โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

8 โรคฮิตในผู้หญิงวัย 25–45 ภัยเงียบที่คืบคลานเข้ามา แถมลุกลามเร็วมาก !

sanook.com

เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
8 โรคฮิตในผู้หญิงวัย 25–45 ที่มาเงียบแต่ลุกลามเร็ว รู้ทันสัญญาณเตือน ดูแลสุขภาพก่อนสายเกินไป!

ช่วงวัย 25–45 ปี คุณผู้หญิงหลายคนอาจกำลังทุ่มเทให้กับงาน ความสัมพันธ์ และเป้าหมายชีวิต โดยไม่ทันสังเกตว่าโรคบางชนิดกำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ซึ่งโรคเหล่านี้มักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก แต่สามารถลุกลามได้รวดเร็วหากไม่ดูแล จึงจะขอพาคุณสาว ๆ วัยนี้ ไปรู้จัก 8 โรคฮิตที่มาเงียบ แต่ลุกลามเร็วมากและควรระวังไว้ให้ดีกันค่ะ

8 โรคฮิตในผู้หญิงวัย 25–45

1.ภาวะเครียดเรื้อรังและโรคซึมเศร้า

สาว ๆ วัยทำงานมักเผชิญกับแรงกดดันจากหลายด้าน ซึ่งหากไม่สามารถจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร รู้สึกหมดแรง ไม่สนใจสิ่งที่เคยชอบ หรือมีความรู้สึกไร้ค่าและหมดหวัง วิธีดูแลคือการเปิดใจพูดคุยกับคนใกล้ชิด ฝึกสมาธิเพื่อปรับสมดุลจิตใจ และหากอาการรุนแรง ควรพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาและการดูแลที่เหมาะสม

2.โรคถุงน้ำในรังไข่ (PCOS)

โรคนี้พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ซึ่งส่งผลต่อรอบเดือน น้ำหนักตัว และความสามารถในการตั้งครรภ์ สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ สิวขึ้นมากผิดปกติ และมีขนขึ้นตามร่างกายมากกว่าปกติ วิธีดูแลคือการปรับอาหาร ลดการบริโภคน้ำตาล ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และปรึกษาแพทย์ เพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนให้กลับมาอยู่ในภาวะสมดุล

3.โรคหัวใจในผู้หญิง

แม้โรคหัวใจจะดูเหมือนเป็นปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ แต่ผู้หญิงวัย 30–40 ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย โดยเฉพาะสาว ๆ ที่เผชิญกับความเครียดสูง สูบบุหรี่ หรือมีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคหัวใจ สัญญาณเตือนที่ควรระวัง คือ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก และใจสั่นโดยไม่มีสาเหตุ วิธีดูแลคือการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมระดับความดันโลหิตและไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเสริมความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือด

4.โรคกระดูกพรุนก่อนวัย

สาว ๆ ที่ดื่มกาแฟมากเกินไป ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือขาดแคลเซียมในอาหาร อาจเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้กระดูกบางและเปราะง่าย สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ อาการปวดหลังเรื้อรัง กระดูกหักง่ายแม้จากแรงกระแทกเล็กน้อย และส่วนสูงที่ลดลงอย่างช้า ๆ วิธีดูแลคือการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมและวิตามิน D เช่น นม เต้าหู้ หรือปลาเล็กปลาน้อย และออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เช่น เวทเทรนนิ่ง เพื่อเสริมความแข็งแรงของมวลกระดูกในระยะยาวค่ะ

5.ภาวะดื้ออินซูลินและเบาหวานแฝง

ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีพฤติกรรมการกินที่ไม่สมดุล เช่น การบริโภคน้ำตาลและแป้งขัดขาวมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเบาหวานชนิดที่ 2 โดยร่างกายจะไม่ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ อาการง่วงหลังอาหาร น้ำหนักขึ้นง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีรอยคล้ำบริเวณคอหรือรักแร้ วิธีดูแลคือการลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เพิ่มอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี พร้อมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับสมดุลการเผาผลาญในร่างกาย

6.ไทรอยด์ผิดปกติ

ไทรอยด์เป็นต่อมสำคัญที่ควบคุมการเผาผลาญ พลังงาน และอารมณ์ของร่างกาย หากทำงานผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะไทรอยด์ต่ำหรือไทรอยด์เกิน อาจส่งผลให้คุณผู้หญิงรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ น้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงเร็วผิดปกติ ผมร่วง ผิวแห้ง และหัวใจเต้นผิดจังหวะ วิธีดูแลคือการตรวจเลือดเพื่อประเมินระดับฮอร์โมนไทรอยด์อย่างละเอียด และรับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อปรับสมดุลการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้กลับมาเป็นปกติ

7.ภาวะลำไส้แปรปรวน

ความเครียดสะสมและการบริโภคอาหารแปรรูปบ่อย ๆ อาจส่งผลให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ จนเกิดภาวะลำไส้แปรปรวน ซึ่งทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกไม่สบายท้องอยู่บ่อยครั้ง สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ ท้องอืดบ่อย ปวดท้องหลังรับประทานอาหาร และมีอาการสลับระหว่างท้องผูกกับท้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ วิธีดูแลคือการปรับอาหารให้เหมาะสม ลดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น น้ำอัดลม ถั่วบางชนิด และอาหารหมักดอง พร้อมฝึกการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก โยคะ หรือการทำสมาธิ เพื่อช่วยลดความเครียดที่ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารโดยตรงค่ะ

8.ภาวะสมองล้า

สาว ๆ ที่ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน อาจเผชิญกับภาวะสมองล้า ซึ่งทำให้รู้สึกเบลอ คิดช้า หรือขาดสมาธิในการทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต คือ อาการลืมง่าย ตัดสินใจช้า และรู้สึกเหมือนสมองไม่แล่นหรือไม่สดชื่นเหมือนเดิม วิธีดูแลคือการพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละคืน เสริมวิตามินบีและโอเมก้า 3 จากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริม และลดการใช้หน้าจอ โดยเฉพาะก่อนนอน เพื่อให้สมองได้พักและฟื้นฟูอย่างเต็มที่

โรคร้ายที่ซ่อนตัวมาเงียบ ๆ ในคุณผู้หญิงวัย 25–45 มักมาแบบไม่ทันตั้งตัว และยังสามารถลุกลามได้รวดเร็ว หากไม่ดูแล คุณผู้หญิงควรใส่ใจสัญญาณเล็ก ๆ ที่ร่างกายส่งมา และตรวจสุขภาพเป็นประจำ การปรับพฤติกรรมเล็กน้อยในแต่ละวัน สามารถช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนค่ะ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก sanook.com

ช็อก ขอแต่งงานกลางอากาศ พอฝ่ายหญิงพูดคำว่า "ตกลง" เครื่องบินดิ่งพสุธาทันที

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แพทย์สหรัฐฯ แนะนำผลไม้ 4 ชนิด "ศัตรู" ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่ไทยมีครบ-หาซื้อง่าย

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไมโครซอฟท์เผย 10 อาชีพเสี่ยงหายเพราะ "AI" รีบเช็กเลย! งานของคุณอาจอยู่ในลิสต์นี้

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รู้จัก ดอกไม้วันแม่ วันแม่ของนานาชาติ ประเทศอื่นๆ ใช้ดอกอะไรบอกรักแม่

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันพฤหัสบดีที่ 7 ส.ค. 68

PostToday

รู้จัก ดอกไม้วันแม่ วันแม่ของนานาชาติ ประเทศอื่นๆ ใช้ดอกอะไรบอกรักแม่

sanook.com
วิดีโอ

จากใจถึงใจ ส่งถ้อยคำรักถึงแม่ไปกับ 'DEBEST'

LINE TODAY

มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. จัดนิทรรศการ “อัตลักษณ์และความหลากหลาย (Identity and Diversity)”

สยามรัฐ

lyn around เปิดตัวแคปซูลคอลเลกชั่น “Don’t Call It Cute”

สยามรัฐ

อลังการงานผ้า! 77สาวงาม MUT2025 : อวดโฉมชุดไทย-มงกุฎประจำจังหวัด

สยามรัฐ

ซีพี ออลล์-เซเว่น อีเลฟเว่น จัดค่าย “Creative AI Camp ปีที่ 8” สร้างสรรค์ AI แก้โจทย์ธุรกิจ

สยามรัฐ

ชมรมผู้ป่วยโรคท้าวแสนปม เปิดตัวเสื้อยืดการกุศล “NF Thailand”

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...