“ทักษิณ”อารมณ์ดีหลังปิดคดี ม.112 มั่นใจศาลให้ความเป็นธรรม
วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีการนัดสืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหา หมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ซึ่งถูกตีความว่าเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยเบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว เปิดเผยภายหลังการพิจารณาว่า ทีมทนายจำเลยได้แถลง ปิดคดีอย่างเป็นทางการ หลังเบิกความพยานจำเลยเพียง 3 ปาก ได้แก่ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย
โดยพยานทั้งสองรายแรก เป็นบุคคลสำคัญในวงการกฎหมายและข้าราชการระดับสูงซึ่งเคยร่วมงานกับนายทักษิณและให้การถึงเจตนา ความเข้าใจด้านกฎหมาย และความจงรักภักดีของจำเลย
นายวิญญัติ ระบุว่า เดิมมีแผนนำพยานถึง 14 ปาก แต่จากการประเมินร่วมกับนายทักษิณ เห็นว่าการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยมีข้อมูลเพียงพอแล้ว โดยย้ำว่า พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์มีหลายจุดที่ไม่สมบูรณ์ ขาดประจักษ์พยานชัดเจน และอาศัยพยานความเห็นที่อาจมีอคติ
ศาลจึงมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ใน วันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณเดินทางกลับจากศาลด้วยรถยนต์เบนซ์สีบรอนซ์ทอง โดยโบกมือทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารอให้กำลังใจบริเวณหน้าศาล แม้ไม่ลดกระจกลง ขณะที่ท่าทีของเจ้าตัวยังดูผ่อนคลายและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
ด้านทีมทนาย ระบุเพิ่มเติมว่า นายทักษิณ จะต้องกลับมารายงานตัวต่อศาลตามเงื่อนไขการประกันอีกครั้งในช่วงต้นเดือนสิงหาคม และจะกลับมาฟังคำพิพากษาตามนัด พร้อมยืนยันว่า เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศจะสิ้นสุดลงหลังศาลมีคำพิพากษา
เมื่อถามถึงแผนเดินทางหลังจากฟังคำพิพากษา นายวิญญัติกล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ ต้องรอให้ศาลมีคำวินิจฉายก่อน จากนั้นจะมีการวางกำหนดการต่อไปอย่างเป็นทางการ
“วันนี้ท่านอารมณ์ดี และมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล” ทนายความกล่าวทิ้งท้าย