กระชากหน้ากาก NNN สื่อขวาจัดออกตัวการันตี “ไมเคิล”
(18 ส.ค. 68) จากกรณีที่ นายแกรี ฟรังคี จากสำนักข่าว Next News Network(NNN) ออกตัวการันตีให้ นายไมเคิล อัลฟาโร ว่าไม่ใช่ล็อบบี้ยิสต์ที่ทำงานให้กัมพูชา และไม่เคยรับเงินจากรัฐบาลกัมพูชา โดยระบุว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกัมพูชา เดิมจะได้รับการสนับสนุนจาก One America News Network (OANN) สำนักข่าวที่ได้รับการรับรองจากทำเนียบขาว แต่ OANN ถอนการสนับสนุนเนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคง ทำให้อัลฟาโรและทีมงานออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ล่าสุด นายวันเสาร์ แสงมณี ผู้ก่อตั้ง +iZocial +โพสต์ข้อความเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังของสำนักข่าว NNN โดยระบุว่า “เปิดข้อมูล Next News Network (NNN) สื่ออเมริกันขวาจัดคลั่งทฤษฎีสมคบคิด ล่าสุด แตะมือกับล็อบบี้ยิสต์ Michale Alfaro รับงานจากรัฐบาลกัมพูชา เริ่มดิสเครดิตโจมตีประเทศไทย !!
ประวัติและปูมหลังของ Next News Network
Next News Network (NNN) เป็นแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ที่เน้นการนำเสนอข่าวสารในรูปแบบวิดีโอ โดยหลักแล้วดำเนินการผ่านช่อง YouTube และเว็บไซต์ของตนเอง
ถูกก่อตั้งขึ้นในฐานะช่องข่าวอนุรักษ์นิยม (conservative news channel) ที่มุ่งเน้นเนื้อหาที่สนับสนุนมุมมองฝ่ายขวาในสหรัฐอเมริกา NNN อ้างว่าตนเองเป็น “แหล่งข่าวแรกของ conservatives บน YouTube ที่มียอดวิวกว่า 2 พันล้านครั้งและ subscribers กว่า 2 ล้านคน” และได้รับการรับรอง (credentialed) ให้เข้าทำข่าวที่ทำเนียบขาว
โดย Gary Franchi เป็นผู้ก่อตั้ง ผู้ดำเนินรายการหลัก และเจ้าของแพลตฟอร์ม
Franchi เป็นนักข่าวอิสระและนักวิจารณ์การเมืองที่มีชื่อเสียงในวงการสื่อขวาจัดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกี่ยวข้องกับการผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theories) และการเมืองแบบ populist
NNN เริ่มต้นจากการเป็นช่อง YouTube ที่ออกแบบให้ดูเหมือนรายการข่าวโทรทัศน์ทั่วไป
แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เน้นการวิเคราะห์และรายงานที่เอียงข้างฝ่ายขวาอย่างชัดเจน โดยมักโจมตีสื่อกระแสหลัก (mainstream media) ว่าเป็น “fake news” หรือ “propaganda” ของฝ่ายซ้าย เสรีนิยม
จากข้อมูลล่าสุดในปี 2025 NNN มีการขยายตัวไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น X (เดิมคือ Twitter) โดยมีบัญชีหลัก @NextNewsNetwork ที่มีผู้ติดตามกว่า 144,000 คน และได้รับการยืนยัน (blue verified)
บัญชีนี้มักโพสต์ thread ยาวๆ เพื่อโปรโมทเนื้อหาของตนเอง โดยอ้างว่าตนเองนำเสนอ “ข่าวจริง” ที่สื่อหลักปกปิด เช่น การวิจารณ์นโยบายของพรรคเดโมแครตหรือการสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เจ้าของและโครงสร้างองค์กร
Gary Franchi เป็นบุคคลหลักที่เกี่ยวข้องกับ NNN โดยตรง
เขาเป็นนักธุรกิจสื่อและนักวิจารณ์การเมืองที่เคยผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิด เช่น การกล่าวหาว่าบางเหตุการณ์ทางการเมืองถูกปกปิดโดยรัฐบาล ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างบริษัทหรือผู้ถือหุ้นอื่นๆ
แต่ NNN ถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายสื่อขวาจัดที่อาจเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Natural News (ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่โปรโมทเนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาพทางเลือกและทฤษฎีสมคบคิด)
แหล่งข้อมูลบางแห่งระบุว่า NNN ไม่มีความโปร่งใสในเรื่องเจ้าของและแหล่งทุน โดยรายได้หลักมาจากโฆษณาบน YouTube การบริจาค และการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาอนุรักษ์นิยม
อคติ (Bias) และลักษณะเนื้อหา
NNN ถูกจัดประเภทโดยองค์กรตรวจสอบสื่อหลายแห่งว่าเป็นแหล่งข่าวที่มี “อคติฝ่ายขวาจัดสุดโต่ง” (Extreme Right Biased)
เนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งโปรโมทมุมมองอนุรักษ์นิยมแบบสุดโต่ง การเมือง populist และทฤษฎีสมคบคิด
เช่น การกล่าวหาว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนหรือฮิลลารี คลินตันเกี่ยวข้องกับการสมคบคิดใหญ่โต หรือการวิจารณ์นโยบายผู้อพยพ (immigration) ของฝ่ายเดโมแครตว่าเป็น “การบุกรุก” ที่ถูกปกปิดโดยสื่อหลัก
NNN มักนำเสนอเนื้อหาที่ผสมผสานข่าวจริงกับการวิเคราะห์ที่เอียงข้าง โดยใช้ภาษาที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น การเรียกสื่ออื่นว่า “เครื่องจักร propaganda” หรือการอ้างว่าตนเองเป็น “ผู้เปิดโปงความจริง” ที่ถูกเซ็นเซอร์
จากข้อมูลในปี 2025 NNN ยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในระดับนานาชาติ
เช่น ในกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีโพสต์บน X ที่ระบุว่า NNN ถูกจ้างโดยรัฐบาลกัมพูชาเพื่อผลิต “fake news” โจมตีไทย ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการข้อมูล (information operation หรือ IO) เพื่อสร้างความขัดแย้ง
นอกจากนี้ Franchi ถูกกล่าวถึงในโพสต์ว่าเป็น “นักข่าวอิสระที่มีอิทธิพล” ที่อาจใช้ช่องทางของตนเพื่อสอบถามหรือรายงานตรงถึงทำเนียบขาวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ความน่าเชื่อถือ (Credibility) และการตรวจสอบข้อเท็จจริง
องค์กรตรวจสอบสื่ออย่าง Media Bias/Fact Check จัด NNN เป็น “แหล่งข่าวที่น่าสงสัย” (Questionable Source) เนื่องจากมีการเผยแพร่ propaganda ฝ่ายขวา ทฤษฎีสมคบคิด และข้อมูลที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง โดยมีคะแนนความน่าเชื่อถือต่ำ (Low Credibility) และล้มเหลวในการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Failed Fact Checks) หลายครั้ง เช่น
• การกล่าวหาว่า Ilhan Omar อาจถูกจำคุก 40 ปีและเนรเทศ (False)
• การกล่าวหาว่านายกเทศมนตรี San Juan ถูกจับกุมเพราะยักยอกเงินบรรเทาภัยพิบัติ (False)
• การกล่าวหาว่าฮิลลารี คลินตันเป็นโรคพาร์กินสันจากภาพและวิดีโอ (False)
• การกล่าวหาว่าไบเดน โอบามา และคลินตัน “สั่งประหาร” Seal Team 6 (No Evidence)
NNN ยังถูกจัดอยู่ในรายชื่อเว็บไซต์ fake news บน Wikipedia โดยถูกระบุว่าเป็นแหล่งที่ผสมเนื้อหาจากสื่อหลัก (เช่น Associated Press) กับเนื้อหาที่บิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
นอกจากนี้ ในปี 2023 YouTube เคยถูกกล่าวหาว่าเซ็นเซอร์ NNN โดยการถอดรายได้ (demonetize) ช่อง ซึ่ง NNN อ้างว่าเป็นการโจมตีทางการเมือง แต่แหล่งอื่นๆ ระบุว่าเป็นเพราะละเมิดนโยบายเกี่ยวกับข้อมูลเท็จ
อย่างไรก็ตาม NNN มีฐานผู้ติดตามที่ภักดีในกลุ่มอนุรักษ์นิยม โดยอ้างว่าตนเองเป็น “สื่อทางเลือก” (alternative media) ที่ต่อต้าน “bias” ของสื่อกระแสหลัก เช่น CNN ซึ่งพวกเขามักวิจารณ์ว่าไม่มี credibility
แต่จากมุมมองที่สมดุล แหล่งข้อมูลจากองค์กรกลางๆ อย่าง Pew Research หรือ Ad Fontes Media ยืนยันว่าสื่ออย่าง NNN มักเน้นเนื้อหาที่กระตุ้นความขัดแย้งและอาจนำไปสู่ misinformation โดยเฉพาะในหัวข้อการเมืองและทฤษฎีสมคบคิด
⭕️ สรุปและข้อสังเกต
NNN เป็นตัวอย่างของสื่อทางเลือกฝ่ายขวาจัดที่เติบโตบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
มีจุดเด่นคือการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากผ่าน YouTube และ X แต่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องอคติ ความไม่โปร่งใส และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้ตรวจสอบจากแหล่งที่หลากหลาย เช่น Media Bias/Fact Check หรือ Wikipedia เพื่อหลีกเลี่ยง echo chambers
สำหรับเนื้อหาล่าสุดในปี 2025 NNN ดูเหมือนจะขยายการมีส่วนร่วมไปยังประเด็นนานาชาติ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการปรับตัวเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือ propaganda !
ข้อมูลโดย : Grok AI”