โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"อินโดนีเซีย"ชี้ได้เปรียบชาติอาเซียน ดีล"ภาษีทรัมป์"เหลือ 19% มั่นใจต่ำสุดในภูมิภาค

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
“อินโดนีเซีย” ชี้ได้เปรียบชาติอาเซียน ดีลภาษีทรัมป์เหลือ 19% อ้างต่ำสุดในภูมิภาค

"บูดี ซานโตโซ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของอินโดนีเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันพุธ (16 กรกฏาคม 2568) หลังเสร็จสิ้นการประชุมกับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าว่า อินโดนีเซียถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน และเขาพอใจอัตราภาษีที่ 19% เชื่อจะทำให้อินโดนีเซียได้เปรียบในการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ พร้อมกล่าวย้ำว่าในอาเซียน เรามีอัตราภาษีที่ต่ำที่สุด

รัฐมนตรีการค้ายังเปิดเผยอีกว่า ก่อนการเจรจาภาษีกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ รัฐบาลอินโดนีเซียได้เตรียมมาตรการเพื่อการบรรเทาหรือลดหย่อน โดยอินโดนีเซียได้ลิสต์รายการสินค้า 10 อันดับแรกที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพื่อบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย พร้อมย้ำอีกว่า อัตราภาษีที่ 19% ยังถือว่าน่าพอใจ เพราะทำให้อินโดนีเซียมีโอกาสเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้น

พร้อมกล่าวเสริมว่า "จนถึงตอนนี้ การส่งออกของเรายังคงทำได้ดี หากเราสามารถรักษาอัตราภาษีนี้ไว้ได้จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นั่นหมายความว่าโอกาสของเราในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ จะยิ่งมากขึ้น”

นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมกับคณะกรรมาธิการฯ รัฐมนตรีการค้ายังเผยด้วยว่า ข้อตกลงระหว่างอินโดนีเซียและสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่เรื่องการเข้าถึงตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนด้วย โดยสหรัฐฯ จะลงทุนในหลายภาคส่วนของอินโดนีเซีย เช่น ภาคพลังงาน แต่อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียไม่ได้กล่าวถึงสิงคโปร์ ซึ่งถูกสหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีพื้นฐาน (Baseline Tariff) ที่ 10% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในกลุ่มชาติอาเซียนที่แท้จริง

ก่อนหน้านี้ ทางการอินโดนีเซียได้ประกาศว่ารัฐบาลได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว ในวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังการเจรจาที่ยืดเยื้อและเข้มข้น ส่งผลให้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียในอัตรา 19% จากเดิม 32%

โฆษกของ "ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต" ผู้นำอินโดนีเซีย ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า นี่เป็นความพยายามที่ยอดเยี่ยมของทีมเจรจา ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจ พร้อมเสริมว่า ข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นจุดลงตัวที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ โดยอัตราภาษีที่อินโดนีเซียได้รับนั้นต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน

พร้อมเปิดเผยว่า ผู้นำอินโดนีเซียได้ต่อสายตรงพูดคุยกับ"ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำแห่งสหรัฐฯ และเตรียมแถลงข่าวทันทีที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ

ด้านประธานาธิบดีปราโบโวระบุผ่านทางอินสตาแกรมว่า อินโดนีเซียและสหรัฐฯ เห็นพ้องก้าวสู่ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ทางการค้า ภายหลังการหารือทางโทรศัพท์ที่เป็นไปอย่างดี

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ อินโดนีเซียได้ให้คำมั่นว่าจะซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และเครื่องบินโบอิ้ง 50 ลำ ซึ่งหลายลำเป็นรุ่น 777

สำหรับโครงสร้างข้อตกลงการค้าในครั้งนี้นับว่าคล้ายคลึงกับข้อตกลงที่สหรัฐฯได้เคยลงนามเบื้องต้นกับเวียดนาม ซึ่งกำหนดให้สินค้าที่ส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังอินโดนีเซียจะได้รับการยกเว้นทั้งภาษีและอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี หรือภาษี 0% และเป็นครั้งแรกที่เกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ และชาวประมงของสหรัฐฯ จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรกว่า 280 ล้านคนอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันยังมีมาตรการป้องกันกรณีมีการลักลอบนำเข้าสินค้าจีนผ่านอินโดนีเซียด้วย

นักวิเคราะห์มองว่า 19% อย่างน้อยก็ยังดีกว่า 32% แม้สินค้าส่งออก เช่น รองเท้าและสิ่งทอ อาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่หมวดพลังงานและเกษตรน่าจะได้ประโยชน์เต็มที่ ส่วนเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียก็คงพอใจ เพราะอยู่ในกลุ่มประเทศที่ทรัมป์พอใจ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจอินโดนีเซียยังอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ หรือภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่ออินโดนีเซียที่ 32% ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 กรกฎาคม 2568 ) ส่งผลให้อัตราภาษีดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ 19% โดยจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ปัจจุบันนี้ เวียดนามและฟิลิปปินส์อยู่ที่ 20% มาเลเซียและบรูไน 25% ไทยและกัมพูชา 36% เมียนมาและลาว 40%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

ตาเหลือก กระตุก เกร็ง ผีเข้าหรืออาการโรคลมชัก ?

12 นาทีที่แล้ว

Hyundai เปิดตัว IONIQ 9 รุ่นใหม่ พร้อมโดรนปลูกป่า ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติ

26 นาทีที่แล้ว

“แทอิล” สู้ต่อ ตัดสินใจยื่นอุทธรณ์หลังถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่ง ในคดีข่มขืน

55 นาทีที่แล้ว

แค่ตัดผมสามารถติดเชื้อ HIV ได้ไหม?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ประชุม คกก. คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร เห็นชอบ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเก็บรักษาและแปรรูปลำไยด้วยการอบแห้งหรือรมด้วยก๊าซซันเฟอร์ไดออกไซด์

สวพ.FM91

Broker ranking 17 Jul 2025

Manager Online

“ทักษิณ” อุบชื่อผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ยืนยันเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

PostToday

“ทักษิณ” ชี้ไทยยังไม่ไปไหนติดหล่มปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ

การเงินธนาคาร

BBL อวดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโต 9.5% แตะ 24,458 ล้าน

PostToday

‘ทักษิณ’ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย ผุดใช้คริปโตซื้อของได้ ฝึกเทรนเอไอให้คนไทย

เดลินิวส์

ONYX ปรับอิมเมจโรงแรม “อมารี” ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่แตกต่าง

Manager Online

“Robinhood RETURN” ส่งต่อภารกิจรักษ์โลกกับ 5 ร้านอร่อย

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดีล"ภาษีทรัมป์" ลุ้นไทยเทหมดหน้าตัก?

TNN ช่อง16

"ไทย"จ่อเสนอดีลใหม่"สหรัฐฯ" ให้นำเข้าภาษี 0% เพิ่มอีกหลายรายการ เตรียมเยียวยากลุ่มรับผลกระทบ

TNN ช่อง16

'บีโอไอ' คลอด 5 มาตรการรับมือภาษีทรัมป์

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...