อันวาร์ เผย “ทรัมป์” ตอบรับร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน เดือน ต.ค.68 ที่มาเลเซีย
อันวาร์ เผย “ทรัมป์” ตอบรับร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 47 ซึ่งมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคม 2568 นับเป็นสัญญาณสำคัญของการทูตสหรัฐต่ออาเซียน
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.11 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) ว่าสหรัฐอเมริกาจะประกาศอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากมาเลเซียในวันศุกร์นี้ (1 ส.ค.) ภายหลังการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
มาเลเซียกำลังเผชิญความเสี่ยงจากการถูกเก็บภาษีในอัตรา 25% สำหรับการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับวอชิงตันได้ภายในวันศุกร์
อันวาร์กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับทรัมป์ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี โดยหารือในจิตวิญญาณและหลักการของการค้าเสรี พร้อมกล่าวต่อรัฐสภาว่า “หลังจากที่ผมได้อธิบายข้อมูลให้เขาฟัง ท่านประธานาธิบดีทรัมป์จึงตัดสินใจทบทวนอัตราภาษีที่ใช้กับมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้”
อันวาร์ยังเปิดเผยว่า ทรัมป์ได้ยืนยันว่าจะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ซึ่งจะจัดขึ้นที่มาเลเซียในเดือนตุลาคม 2568
ในโอกาสเดียวกัน นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้แถลงเปิดตัวแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีใหม่ พ.ศ. 2569–2573 โดยตั้งเป้าให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) อยู่ที่ 4.5–5.5% ต่อปี และลดระดับงบประมาณขาดดุลให้ต่ำกว่า 3% ของ GDP ภายในปีสุดท้ายของแผน
นอกจากนี้รัฐบาลยังตั้งเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกไว้ที่ 5.8% ต่อปี และควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเฉลี่ย 2–3% ตลอดช่วงเวลาในแผนดังกล่าว
มาเลเซียจะจัดสรรงบประมาณรวม 611,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 143,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับแผนพัฒนานี้ โดยจะมาจากงบประมาณภาครัฐ 430,000 ล้านริงกิต ส่วนที่เหลือมาจากรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน
“อีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาชี้ชะตาสำคัญของมาเลเซีย ไม่เพียงแต่ในการเปลี่ยนผ่านสู่ประเทศรายได้สูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย” นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP สำหรับปี 2025 ลงจากช่วง 4.5%–5.5% เหลือ 4%–4.8% เนื่องจากความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงทิศทางการค้า
นอกจากนี้ธนาคารกลางยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโตของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออก ท่ามกลางแรงกดดันจากภายนอก
อ้างอิง : reuters.com