ปิดดีลสำเร็จ! สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ใหม่ ไทยลดเหลือ 19%
บีบีซีนิวส์รายงานว่า ทำเนียบขาวออกคำสั่งฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศไทยและกัมพูชาในอัตรา 19% จากเดิมที่ทั้งสองประเทศต้องเผชิญอัตราภาษีสูงถึง 36% โดยคำสั่งใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในอีก 7 วันข้างหน้า เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ
อัตราภาษีดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบ “ภาษีแบบต่างตอบโต้” (Reciprocal Tariff) ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับสินค้าที่นำเข้ามาเพื่อการบริโภค หรือถูกนำออกจากคลังสินค้าสำหรับการบริโภคในตลาดสหรัฐฯ
คำสั่งใหม่นี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันสองด้านจากสหรัฐฯ ได้แก่ การที่รัฐบาลไทยต้องเร่งเปิดเจรจาการค้าภายใต้เงื่อนไขที่สหรัฐฯ พึงพอใจ และความจำเป็นในการยุติการสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า ในปี 2024 ไทยมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ มูลค่ารวมถึง 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกัน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“การประกาศ Tariff rate ที่ 19% สะท้อนถึงมิตรภาพและความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย–สหรัฐฯ ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย
การทำงานยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร จึงได้จัดเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งงบประมาณ Soft Loan เงินอุดหนุน มาตรการภาษี และการปฏิรูปกฎระเบียบที่จำเป็น เพื่อยกระดับให้ไทยสามารถปรับตัวและก้าวสู่โลกเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมั่นใจ
ผลการเจรจาครั้งนี้เป็นสัญญาณให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัว เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกในอนาคต
ขอบคุณทีมไทยแลนด์สำหรับความทุ่มเทและความพยายามอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ยากจะควบคุม แต่เรายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของพวกเราทุกคน”
ทั้งนี้ประเทศในอาเซียนที่สามารถตกลงการค้ากับสหรัฐฯ และได้รับการประกาศอัตราภาษีแบบต่างตอบโต้ใหม่มีทั้งหมด 7 ประเทศ ได้แก่ เวียดนามที่ถูกเก็บภาษี 20% ขณะที่อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ไทย, กัมพูชา และมาเลเซีย ถูกจัดเก็บในอัตรา 19% ส่วนสิงคโปร์ได้รับอัตราพื้นฐานที่ต่ำที่สุดคือ 10% และอีก 3 ประเทศ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีตามที่ประกาศไว้ ได้แก่ ลาว , เมียนมา อยู่ที่ 40% และ บรูไน 25%