โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘เงิน หรือ ชีวิต’ คำถามที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณ

Wealth Me Up

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Wealth Me Up

ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…

Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line

เคยรู้สึกมั้ยว่า? ตัวเองต้องตื่นเช้าไปทำงานทุกวันจันทร์ แล้วก็วนลูปทำงานเพื่อจ่ายบิลที่ไม่มีวันหมด รู้สึกเหมือนชีวิตมีไว้เพื่อหาเงินอย่างเดียว ถ้าเราตอบว่า ‘ใช่’ แสดงว่าเราไม่ใช่คนเดียวแน่นอน Vicki Robin และ Joe Dominguez ผู้เขียนหนังสือสุดคลาสสิก ‘Your Money or Your Life’ ก็เคยรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดที่จะเปลี่ยนมุมมองการเงินไปตลอดกาล

เงินทุกบาท คือ ‘พลังชีวิต’

ลองเปลี่ยนวิธีคิดง่ายๆ แทนที่จะมองว่าเงิน 2,400 บาท ให้ลองคิดว่านี่คือ 8 ชั่วโมงของชีวิตที่ต้องไปทำงาน (สมมติว่าได้ค่าแรงชั่วโมงละ 300 บาท) เมื่อคิดแบบนี้ก็จะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า เสื้อผ้าตัวนี้ราคา 2,000 บาท คุ้มกับ 8 ชั่วโมงของชีวิตเราหรือไม่

นี่คือแก่นของแนวคิดที่ผู้เขียนเรียกว่า พลังชีวิต (Life Energy) เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราได้มา คือ เวลาและแรงกายที่เราแลกไป และทุกครั้งที่เราใช้จ่าย นั่นหมายถึงเรากำลังแลกเปลี่ยนพลังชีวิตของเราไปเช่นกัน

เพื่อเห็นภาพชัดๆ ลองนึกถึงกาแฟแก้วละ 150 บาท ที่ดื่มทุกวัน ถ้าเรามีค่าแรงชั่วโมงละ 300 บาท กาแฟแก้วนี้เท่ากับ 30 นาทีของชีวิต และถ้าลองคำนวณดูตลอด 1 ปี จะใช้เงินไปกับกาแฟถึง 54,750 บาท หรือเทียบเท่ากับ 182.5 ชั่วโมง หรือเกือบ 5 สุดสัปดาห์ของการทำงาน

คำถามคือ กาแฟที่ซื้อดื่มทุกวันคุ้มกับ 5 สัปดาห์ชีวิตจริงหรือไม่ หรือมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า เช่น ชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน แล้วเอาเงินส่วนต่างไปลงทุนดีกว่าหรือไม่

9 ขั้นตอนสู่อิสรภาพทางการเงินและชีวิตที่มีความหมาย

หนังสือ Your Money or Your Life ไม่ได้แค่พูดถึงทฤษฎีการเก็บเงินหรือใช้เงินเท่านั้น แต่ยังให้ 9 ขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อไปสู่การเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ไม่ใช่แค่การเกษียณเร็วเท่านั้น แต่คือการมีอิสระที่จะเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป

1. ทบทวนอดีตทางการเงิน

มาดูกันว่าตลอดชีวิตหาเงินมาได้เท่าไหร่ แล้วหายไปไหนหมด ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมและเตรียมใจสำหรับการเปลี่ยนแปลง

เช่น ทำงานมา 10 ปี มีรายได้รวม 3,000,000 บาท แต่ตอนนี้มีทรัพย์สินสุทธิแค่ 500,000 บาท อาจจะเริ่มตั้งคำถามว่าเงิน 2,500,000 บาทหายไปไหน เพื่อช่วยให้มองเห็นว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้างในอดีต ซึ่งอาจจะไม่ได้สร้างความสุขที่ยั่งยืน

2. อยู่กับปัจจุบัน ติดตามพลังชีวิตที่ใช้แลกเงิน

จดทุกรายรับรายจ่ายแบบละเอียดสุดๆ แม้แต่ค่าซื้อของ 5 บาท แล้วคำนวณค่าแรงต่อชั่วโมงที่แท้จริง อาจจะตกใจว่าค่าแรงจริงของตัวเองน้อยกว่าที่คิด และการใช้จ่ายเท่ากับเวลาชีวิตใช้ไปเท่าไหร่

เช่น มีเงินเดือน 30,000 บาท ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ (160 ชั่วโมงต่อเดือน) แต่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับวันละ 2 ชั่วโมง (40 ชั่วโมงต่อเดือน) และเตรียมตัวอีกครึ่งชั่วโมง (10 ชั่วโมงต่อเดือน) รวมเป็น 210 ชั่วโมงต่อเดือน ค่าแรงจริงจะเหลือประมาณ 142 บาทต่อชั่วโมง (30,000 ÷ 210) ไม่ใช่ 187.5 บาทต่อชั่วโมง (30,000 ÷ 160) ดังนั้น ค่าแรงที่แท้จริงน้อยกว่าที่คิดมาก และเมื่อซื้อเสื้อผ้า 1,000 บาท แปลว่าไม่ได้แค่เงิน 1,000 บาท แต่คือ 7 ชั่วโมงของชีวิตที่ต้องไปทำงาน

3. สรุปยอดรายจ่ายประจำเดือน

จัดหมวดหมู่รายจ่ายให้ชัดเจน เช่น อาหาร ค่าเดินทาง ความบันเทิง แล้วคำนวณเป็นชั่วโมงการทำงาน เพื่อให้เห็นว่าพลังชีวิตไปอยู่กับอะไรมากที่สุด

4. ตั้งคำถามเปลี่ยนชีวิตกับแต่ละหมวดรายจ่าย

นี่คือหัวใจสำคัญ ลองถามตัวเอง 3 คำถามกับทุกหมวดรายจ่าย ซึ่งคำถามเหล่านี้จะช่วยให้ค้นพบว่าอะไรคือสิ่งที่สร้างความสุขจริงๆ และอะไรเป็นเพียงความเคยชิน

  • ได้รับความสุขหรือความคุ้มค่าคุ้มกับพลังชีวิตที่แลกไปหรือไม่
  • รายจ่ายนี้สอดคล้องกับคุณค่าหรือเป้าหมายในชีวิตหรือไม่
  • ถ้าไม่ต้องทำงานเพื่อเงิน รายจ่ายนี้จะเปลี่ยนไปหรือไม่

เช่น มีรายจ่ายค่าบริการสตรีมมิ่งหลายค่าย รวมกันเดือนละ 500 บาท เมื่อคำนวณเป็นพลังชีวิตแล้ว อาจจะเท่ากับ 3-4 ชั่วโมงของชีวิต ลองถามตัวเองว่าดูครบทุกแพลตฟอร์มหรือไม่ แต่ละแพลตฟอร์มให้ความสุขคุ้มกับเวลาชีวิตที่แลกไปหรือไม่ ถ้าไม่ต้องทำงานเพื่อเงินจะยังสมัครทุกแพลตฟอร์มอยู่หรือไม่ ก็อาจจะพบว่าดูแค่ 1 สตรีมมิ่งก็เพียงพอ ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ ไม่ได้ใช้เต็มที่ควรยกเลิกเพื่อช่วยประหยัดพลังชีวิตไปได้โดยไม่ลดทอนความสุขที่แท้จริง

5. ทำให้เห็นภาพพลังชีวิตที่ใช้ไป

สร้างกราฟหรือแผนภูมิแสดงรายรับรายจ่าย การเห็นภาพจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนและติดตามความก้าวหน้า

6. ลดรายจ่ายให้เหลือแต่สิ่งที่มีคุณค่า

เมื่อรู้แล้วว่าอะไรที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้สร้างความสุข ก็ถึงเวลาตัดทิ้งมองหาทางเลือกที่ถูกกว่าแต่ยังคงให้ความสุขเท่าเดิม เน้นคุณภาพชีวิต ไม่ใช่ปริมาณสิ่งของ

7. เพิ่มรายได้

การเพิ่มรายได้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าคุ้มค่ากับพลังชีวิตที่ต้องแลกไปหรือไม่ อย่าเพิ่มรายได้ที่ทำให้เครียดหรือเสียคุณภาพชีวิต

8. สร้างอิสรภาพทางการเงิน

ถือเป็นเป้าหมายสูงสุด ด้วยการสะสมเงินลงทุนจนกระทั่งได้ผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับหรือมากกว่ารายจ่ายประจำปี

ตัวอย่างการคำนวณ

  • รู้รายจ่ายต่อปี สมมติรายจ่าย 240,000 บาทต่อปี (20,000 บาทต่อเดือน)
  • รู้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดหวัง ต้องคาดการณ์ว่าเงินที่นำไปลงทุนนั้น จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยกี่เปอร์เซ็นต์ต่อปี สมมติว่าเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมั่นคงและให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 4% ต่อปี
  • คำนวณเงินลงทุนที่ต้องมี นำข้อมูลข้อ 1–2 มารวมกันเพื่อหาว่าต้องมีเงินลงทุนเท่าไหร่

สูตร เงินลงทุนที่ต้องมี = รายจ่ายต่อปี ÷ อัตราผลตอบแทนต่อปี

เงินลงทุนที่ต้องมี = 240,000 บาท (รายจ่ายต่อปี) ÷ 4%

= 6,000,000 บาท

หมายความว่า ถ้าสามารถสะสมเงินลงทุนได้ถึง 6,000,000 บาท และเงินก้อนนี้สามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้เฉลี่ย 4% ต่อปี ก็จะมีรายได้จากดอกผล (6,000,000 x 0.04 = 240,000 บาท) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้จ่าย เมื่อถึงจุดนี้ก็มีอิสรภาพทางการเงิน เพราะไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อเงินอีกต่อไป

9. บริหารเงินเพื่อความมั่นคงระยะยาว

เมื่อมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว ก็ต้องบริหารจัดการเงินด้วยการติดตามสถานะการเงินอย่างต่อเนื่อง ปรับแผนตามสถานการณ์ สิ่งสำคัญคือ การใช้ชีวิตตามเป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่เพื่อเงิน

สิ่งสำคัญ!!

  • ‘พลังชีวิต เงินทุกบาท’ คือ เวลาชีวิตและแรงกายที่แลกมา ทุกการใช้จ่าย คือ การแลกเปลี่ยนพลังชีวิต
  • ‘การใช้จ่ายอย่างมีสติ’ ถามตัวเองทุกครั้งก่อนใช้จ่ายว่าสิ่งนี้จำเป็นและสอดคล้องกับคุณค่าหรือไม่
  • ‘อิสรภาพทางการเงิน’ เป้าหมายไม่ใช่แค่เกษียณเร็ว แต่คือการมีอิสรภาพเลือกใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
  • ‘พอเพียง vs อยากได้มากขึ้น’ หนังสือเล่มนี้ชวนให้ค้นหาจุดพอเพียงของตัวเอง แทนที่จะไล่ล่าความอยากได้ไม่รู้จบ

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนให้ขี้เหนียว แต่สอนให้ใช้เงินอย่างมีสติ และสอดคล้องกับคุณค่าของตัวเอง ผู้เขียนเล่าว่าจากการสอบถามผู้ที่อ่านหนังสือ พบว่าหลายคนที่ทำตามได้ใช้เงินน้อยลง แต่กลับมีความสุขมากขึ้น เพราะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการจริงๆ

หลายคนที่กำลังเหนื่อยกับการวิ่งไล่ล่าเงินทอง อยากหลุดพ้นจากวังวนหาเงินใช้หนี้ หรืออยากใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับคุณค่าของตัวเองหนังสือเล่มนี้จะเป็นเหมือนเข็มทิศที่จะให้ผู้อ่านหันกลับมาหาตัวเอง และค้นพบว่าชีวิตที่ร่ำรวยจริงๆ คืออะไร

#WealthMeUp

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Wealth Me Up

เลิกติดหรู มาอวดประหยัดแบบตะโกน! | Wealthy No หนี้ EP.21

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Eastspring ชู 5 ธีมลงทุนรับมือครึ่งปีหลัง 2O25

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

CIMB Group ขับเคลื่อนพันธกิจ ‘Advancing Customers and Society’ เชื่อ ASEAN มีศักยภาพ

Manager Online

ศุลกากรจับใหญ่ สุรชาติ นำแถลงจับสินค้าผิดกฎหมายกว่า 88 ล้าน

เดลินิวส์

“แค๊ปสโตน แอสเสท” บนเส้นทางสู่เบอร์หนึ่งอสังหาฯ กลุ่มไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้

Manager Online

“AIS SIAM” แลนด์มาร์กใหม่ ใจกลางสยาม หนุน Gen C ปล่อยพลังสร้างสรรค์

PostToday

พร้อมลุย“ทางลอดปะทิว-สะพานท่าแซะ“1,567ล้านกรุงธนเอนยิเนียร์ผู้รับเหมาชนะประมูลสร้างเสร็จ71เพชรเกษมฉิว

เดลินิวส์

“วิทัย” ผู้ว่าธปท.คนใหม่ ลุ้นลดดอกเบี้ย 2 รอบ

หุ้นวิชั่น

ไม่กลัวโดนทิ้ง! กลยุทธ์ “สื่อสารมัดใจลูกค้า” ปรับราคาสินค้าอย่างไรให้ปังกว่าเดิม

SMART SME

ธอส. แจ้ง 'ปิด' ให้บริการ 41 สาขาในห้าง 23 ส.ค.นี้ เพื่อพัฒนาระบบ

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...