โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

เสียงผีแห่หลอนชายแดน "ทำตกใจชั่วคราว" ไม่ผิดกฎหมายทรมาน

Thai PBS

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS

กลายเป็นชนวนเห็นต่าง หลัง "กัน จอมพลัง" เปิดแผนปฏิบัติการนำรถแห่ติดตั้งเครื่องขยายเสียงเปิดเสียงผีคร่ำครวญ และมีการจัดฉายภาพพยนต์ แคมป์ 511 ที่ชายแดนไทยบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ตั้งแต่ 10-13 ต.ค.2568 ทำให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งกัมพูชา (CHRC) ส่งคำร้องถึง "โวลเคอร์ เติร์ก" ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ อ้างไทย ใช้ "เสียงรบกวน" ข่มขู่และคุกคามจิตใจต่อคนเขมร

ขณะที่ "อังคณา นีละไพจิตร" สมาชิกวุฒิสภา และอดีตกสม.ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2568 แชร์หนังสือของ Keo Remy ประธานคณะกสม. กัมพูชาที่ทำหนังสือส่งไปยังข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ระบุความเดือดร้อนของคนเขมร …และอ้างว่า เป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อกฎบัตรสหประชาชาติฯ…

อังคณา เขียนข้อความสรุปตอนท้ายและตั้งคำถามว่า รัฐบาลควรตระหนักว่า การกระทำใด ๆ ที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือส่งผลกระทบต่อจิตใจของพลเรือน แม้จะเป็นคู่ขัดแย้งในสงคราม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาจเข้าข่าย #การทรมานทางจิตวิทยา (Psychological Torture) ตามอนุสัญญา CAT ที่ประเทศไทยเป็นภาคี อยากฟังว่ารัฐบาลจะชี้แจงเรื่องนี้ อย่างไรในเวทีระดับโลก

การถูกท้วงติง กลายเป็นที่มาของการประกาศยุติบทบาทของ "กัน จอมพลัง" และทีมงาน ขณะเดียวกันได้เกิดข้อถกเถียงในโลกโซเชียล อย่างเผ็ดร้อน ในหลายประเด็น ทั้งจากผู้ที่เห็นพ้อง และฝั่งที่เห็นต่าง ท่ามกลางข้อขัดแย้ง สงครามไทย-กัมพูชาที่ยังไม่มีข้อยุติ

ขณะเดียวกัน วันนี้( 14 ต.ค.2568) ขบวนเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เรื่องเรายืนข้างความจริง หลักสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ในเวลาที่ความกลัวถูกปลอมเป็นความรักชาติ และความเกลียดชังถูกแต่งให้เป็นหน้าที่พลเมือง สังคมบางส่วนกลับหันไปโจมตี สว.อิสระและผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนหนึ่ง

นางอังคณา ผู้หญิงกล้าหาญที่ทำหน้าที่อันซื่อสัตย์ ตั้งคำถามต่อความไม่ชอบมาพากล ด้วยความสุจริตใจ และยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน เธอรู้ดีว่าการพูดในยามนี้คือการ "สวนกระแส" แต่ก็เลือกพูด เพราะเชื่อในศักดิ์ศรีของความจริง ไม่ได้พูดเพื่อตัวเอง พูดเพื่อปกป้องสิทธิของทุกคน

จึงอยากขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย กองทัพ และกสม. ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล โปร่งใส และรับผิดชอบต่อประชาชน เคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL) ยุติการใช้วาทกรรมชาติ นิยม และปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ที่สร้างความเกลียดชัง และต้องปกป้องศักดิ์ศรีของพลเรือนทุกคนโดยไม่เลือกฝ่าย

แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเจรจาหยุดยิงชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน และกระแสข่าว “โดนัล ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางเข้าร่วมประชุม Asean Summit ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.2568 ที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพ

โดยจะเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่าง “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีและ “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา หลังกองทัพภาคที่ 1 ขีดเส้นตายให้เขมรอพยพออกจากพื้นที่ฝั่งไทยชายแดนบ้านหนองจาน -หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2568 แต่ทางกัมพูชายังไม่มีการตอบสนองใด ๆ ทั้งสิ้น

ปฎิบัติจิตวิทยา "เกาหลีใต้" เปิดเครื่องเสียงเขตปลอดทหาร

ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก เปรียบเทียบการฉายหนังที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า เกาหลีใต้เคยเปิดเครื่องลำโพงเสียงขนาดใหญ่ ตรงเขตพื้นที่ปลอดทหาร (DMZ) คือ Demilitarized Zone ไปทางเกาหลีเหนือ มาแล้วถึง 3 ครั้ง คือ ในปี ครั้ง คือ ปี1963, 2015 และปี 2024 ด้วยเหตุหลายสาเหตุ ที่เกาหลีใต้จัดหนักใส่เกาหลีเหนือ ในแต่ละห้วงเหตุการณ์ อาทิ

1.ปฏิบัติการจิตวิทยาทางทหาร

2. ทหารเกาหลีใต้ลาดตระเวนไปเหยียบกับระเบิดในเขตปลอดทหาร จนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทั้ง ๆ ที่ข้อตกลงของทั้งสองชาติ ต้องไม่มีการวางทุ่นระเบิด

3. เกาหลีเหนือส่งบอลลูนบรรทุกขยะเข้ามาปล่อยทิ้งเลยเขตปลอดทหารเข้ามาในเกาหลีใต้

ผศ. ดร.วันวิชิต ระบุว่า แต่ก็ไม่ยักมีใครประณามเกาหลีใต้ว่า เหมาะสมหรือไม่ ที่สำคัญพวกเขาเล่นเพลง เคป๊อบ โดยเฉพาะเพลงของวง บิ๊กแบง และ เอพิ้งค์ ดังนั้น สังคมไทยอย่าเพิ่งตระหนกว่า เหมาะสมไม่เหมาะสม และมาดูกรณีของชา ติอื่นๆ ที่ทำแบบนี้มาบ้างแล้ว

อดีตผู้พากษาชี้ "เอกชน" ทำไม่ผิดกม.ไทย-ต่างประเทศ

ขณะที่ วัส ติงสมิตร อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2568 โดยตั้งคำถามว่า เสียงแห่หลอนชายแดน : เข้าข่าย “การทรมานทางจิตใจ” หรือไม่?

โดยระบุว่า ช่วงกลางคืนวันที่ 10 - 13 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ทีมงานของ “กัน จอมพลัง” ได้นำรถแห่ติดตั้งเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ไปเปิดเสียง “หอนคล้ายผี” และ “เสียงเครื่องบิน” บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว จนทำให้ชาวกัมพูชาในหมู่บ้านฝั่งตรงข้ามแตกตื่นตกใจ

เหตุการณ์นี้ถูกตั้งคำถามทางกฎหมายว่า “เข้าข่ายการทรมานทางจิตใจ (mental torture)” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งสอด คล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกหรือไม่?

อาจารย์วัส ในฐานะผู้เขียนมีความเห็นดังนี้

1) ตามกฎหมายไทย

การกระทำทรมานจะมีความผิดอาญา หากกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นเกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรงแก่ร่างกายหรือจิตใจ เพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

(1) ให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือคำรับสารภาพจากผู้ถูกกระทำหรือบุคคลที่สาม

(2) ลงโทษผู้ถูกกระทำเพราะเหตุอันเกิดจากการกระทำหรือสงสัยว่ากระทำของผู้นั้นหรือบุคคลที่สาม

(3) ข่มขู่หรือขู่เข็ญผู้ถูกกระทำหรือบุคคลที่สาม

หรือ (4) เลือกปฏิบัติไม่ว่ารูปแบบใดและผู้กระทำต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (มาตรา 5) โดยมีโทษเริ่มต้นตั้งแต่จำคุก 5 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 300,000 บาท

2 ) ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี

“การทรมาน” หมายถึง การกระทำใด ๆ โดยเจตนาที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส (severe pain or suffering) ไม่ว่าทางร่าง กายหรือทางจิตใจ ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มาซึ่งข้อสนเทศหรือคำรับสารภาพ

และที่สำคัญ ต้องเป็นการกระทำ “โดยความยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ” (ข้อ 1 วรรค 1 ของอนุสัญญาฯ)

3) เมื่อปรับข้อเท็จจริงแล้ว

กรณีนี้ แม้จะมีการกระทำโดยเจตนาเพื่อ “ทำให้ผู้อื่นตกใจหรือหวาดกลัว” แต่ผู้กระทำไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผลที่เกิดขึ้นเป็นเพียง “ความตกใจ” ชั่วคราว ยังไม่ถึงขั้น “ทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างร้ายแรง”

ทั้งไม่มีการกระทำใด ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ตาม (1) ถึง (4) ของมาตรา 5 ตามกฎหมายไทย หรือข้อ 1 วรรค 1 ของกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก

ดังนั้น กรณีจึงยังไม่ครบองค์ประกอบของการกระทำทรมานตามกฎหมายไทย และกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก

4) การที่คนสัญชาติไทย นำข้อความอันเป็นเท็จของทางการกัมพูชาที่กล่าวหาว่า หน่วยทหารแห่งราช อาณาจักรไทยได้กระจายเสียงดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อ และอยากฟังว่ารัฐบาลไทยจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไรในเวทีระดับโลกนั้น มีเหตุอันควรสงสัยหรือไม่ว่า “ตัวเป็นไทย แต่ใจเป็นเขมร”

ยังเป็นวิวาทะและข้อถกเถียงของกลุ่มคนเห็นต่างและผู้เห็นแย้งของคนไทยที่ต่างรักประเทศด้วยด้วยกันทั้งหมด

อ่านข่าว

ส่อง “ยิม เลียก - กลุ่มทุนกัมพูชา” ไม้ใหญ่ในร่มเงาตระกูล “ฮุน”

สร้างรั้วชายไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาสแกมเมอร์ “เขมร” ล้ำเขตแดน

สกัด “กัมพูชา” ภัยคุกคาม ปิดด่านยาว ฉีกเป๋าตังค์ “ฮุน เซน”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

เช็กขั้นตอน-คุณสมบัติลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสสำหรับร้านค้าเริ่ม 15 ต.ค.

46 นาทีที่แล้ว

สรรพากรพุ่งเป้าเก็บภาษี "อินฟลูเอนเซอร์-คอนเทนครีเอเตอร์"

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันไชนีส ไทเป พบ ไทย ฟุตบอลเอเชียนคัพ รอบคัดเลือก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผ่าอาณาจักร Call center- Scammer ศูนย์กลาง “เขมร-เมียนมา”

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว อาชญากรรม อื่น ๆ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...