กสม.ชี้ ประชาชนขาดส่วนร่วมทำผังเมืองรวมกรุงเทพฯ เข้าข่ายละเมิดสิทธิฯ แนะรับฟังเพิ่มเติมอย่างทั่วถึง
กสม.ชี้ การจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นการละเมิดสิทธิฯ แนะรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างทั่วถึง
วันนี้ (1 ส.ค.)นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสภาองค์กรของผู้บริโภค ประชาชนชุมชนราชครู-อารีย์สัมพันธ์ และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบเขตวัฒนา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ระบุว่า เมื่อปี 2562 กรุงเทพมหานคร (กทม.) รับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ที่จัดทำขึ้นตาม พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อมา พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ กทม.นำร่างผังเมืองรวมข้างต้นมาปรับปรุงและนำเสนอต่อประชาชนโดยไม่มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในขั้นตอนก่อนที่จะมีการจัดทำร่างผังเมืองรวม อีกทั้งไม่ชี้แจงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนในแต่ละพื้นที่อย่างเพียงพอ การจ่ายเงินค่าทดแทนจากการเวนคืนไม่สอดคล้องกับมูลค่าที่ดิน และประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข้อมูลอย่างรอบด้าน เช่น การขยายเขตทางถนนพหลโยธิน ซอย 5 (ราชครู) ถึงถนนพระรามที่ 6 ซอย 30 (อารีย์สัมพันธ์) การขยายเขตทางบริเวณซอยทองหล่อ 13 ต่อเนื่องถึงซอยสุขุมวิท 49/11 และอีกหลายพื้นที่ ซึ่งไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการผังเมือง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองรวม พ.ศ. 2565 เข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน จึงขอให้ตรวจสอบ
กสม. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2562 แม้กทม.จะเผยแพร่ข้อมูลและเชิญชวนให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ทั้งในช่วงก่อนและหลังการจัดทำร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) โดยใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว็บไซต์และป้ายประชาสัมพันธ์ รวมทั้งวิธีการอื่นๆ แต่พบข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนหลายประการ เช่น การใช้เว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานราชการเป็นช่องทางหลักในการประชาสัมพันธ์ การปิดประกาศหรือป้ายประชาสัมพันธ์ในสถานที่ราชการและติดตั้งในจุดที่เป็นสาธารณะเพียงไม่กี่แห่ง การส่งหนังสือให้ประชาชนไม่ครบทุกครัวเรือน และประชาสัมพันธ์ภายใต้เงื่อนระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นภายใต้ พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 รวม 174 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมประมาณ 21,700 คน เท่านั้น ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากรกรุงเทพมหานครที่มีอยู่กว่า 5,470,000 คน ขณะที่มีประชาชนยื่นหนังสือแสดงความคิดเห็นเพื่อให้มีผลเกี่ยวกับสิทธิในการยื่นคำร้องขอให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินกว่า 14,600 คน
เมื่อพิจารณารูปแบบของการจัดรับฟังความคิดเห็น กทม.ใช้วิธีการอธิบายร่างผังเมืองรวมและแต่ละแผนผังโดยใช้ภาษาเชิงเทคนิคและรวบรัดภายในเวลาอันสั้นทั้งที่มีเนื้อหาข้อมูลปริมาณมากและยากต่อการทำความเข้าใจ โดยไม่แสดงหรืออธิบายข้อมูลผลกระทบจากผังเมืองรวมที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน รวมถึงแนวทางแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ทราบอย่างชัดเจน การแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นระหว่างประชาชนกับผู้ถูกร้องจึงเป็นไปอย่างจำกัด อีกทั้ง กทม.ยังไม่ได้สรุปผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นโดยละเอียดและไม่ได้เผยแพร่ผลสรุปการแสดงความคิดเห็นในกรณีที่ประชาชนยื่นแสดงความคิดเห็น รวมถึงไม่มีการเผยแพร่การแสดงความคิดเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวม จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการในประกาศคณะกรรมการผังเมือง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองรวม พ.ศ. 2565 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ในชั้นนี้จึงรับฟังได้ว่า กทม.ดำเนินโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) โดยขาดการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง เป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
กสม. จึงมีมติให้มีข้อเสนอแนะไปยังกรุงเทพมหานคร โดยให้จัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นและหารือกับประชาชนภายหลังจากที่ได้มีการจัดทำร่างผังเมืองรวมแล้วอีกครั้ง เพื่อขยายระยะเวลาการแสดงความคิดเห็น รวมถึงการยื่นคำร้องขอแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยปรับปรุงวิธีดำเนินการเพิ่มเติมทั้งรูปแบบและวิธีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อการวางและจัดทำผังเมืองได้อย่างทั่วถึง และเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับผลกระทบและแนวทางการเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายที่อาจเกิดขึ้น แนวคิดตามหลักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง หลักการในการวางและจัดทำผังเมืองที่ดีตามธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง พ.ศ. 2566 และพ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 พร้อมกันนี้ ให้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนระดับเขตให้ครบทั้ง 50 เขต เพื่อหารือถึงการพัฒนาพื้นที่ในเขตนั้น การประชุมรายกลุ่มสำหรับเขตที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกัน และให้มีการประชุมร่วมกันทั้ง 50 เขต เพื่อหารือถึงการพัฒนาพื้นที่ในภาพรวม โดยให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายจากทุกภาคส่วน และกำหนดเวลาการประชุมรับฟังความคิดเห็นอย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดการอธิบายชี้แจงข้อมูล การตอบข้อซักถาม และการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ให้ กทม.จัดให้มีช่องทางที่หลากหลายสำหรับให้ประชาชนซักถามประเด็นที่ยังสงสัยหรือมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการจัดทำผังเมือง โดยต้องอธิบายชี้แจงตอบข้อซักถามของประชาชนให้เกิดความเข้าใจ และให้เผยแพร่ให้ประชาชนทราบถึงสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นและปรึกษาหารือกับประชาชนภายหลังจากที่ได้มีการจัดทำร่างผังเมืองรวมแล้วให้ครบถ้วนทุกครั้งและครอบคลุมความคิดเห็นจากทุกช่องทาง ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเผยแพร่ให้ความรู้แก่หน่วยงานของรัฐที่จะต้องเป็นผู้วางและจัดทำผังเมืองรวมเกี่ยวกับการดำเนินการให้เป็นไปตามพ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 และประกาศคณะกรรมการผังเมือง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองรวม พ.ศ. 2565 ตามหลักการมีส่วนร่วมและสิทธิของประชาชนที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองไว้ และให้คณะกรรมการผังเมืองดำเนินการแก้ไขปรับปรุงประกาศคณะกรรมการผังเมือง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองรวม พ.ศ. 2565 ข้อ 3 โดยกำหนดให้มีการประชาสัมพันธ์ด้วยวิธีส่งหนังสือราชการให้ประชาชนทุกครัวเรือนในท้องที่ที่จะมีการวางและจัดทำผังเมืองรวมรับทราบ เป็นวิธีการบังคับ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางและจัดทำผังเมืองรวมทุกขั้นตอน
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO