โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ดร.ณัฏฐ์ ชี้คำร้อง สว.อิสระ ยื่นถอดถอน สว.สีน้ำเงิน ใช้ช่อง ม.82 ไม่เข้าเงื่อนไข ตีตกได้ทันที

ไทยโพสต์

อัพเดต 8 สิงหาคม 2568 เวลา 21.33 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นักกฎหมายมหาชน วิเคราะห์คำร้องถอดถอน สว.สีน้ำเงินโดยกลุ่ม สว.อิสระ ตามรธน.มาตรา 82 วรรคหนึ่ง พบปัญหาลายมือชื่อไม่ครบ-บางส่วนถูกปลอม-เนื้อหาซ้ำคดีที่ กกต.ไต่สวนอยู่ ชี้ประธานสว. มีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้โดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมเตือนกรณีปลอมลายมือชื่อเข้าข่ายผิดอาญา-จริยธรรมร้ายแรง มีโทษจำคุกและตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต

8 สิงหาคม 2568 - สืบเนื่องปมร้อนการเมืองกรณี สว.เสียงข้างน้อยหรือ สว.อิสระ ล้ม สว.สีน้ำเงินโดยใช้ช่อง รธน.มาตรา 82 วรรคหนึ่ง จากตรวจสอบคำร้องและตัวอย่างลายมือชื่อ พบว่า ลายเซ็นชื่อของ สว.ที่ได้ให้ตัวอย่างลายมือชื่อกับ สนง.เลขาธิการสมาชิกวุฒิสภา พบว่า มีลายมือชื่อตรงกันเพียง 16 รายชื่อ ส่วนรายชื่ออื่น มีตัวแปร บางรายถูกปลอมลายมือชื่อและบางรายได้แสดงเจตจำนงถอนรายชื่อ ทำให้เกิดปัญหา รายชื่อให้ครบ หนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกวุมิสภาทั้งหมด ส่งผลให้ เปิดช่องให้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาและถูกร้องด้วย ตีตกคำร้องในชั้นแรกนั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์”หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า หลายฝ่ายสอบถามกันมาเป็นจำนวนมาก ต้องเข้าใจกลไกรัฐธรรมนูญ ระบบรัฐสภา องค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญก่อน เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมและบทบัญญัติของกฎหมาย การใช้อำนาจเป็นไปตามหลักนิติธรรม ตาม รธน.มาตรา 3 วรรคสอง
กลไกตรวจสอบ เปิดช่องให้ “ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบ” สมาชิกภาพของ “สส.”หรือ” สว.”หรือ“รัฐมนตรี” โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อน คือ สิทธิในการเข้าชื่อและจำนวนสมาชิก 1 ใน 10 ของแต่ละสภา
โดยรัฐธรรมนูญ 2560 ยกระดับปราบโกง โดยเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้วิธีการชั่วคราวก่อนตัดสินได้ อันนี้ ถือเป็นยาแรง ปรากฏครั้งแรกใน รธน.ฉบับนี้ ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ สส.หรือ สว.หรือรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะอ่านคำวินิจฉัย โดยใช้ “หลักส่วนได้เสีย” และ “หลักนิติธรรม” เป็นเกณฑ์ในการใช้มาตรการและ “เหตุอันควรสงสัย”จากพฤติกรรมของผู้ถูกร้อง
กลยุทธ์เกมการเมือง ช่องมาตรา 82 วรรคหนึ่ง เป็นที่นิยมของฝ่ายการเมืองที่เป็นตรงข้าม ปิดเกมเร็วและเป็นยาแรง ได้ผลยิ่งกว่า ใช้บริการช่ององค์กรอิสระอย่าง กกต.ตรวจสอบและไต่สวน เพราะไม่รวดเร็ว มีขั้นตอนยุ่งยาก กำหนดทิศทางไม่ได้ ไม่ถูกใจคอการเมือง

บทบัญญัติมาตรา 82 วรรคหนึ่งเปิดช่องให้ดุลพินิจ มิใช่เป็นบทบังคับเด็ดขาด ที่ว่า “ให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้อง ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ…” เปิดช่องให้ประธานวุฒิสภา ใช้ “ดุลพินิจ”ก่อน “ส่งคำร้อง” ตรวจสอบเนื้อหาและลายมือชื่อก่อนใช้อำนาจ อาจใช้วิธีให้ฝ่ายกฎหมายวุฒิสภาตรวจสอบหรือตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบก็ได้ ทั้งนี้ อยู่ที่ความจำเป็นเร่งด่วน และความเสียหายแก่บ้านเมือง
กระบวนการตรวจสอบ หาก เนื้อหาซ้ำกับใช้สิทธิในองค์กรอื่น หรือลายมือชื่อไม่ครบถ้วน หรือลายมือชื่อปลอม ประธานวุฒิสภา ตีตกคำร้องได้ทันที ไม่เป็นความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามที่ สว.ข้างน้อยข่มขู่
แต่หากเนื้อหาคำร้องไม่ครบถ้วน หรือเนื้อหาเสียดสี ย่อมสั่งให้แก้ไขคำร้องได้
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ รธน.เปิดช่องให้ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบด้วยกันเอง ดังจะเห็น ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบองค์กรอิสระ ให้อำนาจ สส.หรือ สว.ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า ยื่นคำร้องตรวจสอบ กรรมการ ปปช.เฉพาะราย โดยเปิดช่องให้ประธานรัฐสภา ใช้พินิจตรวจสอบ “เนื้อหา”และ “การกระทำ”ก่อนส่งให้ศาลฎีกาตั้งคณะกรรมการไต่สวน ตามรธน.มาตรา 236 วรรคหนึ่ง

เนื้อหา ตามหนังสือของ สว.เสียงข้างน้อย หรือ สว.อิสระ ฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 บรรยายคำร้องผูกคอตนเองเพราะไปซ้ำกับเนื้อหาที่ กกตซ.ไต่สวนอยู่ เป็นเรื่องโกงการเลือก สว.ที่ กกต.กำลังพิจารณาอยู่ แม้จะแตกประเด็นให้เข้าเงื่อนไข แต่ภาพรวมเรื่องเดียวก้น การกระทำเดียวกัน ต้องถูกลงโทษครั้งเดียวและ รธน.กำหนดให้เป็นอำนาจเฉพาะ กกต.องค์กรอิสระ จะใช้ศรีธนญชัยเพื่อหยิบช่องทาง รธน.มาตรา 82 วรรคหนึ่ง เป็นทางด่วน รวดเร็ว ถูกใจคอการเมือง พุ่งเป้าไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้เชือดและเร็วกว่า ย่อมกระทำไม่ได้ เพราะการทุจริตการเลือก สว.เป็นอำนาจพิจารณาของศาลฎีกา

กระบวนการใช้สิทธิซ้ำซ้อน ข้ามขั้นตอนและใช้บริการทางด่วน ตัวแปร แม้ประธานวุฒิสภา จะบ้าจี้ยื่นถอดถอนตนเองด้วย โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามคำขู่ดำเนินคดีอาญา ของ สว.บางคน ศาล รธน.ย่อมไม่รับคดีไว้พิจารณา
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะกลไกรัฐธรรมนูญกำหนด การตรวจสอบการทุจริตการเลือก สว. เป็นอำนาจของ กกต.และให้กกต.ยื่นคำร้องต่อ ศาลฎีกา ตาม รธน.มาตรา 226 ประกอบ พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 62 วรรคหนึ่ง
หาก กกต.วินิจฉัยเป็นบวกหรือลบย่อมกระทบต่อสถานภาพสมาชิกภาพ ของ สว. หากออกลบ หมายถึง หาก กกต.วินิจฉัยว่า ฝ่าฝืน พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77(1) ต้องไปสู้คดีในชั้นศาลและต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อศาลได้รับคำร้องไว้พิจารณา ที่กฎหมายบัญญัติ หากกระทำฝ่าฝืน พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 (1) ถือว่าเป็นการกระทำผิดฐานฟอกเงิน ไปในตัว ตามพรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 วรรคสอง ย่อมหมายถึง ดีเอสไอ รอดาบเงื้อไว้รอ เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินได้ทันที
แม้เกิดตัวแปร ระหว่าง รวบรวมลายมือชื่อ มีมือดี ช่วยทำให้รวดเร็วและลงชื่อให้ อาจเกิดจากความยินยอมของ สว.รายนั้น หรือเกิดจากอามิสสินจ้าง เพราะการให้ผลประโยชน์ในการลงชื่อล้ม สว.สีน้ำเงินฝ่ายตรงข้าม
ดร.ณัฏฐ์ ระบุว่าหากวิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์การเมือง Demand ความต้องการล้มอำนาจ สว.น้ำเงิน มีสูง แต่ Supply จำนวน “สว.”ในกลุ่มอิสระ กลุ่มพันธ์ใหม่และกลุ่มสีขาว มีจำนวนข้างน้อย ทำให้ “ลายมือชื่อ” แต่ละคน ย่อมมีราคาค่าตัว “สูงมาก” ในทางการเมือง ต้องต่างตอบแทน เพราะลายมือชื่อโดยปกติ ไม่ได้ลงนามกันง่ายๆ เพราะมีค่าตัว อยู่กับผลประโยชน์ส่วนตัว และงานที่ได้รับมา
หากฟังได้ว่า อาจเกิดจากการจงใจปลอมลายมือชื่อ หรือ ลายมือชื่อที่ให้ไว้ไม่ตรงกัน หรือ สว.บางคนเปลี่ยนใจภายหลัง เพราะบิดพริ้วไม่จ่ายเงินตามข้อตกลง
ย่อม ส่งผลให้ สว.ที่ลงชื่อไม่ครบถ้วน จำนวน 1 ใน 10 หรือจำนวน สว. ไม่น้อยกว่า 20 คน ทำให้เกิดตัวแปร กระดานการเมือง ไม่อาจล้มช้างสีน้ำเงินได้

แม้จะฮึดรอบสอง ย่อมเจอ “กับดัก”เนื้อหาข้อเท็จจริงตามคำร้อง เป็นการใช้สิทธิตรวจสอบซ้ำซ้อน กับ กกต. เข้าทาง นายมงคลฯ ประธานวุฒิสภา ที่ตั้งตัวได้พร้อมสู้ไปในตัวเพราะถูกร้องด้วย ย่อมตีตกคำร้องได้ทันที
ประธานวุฒิสภา อ้างใช้สิทธิตรวจสอบซ้ำซ้อน กับ กกต. จึงไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม พรป.มาตรา 172 ประกอบ ปอ.มาตรา 157

ส่วนที่ถามว่า พบว่าเป็นลายเซ็นปลอม โดยมี สว.บางคนไปร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานนั้น ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า สว.ที่ได้รับความเสียหายจะต้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษ มิใช่กั๊กไว้ เพียงแจ้งไว้เป็นหลักฐาน อำนาจสอบสวนของ พนง.สอบสวนยังไม่เกิด เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน โดยกล่าวโทษต่อพนง.สอบสวนท้องที่เกิดเหตุ ส่งตัวอย่างลายมือชื่อไปตรวจสอบว่า เป็นลายมือชื่อปลอมหรือไม่ เพราะหากไม่ปลอม ให้ดำเนินคดีกับ สว.ที่แจ้งความเท็จนั้นด้วยเพราะในทางการเมือง หากอีกฝ่ายเสนอผลประโยชน์มากกว่า หรือหากผลประโยชน์ไม่ลงตัว อาจกลับใจใช้ทุกวิธีทางแก้เกมในภายหลังได้
แต่หากผลพิสูจน์ว่า มีการปลอมลายมือชื่อจริง ต้องตรวจสอบให้ได้ว่า ใครปลอม เพราะตรวจสอบง่ายเพราะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่กี่คนที่ล่าลายมือชื่อ และดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจาก สว.ถือว่า เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ พนง.สอบสวน จะต้องส่งสำนวนให้แก่ ปปช.ตาม พรป.ปปช. หาก ปปช.ไต่สวนพบว่า กระทำผิดจริง จะเจอข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อีกดอกหนึ่งโดยปริยาย เป็นโทษหนัก ติดคุกด้วยและตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีพ ไม่ต่างจาก สส.เสียบบัตรแทนกัน.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘โรม’ ปูดพลเรือนอักษรย่อ ‘บ.’ โผล่เบื้องหลังดีลเรือดำน้ำจีน

26 นาทีที่แล้ว

บอลถ้วย’Carabao Cup’ ฤดูกาลใหม่ที่’Monomax’ ส่งต่อความภูมิใจถ้วยของคนไทย

39 นาทีที่แล้ว

จับหนุ่มกัมพูชา ใบอนุญาตทำงานหมดอายุ ตรวจข้อมูลมือถือไม่พบเป็นภัยต่อความมั่นคง

54 นาทีที่แล้ว

🛑LIVE กลับบ้านได้หรือยัง | ห้องข่าวไทยโพสต์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘ปลอดประสพ’ วิเคราะห์ทำไม ‘ฮุนเซน’ ต้องสร้างเรื่องทะเลาะไทย

ไทยโพสต์

เปิดสาเหตุ ม. รามคำแหงถอนปริญญา ฮุน เซน

มุมข่าว

ช่อ ชี้ภารกิจจักรวาล ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ต้องสื่อสารประชาคมโลก ไม่ใช่แค่ตอบโต้ ‘มาลี’

Khaosod

จุฬาฯทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่ ‘กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี’

The Bangkok Insight

‘โรม’ ปูดพลเรือนอักษรย่อ ‘บ.’ โผล่เบื้องหลังดีลเรือดำน้ำจีน

ไทยโพสต์

รวบ 3 ชาวเมียนมา ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดเงินสดกว่า 46 ล้าน

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม