ส.อ.ท.หวังได้ ” คนดีและคนเก่ง“ เป็นนายกฯ คนที่ 32 พร้อมทำงานดรีมทีมเศรษฐกิจ
ส.อ.ท.อยากได้ ”คนดีและคนเก่ง“ เป็นนายกฯ คนที่ 32 สอดประสานดรีมทีมเศรษฐกิจแก้ปัญหาโครงสร้าง ชี้ 4 เดือนแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การได้มาซึ่งนายกฯ และ ครม.คงต้องเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญและกติกาที่มีอยู่ สิ่งสำคัญอยู่ที่การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับงาน มีคุณสมบัติที่ตรงกับหน้าที่ และมีความเข้าใจเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ต้องคัดทั้ง “คนดีและคนเก่ง” มาร่วมทำงาน
ทั้งนี้ มองว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ท้าทายมาก จึงเห็นว่าจำเป็นต้องมีนายกฯ ที่มีความเป็นผู้นำสูง มีวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจน กล้าตัดสินใจ ที่สำคัญต้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชน ซึ่งเป็นกุญแจหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้
ในส่วนของ ครม.ก็ควรเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น การคลัง การลงทุน การค้าทั้งในและระหว่างประเทศ อุตสาหกรรม การศึกษา การพัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อให้การดำเนินนโยบายเชิงรับและเชิงรุกเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวให้ฟื้นขึ้นได้ แก้ไขกฎหมายและปรับโครงสร้างภาษีให้ทันสมัย ไม่ซ้ำซ้อน รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เปราะบาง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศและเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย
“ทีมเศรษฐกิจในความคิดเห็นส่วนตัวต้องการได้ดรีมทีมเศรษฐกิจที่แท้จริง มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทำงานเป็นทีม เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยที่ซบเซามานาน ให้กลับเข้าสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคได้อีกครั้ง และก้าวพ้นกับดักความยากจนได้อย่างมั่นคง โดยดรีมทีมควรมาจากพรรคเดียวกัน ภายใต้การนำเดียวกัน เพื่อทำงานได้อย่างสอดคล้อง หากเป็นทีมที่มาจากต่างขั้วทางการเมือง อาจมีวิสัยทัศน์และนโยบายไม่ตรงกัน ต้องมาเริ่มต้นใหม่ ทำให้เสียเวลา ขณะที่เศรษฐกิจไทยไม่มีเวลาลองผิดลองถูกอีกแล้ว”
อย่างไรก็ตาม หากถามว่ารัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือนเพียงพอหรือไม่ หรือควรอยู่ยาวก่อนยุบสภา ส่วนตัวมองว่า 4 เดือนถือว่าสั้นเกินไป ทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะการฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่สามารถเห็นผลได้ภายในเวลาสั้นๆ หากรัฐบาลอยู่ต่อเพียง 4 เดือน สิ่งที่จะทำได้จริง คือ มาตรการเฉพาะหน้า เช่น การอัดฉีดเงินหรือการกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ในมิติของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ต้องใช้ความต่อเนื่องและการดำเนินงานแบบบูรณาการ
นายเกรียงไกร กล่าวว่าดังนั้น จึงเห็นว่าการมีรัฐบาลที่อยู่ต่อในระยะเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถดำเนินนโยบายเชิงโครงสร้างได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปฏิรูปภาษี การปรับปรุงกฎระเบียบ และการสนับสนุนเอสเอ็มอี รวมถึงสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ลดความผันผวนที่เกิดจากการเมือง และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และมีเวลาพอที่จะเดินหน้านโยบายระยะยาว เช่น การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส.อ.ท.หวังได้ ” คนดีและคนเก่ง“ เป็นนายกฯ คนที่ 32 พร้อมทำงานดรีมทีมเศรษฐกิจ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th