มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 28 สิงหาคม 2568 เวลา 22.36 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 เพื่อนำข้อเสนอส่งให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป และ5.นายรอมาฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอ เรื่องขอให้สภาฯตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกและทางทะเล MOU 43 และ44
จากนั้นนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เนื่องจากวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน มีการประสานงานกันเรียบร้อยแล้ว ทางรัฐบาลม่ขัดข้องในการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่จะมาคุยกันในสภาฯ อ่างไรก็ตามเนื่องจากญัตติดังกล่าวเป็นความละเอียดอ่อน เป็นความมั่นคงของประเทศ และกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นขอให้เป็นการประชุมลับ
ทำให้น.ส.แนน ลุกขึ้นแย้งว่า การที่นานวัชระพล อ้างว่ามีการตกลงกันแล้วระหว่างวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล ซึ่งจริงแล้วไม่ใช่ของสัปดาห์นี้ เราไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ เท่าที่ตนได้ประสานกับเลขาฯ วิปรัฐบาล ได้บอกว่าวันนี้เราจะมีการพิจารณาญัตติในประเด็น MOU 43 และ44 และไม่ได้คุยในประเด็นอื่นๆ หลังจากนี้ เพระาฉะนั้นวันนี้ถ้าจะมาอ้างว่ามีการตกลงกันแล้ว ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการประขุมลับ หรืออะไรก็ตามเป็นการพูดคุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การทำตามข้อตกลงทุกอย่าง ท่านคว่ำไปเอง ท่านปิดประชุม เมื่อปิดประชุมแล้ว ดิฉันถือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้เราคุยกันเรื่องการพิจารณษญัตติ และขณะนี้มีผู้เสนอญัตติ อีก 4 ท่าน หากถามเฉพาะผู้เสนอญัตติ ดิฉันมั่นใจว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นความลับ MOU 43 และ44 มีมาทั้งหมด 24-25 ปีแล้ว มีการพูดคุยเนื้อหาในวงกว้างมานานมากแล้ว ช่วงนี้ก็มีการพูดคุยกัน ดังนั้นดิฉันไม่เห็นด้วยให้ประชุมลับ” น.ส.แนน กล่าว
นายวัชระพล กล่าวว่า ขออภัยฝ่ายค้าน อาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ดังนั้นตนขอแก้ไขคำพูดตัวเองว่ารัฐบาลไม่ขัดข้องในการเสนอญัตติ แต่สัปดาห์นี้อาจจะไม่ได้ประสานงานระหว่างฝ่านค้านกับรัฐบาล เป็นการประสานงานสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในสัปดาห์นี้ไม่ขัดข้องให้เสนอญัตติด่วน แต่ยืนยันให้ประชุมลับ แต่เพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ในช่วงเวลาที่เสอนญัตติ ช่วงเสนอญัตติอาจไม่เป็นการประชุมลับก็ได้ แต่ช่วงเวลาที่เข้าสู่การอภิปรายขอให้เป็นการประชุมลับ
ทำให้นายไชยา ชี้แจงถึงความผิดพลาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอมรับว่าตนในฐานะที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ตนไม่ได้ทราบข้อตกลงของการคุยกันระหว่างวิปทั้งสองฝ่ายเลย ดังนั้นการปิดประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดีสำหรับสภาฯ โดยเฉพาะเรื่องการถกปัญหาสำคัญของบ้านเมือง ก็ต้องยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดในการประสานงานจริงๆ และตนอยากจะเห็นสมาชิกทั้งสองฝ่าย เรามีสภาฯที่เป็นเวทีในการที่จะถกปัญหาของบ้านเมือง เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก และตนก็พร้อมที่จะเป็นประธานในที่ประชุมและให้ความร่วมมือกับสมาชิกทุกฝ่าย และขอให้เป็นมติ และข้อตกลงร่วมกันของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
จากนั้นสส.พรรคภูมิใจไทย และพรรคฝ่ายค้าน ไม่ยอมที่จะให้เป็นการประชุมลับ เพราะอยากฟังเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงอยากให้เป็นประชุมลับ ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยให้เหตุผลไปแล้วว่าไม่สมควรประชุมลับ หากจะเปิดเผยก็ควรจะเปิดเผยทั้งหมด และปัจจุบันทั้ประเทศและทั่วโลก เขาทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยกัมพูชาอยู่แล้ว จึงควรให้ประชาชนได้ยินด้วย อย่าปิดหูปิดตาประชาชนเลย
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล อภิปรายว่า ได้ปรึกษาหารือกับฝั่งรัฐบาลทั้งหมด และพรรคประชาชนก็หารือกัน เห็นว่าการจะเปิดโอกาสให้ผู้เสนอ ได้สนอโดบเปิดเผย สามารถเปิดเผยได้ แต่การอภิปรายของสมาชิกทั้งหมดอาจไปกระทบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเจรจาหลายอย่าง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำลังทำหน้าที่อยู่ ตนเชื่อว่า การพูดออกไปทั้งหมด เราไม่สามารถควบคุมผู้พูดได้ ว่าจะพูดในแนวไหน พลาดพิง หรือเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ก็จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ก็ให้ประชุมลับ
เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปราย ว่า นักการเมืองมีอิสระเสรีพูดได้ทุกเรื่องไม่ควรมีข้อจำกัด แต่มี2เรื่องให้ระวัง ต้องใช้วุฒิภาวะระดับสูง คือ เรื่องความมั่นคง และการแบ่งแยกฝ่ายค้านกับรัฐบาล สำหรับความมั่นคงเหตุผลที่ต้องใช้วุฒิภาวะ แม้เป็นความจริงที่ควรให้ประชาชนรู้ แต่ต้องดูระยะเวลาไม่ใช่ให้รู้ทุกอย่างเหมือนฝ่ายทำงาน ทไม่ใช่ปิดหูปิดตา แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์หากอยู่ในกรอบเอ็มโอยูอย่างเดียวไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าการอภิปรายจะมีอารมณ์ และเกินจากสาระ
“เป็นเรื่องเปราะบาง และอ่อนไหว เพราะหากให้ฝ่ายกัมพูชารู้ หากอยากให้เขารู้ทุกเรื่องสามารถประชุมเปิดเผยได้ แต่หากอยากให้คนไทยรู้แต่กัมพูชาไม่ควรรู้ควรเป็นการประชุมลับ อีกทั้งบางเรื่องอาจจะเป็นการยั่วยุ และบางเรื่องอาจขาดอำนาจต่อรอง สำหรับการประชุมลับไม่ใช่เรื่องแปลกหรือทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ยืนยันไม่ใช่การปิดหูปิดตาประชาชนแต่เป็นประโยชน์ประชาชนมากกว่า คววรคุยจำกัดวง เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ที่คุยกันไม่คววรคู่ต่อสู้หรือข้าศึกรู้” นายสุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.ฝ่ายค้าน และ สส.ฝ่ายรัฐบาลต่างมีความเห็นไม่ตรงกันกับวิธีการประชุม ขณะเดียวกันนายวัชระพล ยืนยันให้ประชุมเป็นการลับ ทำให้นายไชยยา วินิจฉัยว่า การเสนอให้ประชุมลับ ต้องมีการรับรองโดยสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 หรือ 123 เสียง โดยผลการรับรองให้ประชุมลับ 198 เสียง อย่างไรก็ที่ประชุมได้ตกลงให้ประชุมลับ ภายหลังจากการเสนอญัตติของผู้เสนอแล้วเสร็จ
จากนั้นผู้เสนอญัตติทั้ง 5 ญัตติ ได้เสนอเหตุผลในการยื่นญัตติด่วนครั้งนี้ -สำนักข่าวไทย