'รมช.กห.' ชี้ 'พลทหาร' เหยียบกับระเบิด มีความสามารถพิเศษเป็นล่ามภาษากัมพูชา
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.68 ที่กระทรวงกลาโหมพ.อ.วีรยุทธ์ น้อมศิริ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนให้ความสนใจการดูแลสวัสดิการและการเยียวยากำลังพลทหาร โดยเฉพาะผู้ที่ต้องสูญเสียอวัยวะ หรือสละชีพ ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ว่าพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญและแสดงความห่วงใยอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยของพี่น้องทหารหาญ ทุกกรณีและทุกพื้นที่ของประเทศ โดยกำชับให้ดำเนินการด้านสิทธิกำลังพลตามระเบียบอย่างครบถ้วน
พ.อ.วีรยุทธ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันทหารไทยมีการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่สำคัญ เช่น 1.พื้นที่ตามแผนป้องกันประเทศ เช่น บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 2.พื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน/กฎอัยการศึก เช่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ซึ่งหากได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ก็จะได้รับการเยียวยาและสวัสดิการตามสิทธิ-ตามระเบียบ
ทั้งในลักษณะเงินก้อนจ่ายครั้งเดียว เงินจ่ายรายเดือน เงินบำนาญพิเศษ (สำหรับทายาท กรณีทหารเสียชีวิต) ตลอดจนการเลื่อนยศ การปูนบำเหน็จพิเศษ การได้รับสิทธิบรรจุทายาทเข้ารับราชการ เป็นต้น
ทั้งนี้ รายละเอียดที่เป็นจำนวนเงินไม่สมควรที่จะนำมากล่าวได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยืนยันว่าโปร่งใส-สามารถตรวจสอบได้ และดำเนินการอย่างเป็นระบบ ในทุกกรณี
พ.อ.วีรยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางของกำลังพลทหาร 3 นาย โดยเฉพาะพลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจนสูญเสียอวัยวะบางส่วนนั้น นอกจากจะได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ครบตามสิทธิแล้ว พล.อ.ณัฐพล ได้พิจารณาถึงความมุ่งมั่นและอุดมการณ์อันแน่วแน่ในการรับใช้ชาติอย่างแท้จริง โดยเป็นผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ต้น และยังคงปรารถนาที่จะรับราชการในกองทัพ เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไป
“หากได้รับโอกาส จึงมอบหมายให้กองทัพบกหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสม ประกอบกับการตอบสนองนโยบายรัฐบาล “เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง” สนับสนุนทหารผ่านศึก (ทุพพลภาพ) ให้มีอาชีพที่มั่นคงพึ่งพาตนเองได้ และมีอนาคตสดใส”รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
พ.อ.วีรยุทธ์ กล่าวว่า พลทหาร ธนพัฒน์ เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาเขมรและเคยทำหน้าที่ล่ามให้กับหน่วยต้นสังกัดในหลายภารกิจ โดยล่าสุดได้รับรายงานว่ามีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการบรรจุในหน่วยงานสังกัดองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ (อผศ.) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามศักยภาพต่อไป