AOT เสี่ยงร่วง! หลังไฟเขียว “คิง เพาเวอร์” ขยายจ่ายเงิน 3 สัญญาดิวตี้ฟรี 6 สนามบิน
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2568 ว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภาวะขาดสภาพคล่อง จากวิกฤตเศรษฐกิจและผลกระทบต่อเนื่องหลังโควิด-19 รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่ทั่วโลกให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
สำหรับโครงการดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยรักษาฐานผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบินที่มีศักยภาพ แต่ประสบภาวะขาดสภาพคล่อง ณ ท่าอากาศยานในสังกัดทั้ง 6 แห่งของ ทอท.
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวครอบคลุมสัญญาสัมปทาน 3 ฉบับ ได้แก่ 1. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) 2. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และ และ 3. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า ปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
โดยให้ KPD แบ่งชำระและเลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ออกไปอีกงวดละ 8 เดือน สำหรับงวดดังต่อไปนี้
สำหรับสัญญาสัมปทานทั้ง 3 ฉบับที่ดำเนินกิจการอยู่ในท่าอากาศยานของ ทอท. โดยเริ่มจากสัญญาจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ที่สามารถเลื่อนชำระได้ตั้งแต่งวดเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม 2568 ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน ซึ่งอนุญาตให้เลื่อนชำระออกไปได้ 6 เดือนเท่านั้น
สำหรับสัญญาจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จะได้รับสิทธิเช่นเดียวกันในช่วงงวดเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2568 ขณะที่สัญญาจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.), เชียงใหม่ (ทชม.) และหาดใหญ่ (ทหญ.) จะครอบคลุมงวดเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม 2568
ทั้งนี้ KPD จะต้องชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 8.8440 ต่อปี หรือเทียบเท่ากับอัตรา MLR+2 สำหรับยอดเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่เลื่อนชำระในแต่ละงวด โดยต้องชำระเป็นรายเดือนให้แก่ ทอท. ตลอดระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติเลื่อนการชำระ
นอกจากนี้ ทอท.กำหนดให้ KPD นำหลักประกันมาวางเพิ่มเติมรวมมูลค่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมทั้ง 3 สัญญา เพื่อให้ครอบคลุมยอดค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ KPD ได้รับอนุมัติให้เลื่อนชำระ พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
ทอท. ยังย้ำว่า สถานะการเงินของบริษัทฯ ยังแข็งแกร่งและมีสภาพคล่องเพียงพอ รองรับแผนลงทุนในอนาคต โดยการขยายเวลาชำระเงินในครั้งนี้ไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของบริษัท
ทั้งนี้ หากดูผลประกอบการของ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ในช่วงที่ผ่านมา ระหว่างปี 2563-2567 พบว่า ในปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,833.18 ล้านบาท , ในปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 2,814.49 ล้านบาท , ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 3,751.83 ล้านบาท , ในปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 651.51 ล้านบาท และในปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 937.77 ล้านบาท
นักลงทุนจับตาใกล้ชิดต่อแนวโน้มราคาหุ้น AOT หลังข่าวขยายระยะเวลาชำระเงินให้ KPD ซึ่งแม้เป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่ยังสะท้อนแรงกดดันจากสภาพคล่องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ขณะที่ราคาหุ้น AOT ปิดวานนี้ 26 มิ.ย. 68 อยู่ที่ระดับ 31.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือ 2.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.33 พันล้านบาท