เปิดหน้ากระหน่ำฟาดภูมิใจไทย
ดูเหมือนพอสิ้นรักร่วมรัฐบาลกัน “เพื่อไทย” ฟาดฟัน “ภูมิใจไทย” หนักมาก ไม่รู้ว่า เป็นการชำระแค้น ที่ค้างมาตั้งแต่ตอน “มันจบแล้วครับนาย” ในสมัยที่ “กลุ่มเนวิน” ออกไปตั้งพรรคภูมิใจไทย หรือเพราะว่ารัฐบาลเพื่อไทยฉุนที่พรรคภูมิใจไทยขวางหลายเรื่อง ตั้งแต่แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา แถม “อดีตนายกฯแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาจิกกัด “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นระยะๆ ในทำนอง“ถ่วงรัฐบาล” แต่ช่วงแรกๆ ต่างก็ยืนยันไม่มีคลื่นใต้น้ำ
จนกระทั่งชัดว่า ขัดกันจริงๆ เมื่อมีข่าวว่า “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯไปขอเก้าอี้ “มท.1” ถึงกระทรวง แลกกับสาธารณสุข แต่ “เสี่ยหนู” ไม่ยอม จึงยกพรรคภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้าน หลังจากวันนั้น สงครามสาดโคลน สาดวาทกรรมระหว่าง 2 พรรคก็เริ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการทำงานในกระทรวงมหาดไทยนี่เอง ที่ “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย บอกว่า “พอกระทรวงมาอยู่กับเพื่อไทย อะไรๆ ดีขึ้นเยอะ”
ต่อมาก็มีประเด็นให้ครหากระทรวงมหาดไทยในยุค “เสี่ยหนู” เพิ่มอีก ในการประชุม ครม.วันที่ 15 ก.ค.2568 “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย และ“แทน” ชัยชนะ เดชเดโช รมช.สาธารณสุข ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ หรืองบแจกเงินหมื่นเดิม 1.57 แสนล้านบาท ว่า“มันมีการกระจุกบางพื้นที่” ชนิดที่ “นายกชาย” ตอบผู้สื่อข่าวว่า“กระจุกจนน่าเกลียด” โดยยกตัวอย่าง 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ บุรีรัมย์ สตูล
ดูเหมือน “พรรคประชาธิปัตย์” ก็จะร่วมกินโต๊ะภูมิใจไทยด้วย เพราะรัฐมนตรีที่ทักเรื่องงบกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นคนของประชาธิปัตย์ แถมยกตัวอย่างจังหวัดภาคใต้ อาจเป็นการสางรอยแค้นที่พรรคภูมิใจไทยเจาะยางประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้สำเร็จในหลายเขต กระแสของภูมิใจไทยดีในจ.สตูลและกระบี่ และที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์สะท้านได้แรงมาก คือการล้มช้างนางกนกพร เดชเดโช โค่นลงจากเก้าอี้นายก อบจ.นครศรีธรรมราชได้
การตัดขาคู่แข่งออกจากพื้นที่ที่ตัวเองมีฐานเสียงได้ ไม่ว่าพรรคไหนก็ต้องทำ ซึ่งนอกจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ “มท.อ้วน” เหมือนจะจับตางบของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) อีก ว่า “มีการจัดให้แบบกระจุกในบางพื้นที่อีกหรือไม่ ?” ซึ่งขณะนี้งบประมาณปี 69 ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ ก่อนเข้าวาระสอง ..การพูดเช่นนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณให้ กมธ.ในสัดส่วน ครม.และเพื่อไทยตัดลดงบ สถ. หรือ “เล่นแร่แปรธาตุ” แก้ไขปรับโครงการเสียใหม่หรือไม่ ??
ส่วนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ “มท.อ้วน” บอกว่า “ยังสามารถทบทวนได้ เพราะเสี่ยหนูเซ็นเอกสารไม่ตรงกับที่คีย์เข้าระบบ ทำให้สำนักงบประมาณส่งเรื่องกลับมาให้มหาดไทย มีเวลาเหลือที่จะทบทวนเกลี่ยใหม่ เป็นเรื่องของสำนักงบประมาณ ผมเพียงแค่รับทราบว่าเหมาะสมหรือไม่” และบอกว่า อย่าไปพูดว่าเป็นการสแกนงบในพื้นที่ภูมิใจไทย เดี๋ยวจะมาหาว่าโจมตีกัน..ก็คงเป็นจริตทางการเมือง ที่ไม่พูดกันตรงๆ หรอกว่า “จะฟาดฟันกัน”
ล่าสุด “เสี่ยหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ก็เหน็บให้อีกว่า “การเปลี่ยนการใช้เงินผ่าน ครม. ซึ่งนายอนุทิน ขณะนั้นเป็น รมว.มหาดไทย ก็เห็นชอบด้วย” และยังบอกว่า งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่อดีต รมว.มหาดไทย รับรอง มีลักษณะกระจุกตัวผิดสังเกต ในพื้นที่บางพรรคการเมือง หลายแห่งพบคำของบสูงเกินจริง ขอตู้กดน้ำราคาสูงถึง 500,000 บาทต่อเครื่อง รวมกว่าหมื่นล้านบาท เสนอพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย เรื่องตู้กดน้ำนี่อาจทำให้ใครบางคนเสียจริตได้ ”
ด้านพรรคภูมิใจไทยส่ง “แนน” บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรค มาโต้ในส่วนงบกระตุ้นเศรษฐกิจว่า หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติไปมีแค่ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงคมนาคม กรมทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน ยังไม่มีท้องถิ่นได้รับการจัดสรร ทุกหน่วยงาน และเมื่อเข้า ครม. ทั้งนายภูมิธรรมและนายเดชอิศม์ ก็ต้องเห็นมาก่อน ใครเป็นฝ่ายแค้น หรือเป็นฝ่ายไหนกันแน่ ทำไมถึงมาพาดพิงกันแต่ทางเรา แบ่งกันไม่ทั่วถึง ไม่ลงตัวหรือไม่ จึงออกมาโวยวายคนที่ไม่ได้อนุมัติงบ
“ภูมิใจไทย” ยังมีวิบากกรรมปมฮั้วเลือกตั้ง สว. ที่ล่าสุด อนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 สรุปสำนวนส่งไปยังรองเลขาธิการ กกต. กล่าวหาดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 229 ราย ได้แก่ สว. จำนวน 138 ราย กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และเครือข่ายของพรรค จำนวน 91 ราย กระทำการเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. และอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ความผิดอาจถึงยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคตามมาอีก
จากนี้ไปคาดว่า“ภูมิใจไทย” คงต้องเจอวิบากกรรมอีกหลายเรื่องและต้องจับตาว่าจะ “แก้เกม - เอาคืน” อย่างไร??