ระทึก นับถอยหลังวัดใจภาษีทรัมป์ ลุ้นสูสีกับคู่ค้า หลังไทยหยุดยิง
จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นำมาซึ่งการบีบคั้นของ มหาอำนาจชาติตะวันตกของ โดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ให้สองประเทศ หยุดยิง โดยหยิบยกเรื่องของอัตรากำแพงภาษีตอบโต้ที่มีเส้นตายวันที่1สิงหาคม2568 มาเป็นเงื่อนไขล่าสุด ได้ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับไทยและกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว จากโฮเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ว่าได้ทำข้อตกลงการค้ากับกัมพูชาและไทย เรียบร้อยแล้ว
จากการประเมินของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองว่าน่าจะได้อัตรา ระหว่าง 17 ถึง19 % หรือใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งขันอย่างเวียดนาม อินโดนีเชียจาก36% อย่างไรก็ตามในมุม เอกชนโดยนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยระบุว่า ผลกระทบภาษีทรัมป์ ประเมินว่าไม่เกิน 20%ซึ่งสูสีกับประเทศคู่แข่งขัน
เช่นเดียวกับดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ อดีตผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ระบุว่า ภาษีทรัมป์เป็นผลกระทบทางอ้อมต่อตลาดอสังหาฯ หากได้รับอัตราที่สูง อาจมีผลต่อภาคส่งออก และมีผลต่อกำลังซื้ออสังหาฯ ตลาดทุนเป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้นจริง ผู้ส่งออกจากไทยและกัมพูชาจะเสียเปรียบคู่แข่งอย่างหนักในตลาดสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าอัตราภาษีสุดท้ายที่ไทยจะต้องเผชิญจะอยู่ที่ประมาณ 20% ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้