ผ่าอาณาจักร “คิงเพาเวอร์” หลังซมพิษศก. ปิดดิวตี้ฟรีดาวน์ทาวน์
กรณีของบริษัท “คิงเพาเวอร์” เตรียมปิดธุรกิจดิวตี้ฟรีในเมือง 3 สาขา กลายเป็นประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจในสังคมอย่างกว้างขวาง หลังจาก นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิงเพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ออกมายืนยันว่า การปิดธุรกิจดิวตี้ฟรีในเมือง (ดาวน์ทาวน์) จะเริ่มในเดือนกันยายน 2568 นี้เป็นต้นไป ทั้ง คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ศรีวารี , คิงเพาเวอร์ พัทยา และ คิงเพาเวอร์ มหานคร
โดยเหตุผลสำคัญนั่นคือ การลดรายจ่าย เพื่อประคองธุรกิจ ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งซีอีโอคิงเพาเวอร์ ยอมรับว่า ดิวตี้ฟรี ดาวน์ทาวน์ มีรูปแบบการบริหารจัดการที่แตกต่างไปจากดิวตี้ฟรีสนามบิน เพราะต้องบริหารจัดการกับทัวร์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับตัวภายใต้การแข่งขันที่เปลี่ยนไปและยังเปิดให้พนักงานสมัครใจออกในทุกสาขาด้วย
สำหรับการดำเนินธุรกิจของ “คิงเพาเวอร์” นั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ทั้งการประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย หรือดิวตี้ฟรีในสนามบิน และยังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ของประเทศอังกฤษ ซึ่งการดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้ร่มใหญ่ นั่นคือ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ของครอบครัว “ศรีวัฒนประภา”
สำหรับข้อมูลกรรมการบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ก.ค. 68) มีรายชื่อกรรมการ 6 คน ประกอบด้วย นายสมบัตร เดชาพานิชกุล, นางเอมอร ศรีวัฒนประภา, นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, นางสาววรมาศ ศรีวัฒนประภา, นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา และนางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา
โดยได้ปรับเปลี่ยนประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียนแรกเริ่ม นั่นคือ กิจกรรมที่เกี่ยวกับคลังสินค้าและการจัดเก็บสินค้าอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยมีวัตถุประสงค์เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากรเพื่อเก็บ แสดง และจำหน่ายสินค้าปลอดอากรสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาออกในเมือง มาเป็นกิจกรรมของบริษัทโฆษณา มีวัตถุประสงค์ในการติดตั้งป้าย ตู้โฆษณา ในท่าอากาศยาน ในปีที่ส่งงบการเงินปี 2567 แทน
ขณะที่งบการเงินนำส่งของ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในปี 2567 พบว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวม 69,370 ล้านบาท หนี้สินรวม 62,066 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 1,969 ล้านบาท รายจ่ายรวม 3,172 ล้านบาท และผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 3,343 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาผลประกอบการย้อนหลังไป 5 ปีตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงของการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องสองปี นั่นคือปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 4,472 ล้านบาท และปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 2,573 ล้านบาท ก่อนจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 2,200 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ในปี 2565-2566 ตามลำดับ แต่หลังจากนั้นในปี 2567 บริษัทก็ต้องขาดทุนครั้งใหญ่อีกครั้งในวงเงินสูงถึง 3,343 ล้านบาท
ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบข้อมูลการดำเนินธุรกิจของบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผ่านระบบวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจรของ Creden Data ยังพบว่า คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ถือใหญ่ใน 6 บริษัทหลัก และ 5 บริษัทย่อย รวมมูลค่าการถือหุ้นกว่า 12,439 ล้านบาท ดังนี้
1.บริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด สัดส่วน 100% ประกอบกิจการการบริการอื่น ๆ ส่วนบุคคลซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยงบการเงินล่าสุดปี 2567 มีรายได้รวม 1,953 ล้านบาท รายจ่ายรวม 2,517 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 800 ล้านบาท
2.บริษัท คิง เพาเวอร์ โฮเทล เมเนจเมนท์ จำกัด สัดส่วน 99.99% ดำเนินกิจกรรมโรงแรมและภัตตาคาร มีรายได้รวม 835 ล้านบาท รายจ่ายรวม 687 ล้านบาท กำไรสุทธิ 88 ล้านบาท
3.บริษัท คิง เพาเวอร์ เอวิเอชั่น จำกัด สัดส่วน 90% ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร ไปรษณีย์ สิ่งของและพัสดุทางอากาศ มีรายได้รวม 365,229 บาท รายจ่ายรวม 77,599 บาท กำไรสุทธิ 287,630 บาท
4.บริษัท คิง เพาเวอร์ คลิก จำกัด สัดส่วน 90% ประกอบกิจการการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต มีรายได้รวม 295 ล้านบาท รายจ่ายรวม 640 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 410 ล้านบาท
5.บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สัดส่วน 67.78% ประกอบกิจการร้านค้าขายปลีกและร้านค้าปลอดภาษีอากร มีรายได้รวม 26,625 ล้านบาท รายจ่ายรวม 24,724 ล้านบาท กำไรสุทธิ 486 ล้านบาท
6.บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด สัดส่วน 59.99% ประกอบกิจการการขายปลีกสินค้าอื่นๆ ในร้านค้าทั่วไป มีรายได้รวม 1,212 ล้านบาท รายจ่ายรวม 1,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 71 ล้านบาท
นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบข้อมูลเฉพาะ บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งประกอบกิจการร้านค้าขายปลีกและร้านค้าปลอดภาษีอากร โดยมีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นด้วยกัน 4 บริษัท ประกอบด้วย
1.บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 100% งบการเงินล่าสุดปี 2567 มีรายได้รวม 40,990 ล้านบาท รายจ่ายรวม 41,290 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 937ล้านบาท
2.บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 100% ถือหุ้นสัดส่วน 100% งบการเงินล่าสุดปี 2567 มีรายได้รวม 4,903 ล้านบาท รายจ่ายรวม 4,251 ล้านบาท กำไรสุทธิ 583 ล้านบาท
3.บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 100% งบการเงินล่าสุดปี 2567 มีรายได้รวม 511 ล้านบาท รายจ่ายรวม 556 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 58 ล้านบาท
4.บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 50% งบการเงินล่าสุดปี 2567 มีรายได้รวม 6,650 ล้านบาท รายจ่ายรวม 6,516 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22 ล้านบาท