่า ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอได้ดีกว่า มีอายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่าในระยะยาว
ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง: มักมีแรงต้านการหมุนต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีกว่า
ส่วนราคาของยางทั่วไปอาจจะถูกหรือแพงขึ้นกับเกรดของยางที่คุณเลือกเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าคุณเลือกเกรดที่ถูกจะได้ความนุ่มเงียบเสมอไป
เลือกแบบไหนดีที่สุด
สุดท้ายแล้วการเลือกยาง ไม่มีคำว่า "ดีที่สุด" มีแต่คำว่า "เหมาะสมที่สุด"
เลือก "ยางสปอร์ต" หาก: คุณคือผู้ที่หลงใหลในการขับขี่, ต้องการเค้นสมรรถนะสูงสุดจากรถคู่ใจ, ชอบการควบคุมที่เฉียบคม, ขับรถเร็วเป็นประจำ และยอมรับได้กับความกระด้างและอายุการใช้งานที่สั้นลง
เลือก "ยางปกติ" หาก: คุณคือผู้ที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน, เดินทางไกลบ่อย, ให้ความสำคัญกับความนุ่มนวลความเงียบของห้องโดยสารเป็นอันดับแรก และมองหาความคุ้มค่าในระยะยาว
ทั้งนี้การเลือกระหว่างยางสปอร์ตและยางปกติไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัวว่าแบบไหนดีกว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด หากคุณเป็นผู้ที่รักการขับขี่ ชื่นชอบความเร็ว ต้องการดึงสมรรถนะของรถออกมาอย่างเต็มที่ และยอมแลกกับความนุ่มนวลและอายุการใช้งานที่สั้นลง ยางสปอร์ต คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ แต่หากคุณเป็นผู้ที่ใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก เดินทางไกลบ่อยครั้ง และต้องการความสะดวกสบายสูงสุดในการขับขี่ ยางปกติ ที่เน้นความนุ่มเงียบและคุ้มค่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า