ACG ครึ่งปีแรกกำไรปัง! Fast Fit หนุนโตแรง

หุ้นวิชั่น - ACG โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 68 กำไรพุ่ง 39% แตะ 17.16 ล้านบาท แม้รายได้รวมลด 13.8% จากยอดขายรถ-อุปกรณ์ตกแต่งวูบ แต่หนุนด้วยธุรกิจบริการและอะไหล่โต 10% พร้อมธุรกิจ Fast Fit แรงต่อเนื่อง รายได้เพิ่ม 11.8% อัตรากำไรขั้นต้นกระโดด 4.83% สะท้อนศักยภาพทำกำไรดีขึ้น

ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (“ACG” หรือ “บริษัท”) และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัท”) มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 จำนวน 17.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.40 จาก 12.31 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/2568 จำนวน 6.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.85 จาก 5.20 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 สำหรับอัตรากำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 และไตรมาส 2/2568 เท่ากับร้อยละ 2.46 และร้อยละ 2.08 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.94 และร้อยละ 0.69 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567

กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 จำนวน 697.76 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.81 จาก 809.53 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส มีรายได้รวมไตรมาส 2/2568 จำนวน 310.27 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.96 จาก 373.62 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 เนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการลดลงร้อยละ 13.58 ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากส่วนงานจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งลดลง 137.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.62 และเมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส มีรายได้จากการขายและการให้บริการลดลงร้อยละ 16.51

อย่างไรก็ตาม สำหรับส่วนงานบริการและจำหน่ายอะไหล่ มีรายได้สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้น 30.86 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.14 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีจำนวน 664.54 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.48 จาก 777.10 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส มีค่าใช้จ่ายรวมไตรมาส 2/2568 จำนวน 296.46 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17.41 จาก 358.96 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนขายที่ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของรายได้จากการขาย และกลุ่มบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.49 เมื่อเปรียบเทียบกับ 6 เดือนแรกปี 2567 สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น

ภาพรวมผลการดำเนินงาน ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์มีรายได้รวมสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 602.95 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.81 โดยเมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส มีรายได้รวมไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 263.96 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.67 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้จากส่วนงานจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง จากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลงร้อยละ 25.41 รวมทั้งปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อของสถาบันการเงิน ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์รวมในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนงานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอะไหล่ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมีรายได้สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 และไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.45 และร้อยละ 13.28 ตามลำดับ โดยสรุป ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 17.77 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.27 เมื่อเปรียบเทียบกับ 6 เดือนแรกปี 2567

ในส่วนของธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อประเภทเร่งด่วน (“Fast Fit”) มีรายได้รวมสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 101.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.84 โดยเมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส มีรายได้รวมไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 49.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.27 สาเหตุหลักมาจากรายได้ต่อคันของรถเข้ารับบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.68 สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลของกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้ต่อคันและการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2568 ธุรกิจ Fast Fit มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 15.69 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.83 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น