HANN ปลื้ม! เทรดวันแรกเหนือจอง 28.57% ปักธงรายได้ปี 68 เติบโต 2 ดีจิต พร้อมลุยขยายรพ.รองรับผู้ป่วยตปท.
คุณประภาศรี สุฉันทบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN เปิดเผยว่า ปลื้ม! บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ด้วยราคาเหนือจองที่ 0.90 บาท จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 0.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 28.57%
อีกทั้งบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 68 เติบโต 2 หลัก หลังช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำผลประกอบการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมแย้มแผนขยายฐานผู้ป่วยประเทศลาวมากขึ้น ควบคู่กับศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายโรงพยาบาลเพิ่มเติมในอนาคต
โดยภายหลังการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างอาคาร 3 ชั้นของโรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์ เนชั่นแนล จำนวน 47 ล้านบาท ภายในปี 2569-2571 ,โครงการสร้างอาคารโรงพยาบาลเพิ่ม 2 อาคาร และลงทุนอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญในโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ จังหวัดยโสธร จำนวน 65 ล้านบาท ภายในปี 2568-2569
นอกจากนี้การขยายโรงพยาบาลเพิ่มเติม จะช่วยดันสัดส่วนค่าใช้จ่ายผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนผู้ป่วยเงินสด 73% โครงการภาครัฐฯ 27% รวมถึงช่วยดันสัดส่วนผู้ป่วยไทยและต่างชาติมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนคนไทย 77% ลาว 17% กัมพูชา 4% และอื่นๆ 2%
“ดิฉันมั่นใจพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ โดยในแง่ของเป็น 1 ในเครือโรงพยาบาลชั้นนำแห่งลุ่มน้ำโขงหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เราได้รับการยอมรับจากผู้เข้ารับบริการมายาวนานกว่า 30 ปี ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อจากนี้บริษัทฯ จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจและมุ่งมั่นในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขภาพที่ดี ของผู้เข้ารับบริการในจังหวัดมุกดาหาร และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างที่ได้ยึดถือเป็นปณิธาณในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลในแรกเริ่ม ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้ถือหุ้นและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อสร้างธุรกิจที่เติบโต อย่างแข็งแรงและยั่งยืน สามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว” คุณประภาศรี กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) “HANN” ประกอบกิจการ โรงพยาบาลเอกชนมากว่า 30 ปี โดยมีโรงพยาบาลในเครือ 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลมุกดาหาร อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดมุกดาหาร โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดยโสธร และ โรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธรมีจำนวนเตียงรวม 148 เตียง ให้บริการการรักษาอย่างครบวงจรครอบคลุมกว่า 16 ศูนย์การแพทย์และคลินิก และมีทีมแพทย์ที่มี ความชำนาญในการรักษาโรคที่ซับซ้อน เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดโรคหัวใจ มะเร็งโรคไต เบาหวาน รวมถึงรักษาโรคทั่วไป โดยให้บริการผู้ป่วยทั้ง 4 กลุ่มคือ 1. กลุ่มลูกค้าเงินสด 2. กลุ่มลูกค้าบริษัทประกันภัย 3. กลุ่มลูกค้าผู้ใช้สวัสดิการภาครัฐ และ 4. ผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศสปป. ลาว โดยโรงพยาบาลของบริษัทยังได้รับรองคุณภาพ และมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 2 จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน)
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ประจำปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) ทำรายได้รวม 236.71 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีรายได้ 240.54 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.67 ล้านบาท คิดอัตราเติบโตเป็น 169.24 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 7.68 ล้านบาท โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่าง ๆ
คุณเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า HANN นับเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดฯ mai ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งทางการเงิน มีประสบการณ์การบริหารธุรกิจ ด้านการแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง มีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ให้บริการการรักษาพยาบาลได้ครบวงจร และมีความเชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคที่ซับซ้อน อีกทั้งมีฐานลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งลูกค้าเอกชน ภาครัฐ ลูกค้าบริษัทประกันภัย และลูกค้าจากต่างประเทศ จึงกระจายความเสี่ยงของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ IPO หุ้นสามัญ ของ HANN จำนวน 160,000,000 หุ้น กล่าวว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อไอพีโอจำนวนมาก เนื่องจากราคาหุ้นที่ 0.70 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด โดยคิดเป็นอัตรา P/E เท่ากับ 11.36 เท่าซึ่งต่ำกว่ากลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 15 เท่าและเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาพาร์ที่หุ้นละ0.50 บาท ผู้ถือหุ้นเดิมได้ล็อคอัพหุ้น ทั้งหมด 96 % โดยล็อคหุ้นเพิ่มจากที่ต้องติดตามเกณฑ์ร้อยละ 55 จำนวน 308 ล้านหุ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี และล็อคหุ้นเดิมที่ไม่ติดเกณฑ์ล็อคหุ้นอีก 76 ล้านหุ้นจาก 92 ล้านหุ้น ไม่สามารถซื้อขายได้เป็นเวลา 1 เดือน อีกด้วย