OKJ ยอดขายหด กดกำไร Q2 วูบ 60%

หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/68 ยังคงเผชิญกับแรงกดดันและความท้าทายหลายด้าน ทั้งสงครามการค้า ภาคการท่องเที่ยว และความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคงตามแนวทางกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมการปรับตัวเชิงรุกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 685.0 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 21.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 และปี 2568 ของแบรนด์โอ้กะจู๋รวมสุทธิ 9 สาขา แบรนด์โอ้ จู๊ซ รวมสุทธิ 22 สาขา และการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โจ วิงส์ 1 สาขา

ในขณะที่อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG คำนวณจากแบรนด์โอ้กะจู๋ จำนวน 29 สาขา) อยู่ที่ร้อยละ -22.1 สาเหตุหลักจากการลดลงของยอดขายสาขาในเมืองและสาขาในโซนที่มีการแข่งขันสูง ฐานเปรียบเทียบที่สูงจากปีก่อน และผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวช่วงปลายเดือนมีนาคมซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังเดือนเมษายน นอกจากนี้ บริษัทฯ ปิดซ่อมบำรุงร้านโอ้กะจู๋สาขาเดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นสาขาที่มียอดขายติดอันดับต้นเป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่นที่ 6 พ.ค.- 6 มิ.ย. รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่อก าลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง

บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 300.0 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 19.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 43.8 ปรับตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อน

กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ 93.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 22.3 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 60.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากยอดขายที่น้อยกว่าคาดจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ในขณะที่บริษัทฯ ยังต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่

บริษัทฯ รายงานรายได้จากการขายงวดหกเดือน ปี 2568 อยู่ที่ 1,393.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 27.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 และปี 2568 ของแบรนด์โอ้กะจู๋รวมสุทธิ 9 สาขา แบรนด์โอ้จู๊ซรวมสุทธิ 22 สาขา และการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โจ วิงส์ 1 สาขา

นอกจากนี้ อเมซอนได้สั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการขยายช่องทางการขายใหม่ ได้แก่ ร้านวนัสนันท์สาขาสนามบินเชียงใหม่ 1 สาขา ทำให้มีช่องทางรายได้ใหม่เพิ่มขึ้น

ในขณะที่อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG คำนวณจากแบรนด์โอ้กะจู๋จำนวน 29 สาขา) อยู่ที่ร้อยละ -16.3 สาเหตุหลักจากการลดลงของยอดขายสาขาในเมืองและสาขาในโซนที่มีการแข่งขันสูง ฐานเปรียบเทียบที่สูงจากปีก่อน และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังเดือนเมษายน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ปิดซ่อมบำรุงร้านโอ้กะจู๋สาขาเดอะเซอร์เคิล ซึ่งเป็นสาขาที่มียอดขายติดอันดับต้น เป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. – 6 มิ.ย. รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง

บริษัทฯ รายงานกำไรสุทธิงวดหกเดือน ปี 2568 อยู่ที่ 87.5 ล้านบาท ลดลง 14.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 6.2 ลดลงร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากแรงกดดันของต้นทุนค่าแรง ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่าไตรมาส 2/68 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว คาดว่าจะฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จากกลยุทธ์ใหม่ ๆ และอานิสงส์ของ High Season