‘หลวงพ่ออลงกต’ ให้ไวยาวัจกรตอบแทน ปมหญิงสาวถือครองที่ดินวัด 2 พันไร่
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งมีการจัดกิจกรรมด้านผู้สูงอายุเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ พบว่าบรรยากาศแม้จะคึกคัก แต่ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมเบาบางลงต่างจากเมื่อก่อนที่มีกระแสระหว่างหมอบีกับ พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ โดยเมื่อผู้สื่อข่าวต่างพยายามขอสัมภาษณ์กับหลวงพ่ออลงกต กรณีประเด็นที่พบว่าที่ดินของวัด ในพื้นที่ ต.ดงดินแดง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี จำนวน 2 พันไร่ มีชื่อบุคคลอื่นถือครองที่ดินนั้น
โดยหลวงพ่ออลงกต ซึ่งนั่งต้อนรับผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมกิจกรรมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แต่ได้มอบหมายให้ นายสมพร โสมะเค็ง ไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ เป็นผู้ชี้แจงแทน
ซึ่งนายสมพร กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะเจตจำนงแต่แรกของเจ้าตัวที่ถือครอง ได้ทำพินัยกรรม ที่สำคัญเมื่อเป็นประเด็นแบบนี้ เขาพร้อมที่จะดำเนินการโอนคืนเป็นของวัดให้เร็วที่สุด เพราะที่หลวงพ่อให้แต่ละคนถือครอง จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ร่วมโครงการกับหลวงพ่อตั้งแต่แรกๆ และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงไม่ได้ลงชัดเจนว่าพื้นที่แต่ละจุดนั้นจะทำอะไร เลยให้แต่ละคนถือครองไว้ก่อน ที่สุดแล้วก็จะกลับมาทั้งหมด
ในส่วนของ น.ส.วรสุดา ที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองที่ดินนั้น ไม่ได้มีความกังวลใจอะไรเลย เพราะเป็นเด็กที่หลวงพ่อเลี้ยงมาจนโต ทุกวันก็ยังดูแลกันอยู่ เมื่อหลังจากเกิดกระแสข่าวก็มีการพูดคุยสื่อสารกันบ้าง ซึ่งทุกคนห่วงความรู้สึกของหลวงพ่อและบางคนยังไม่เข้าใจ ส่วนที่ดินแปลงจำนวน 2 พันไร่ ที่อดีตไวยาวัจกรเดิมที่เสียชีวิตไปแล้ว ถือครองแต่ลูกหลานยังไม่มีทีท่าดำเนินการโอนคืนเป็นของวัดเลยนั้น ตนเองไม่กังวล เพราะที่ดินตรงนั้นไม่ถึง 2 พันไร่ เพราะบางส่วนหลวงพ่อโอนไปเป็นที่ของหลวงแล้วทั้งที่ตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่ 33 ที่ตั้งชุมชนสหวิชาชีพของผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ เป็นไปได้อยากให้นักข่าวไปดูตรงนั้นด้วย
‘หลวงพ่ออลงกต’ ยันจะดำเนินคดี หากตร.พบความผิด ‘หมอบี’ ท้อใจคนทำบุญน้อยลง
ส่วนที่เป็นปัญหาทั้งหมดกี่ไร่นั้น คงต้องเช็กตัวเลขให้ชัดเจน เพราะตนเองก็เพิ่งมารับตำแหน่ง ซึ่งเจตจำนงที่ทำอย่างนี้ ตนเองทราบดี รับรองไม่มีปัญหาแน่นอน โดยหลวงพ่อได้เซ็นสลักหลังไว้ว่าทุกคนต้องทำตามวัตถุประสงค์
ทั้งนี้นอกจาก น.ส.วรสุดา และอดีตไวยาวัจกรที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น จะมีคนอื่นอีกหรือไม่ นายสมพร กล่าวต่อว่า ไม่ทราบเลย แต่ตนไม่วิตกกังวล เพราะทุกคนที่ทำเราอยู่กับหลวงพ่อมานาน ทราบเจตจำนงของหลวงพ่อดี
ในกรณีของหมอบีที่เปิดบัญชีในนามตัวเอง ซึ่งบัญชีดังกล่าวยังเปิดอยู่หรือปิดไปแล้วนั้น ตนเองยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่เท่าที่ทราบโอนเข้าไม่ได้แล้ว เมื่อสอบถามว่า หมอบีได้มีการประสานมาหรือไม่ที่จะมีการชี้แจง นายสมพร กล่าวว่า ขอแจ้งให้ทราบทีหลัง
นอกจากนี้ยังฝากว่าขอให้ทุกคนมองมาที่วัดตามความเป็นจริง ซึ่งมีคำถามเข้ามาเยอะมากเลยว่ามาที่วัดไม่เห็นผู้ป่วย เพราะท่านเข้าไปไม่ถึงจุดที่ผู้ป่วยอยู่ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่อาคารคนทำดีอวดผี จำนวน 140 เคสนอนบนเตียง ท่านไปดูได้เลย วัดพระบาทน้ำพุไม่มีส่วนไหนเป็นที่หวงห้าม ท่านสามารถไปดูได้ทุกที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อมีผู้ป่วยเยอะและเงินบริจาคก็มีจำนวนมาก ทำไมไม่เปิดเป็นโรงพยาบาลไปเลย นายสมพร กล่าวอีกว่า การทำโรงพยาบาลต้องมีงบประจำ แต่กรณีของวัดเป็นไปตามกำลังศรัทธาบริจาค เพียงพอบ้าง ไม่เพียงพอบ้าง เราใช้วิธีบาลานซ์กัน ถ้าเราเปิดเป็นโรงพยาบาลถ้าไม่มีงบประจำมันจะไปไม่รอด การเป็นมูลนิธิก็จะดีกว่า.