1 ส.ค.2568 อัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม “ทางหลวง-ทางหลวงชนบท” ปิด 17 เส้นทาง งดสัญจรชั่วคราว
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า กรมทางหลวงได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2568 พบว่าทางหลวงถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่านและจังหวัดสุโขทัย (5 สายทาง จำนวน 6 แห่ง) การจราจรผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ดังนี้
1. จ.เชียงราย จำนวน 2 แห่ง
- ทล.1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 47+900 - 47+940 อ.เชียงของ ดินไลด์ปิดทับผิวทางให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
- ทล.1155 ทรายกาด - บ้านลุง ช่วง กม.ที่ 45+950 - 46+400 อ.เวียงแก่น ดินกัดเซาะคันทางสไลด์ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น
2. จ.น่าน จำนวน 3 แห่ง
- ทล.1243 ห้วยไผ่ - หาดไร่ ช่วงกม.ที่ 34+036 – 74+000 อ.นาน้อย ดินสไลด์ปิดทับผิดทาง
- ทล.1243 ห้วยไผ่ - หาดไร่ ช่วงกม.ที่ 58+875 – 58+900 อ.เวียงสา คอสะพานขาดให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
- ทล.1256 ปัว – อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ช่วง กม.ที่ 26+260 - 26+300 อ.ปัว ดินสไลด์ปิดทับผิวทางให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
3. จ.สุโขทัย จำนวน 1 แห่ง
- ทล.1195 เตว็ดใน - วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 17+300 – 20+000 อ. ศรีสำโรง ระดับน้ำ 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยงทล.101 และ ทล.1056
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายะแนะนำ
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า วันนี้ (1 ส.ค. 68) ยังคงพบถนนทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมและมวลน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งปิดทับเส้นทางและกัดเซาะผิวทาง/ไหล่ทาง ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถใช้ถนนในการสัญจรได้ในหลายพื้นที่
ทั้งนี้สำนักบำรุงทาง กรมทางหลวงชนบท ได้รายงานเหตุอุทกภัยบนสายทางหลวงชนบทที่สัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 11 สายทาง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ ตาก และสุโขทัย
นายมนตรี กล่าวต่อว่า ได้สั่งการเน้นย้ำเพิ่มเติมไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจนกว่าระดับน้ำจะลดลงกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมกำชับให้ติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟ และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยบริเวณสายทางอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหรือผลกระทบของผิวทาง โครงสร้างถนนและสะพาน
เพื่อเข้าดำเนินการฟื้นฟู ซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน รวมถึงให้เข้าทำความสะอาด เก็บกวาดเศษกิ่งไม้และขยะที่อาจตกค้างบนสายทาง เพื่อเปิดการสัญจรที่สะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตามปกติต่อไป
สำหรับถนนทางหลวงชนบทที่พบสัญจรผ่านไม่ได้ในขณะนี้ จำนวน 11 สายทาง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ตาก สุโขทัย และแพร่ ดังนี้
จังหวัดเชียงราย จำนวน 4 สายทาง
- ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4008 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 87+200) – บ้านศรีสะอาด อำเภอ ขุนตาล, พญาเม็งราย (ช่วง กม.ที่ 4+100 - 4+500)
- ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4011 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 118+070) – บ้านม่วงเจ็ดต้น อำเภอเชียงของ (ช่วง กม.ที่ 0+400 – 0+800)
- ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4027 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 109+200) – บ้านเกี๋ยงเหนือ อำเภอเชียงของ (ช่วง กม.ที่ 2+875 – 2+905)
- ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.5031 แยกทางหลวงชนบทสาย ชร.4014 (กม.ที่ 0+700) – บ้านซ้อใต้ อำเภอเชียงของ (ช่วง กม.ที่ 5+100 – 5+300)
จังหวัดพะเยา จำนวน 2 สายทาง
- ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) – โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ (ช่วง กม.ที่ 8+900 – 9+000 , ช่วง กม.ที่ 10+850 – 10+950 , ช่วง กม.ที่ 11+700 – 11+900 และช่วง กม.ที่ 12+900 – 13+000)
- สะพานแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+000)
จังหวัดตาก จำนวน 2 สายทาง
- ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 (กม.ที่ 4+000) – บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด (ช่วง กม.ที่ 11+950 – 12.000 , ช่วง กม.ที่ 12+100 – 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 – 16+550)
- ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.105 (กม.ที่ 9+025) – บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด (ช่วง กม.ที่ 7+290 – 7+300)
จังหวัดสุโขทัย จำนวน 2 สายทาง
- ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.4053 แยก ทล.1180 (กม.ที่ 11+650) – บ้านคลองมะพลับ อำเภอศรีนคร (ช่วง กม.ที่ 0+500 – 0+800)
- ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.7058 แยก ทล.1180 (กม.ที่ 13+150) – บ้านสายใจไทย อำเภอศรีนคร (ช่วง กม.ที่ 0+500 – 0+800)
จังหวัดแพร่ จำนวน 1 สายทาง
- สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อำเภอหนองม่วงไข่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 – 1+185)