พรรคประชาชน ‘ยังไร้ข้อสรุป’ พรุ่งนี้ให้กรรมการบริหารพรรคเป็นคนตัดสิน พร้อมย้ำว่า ถ้าเพื่อไทยจะยุบสภา ก็ทำได้เลย

นายกฯ คนต่อไปจะเป็นใคร? เป็นสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบอย่างเป็นทางการจากพรรคประชาชนในวันนี้

รองหัวหน้าพรรคประชาชน ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล และพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางเลือกนายกรัฐมนตรีกับทางพรรค โดยระบุว่า วันนี้ยังไม่มีมติและในช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้รับฟังเปิดรับฟังความเห็นทุกองคาพยพของพรรค และเครือข่ายต่างๆ แล้ว โดยมีสมาชิกจำนวนมากให้ความเห็นมาแล้ว

ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า วันนี้ สส.มากันค่อนข้างครบและให้ความเห็นเพิ่มเติมกันพอสมควร แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือในวันนี้เราจะยังคงเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิกพรรคต่อ และอย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของกรรมการบริหารคณะผู้บริหารของพรรคเพื่อตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่าเราจะโหวตเลือกนายกฯ ท่านใด

“พรุ่งนี้จะมีการตัดสินใจกันในการประชุมของผู้บริหารพรรค และยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง” ปกรณ์วุฒิกล่าว

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะจับมือกับพรรคภูมิใจไทยนั้น รองหัวหน้าพรรคประชาชนยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใดๆ วันนี้ ไม่มีมติ ไม่มีการตัดสินใจ ไม่มีการยกมือโหวตใดๆ นอกจากนี้ ทางพรรคเข้าใจและไม่ใช่สิ่งที่ตัดสินใจได้ง่ายซึ่งทุกคนเข้าใจตรงกันหมด ว่าไม่ใช่การเลือกนายกฯ ที่ดีที่สุด แต่เป็นการเลือกนายกฯ ที่มีโอกาสนำไปสู่การยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าวันนี้ยังไม่มีมติ ก็หมายความว่าจะเป็นการรอดูท่าทีของพรรคเพื่อไทยในการยุบสภาใช่ไหม? พริษฐ์กล่าวว่า นาฬิกามันก็เดินไปเรื่อยๆ และพรรคประชาชนก็เรียกร้องมา 2 เดือนแล้วกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการยุบสภา ตั้งแต่สมัยแพทองธาร และภูมิธรรมจนถึงวันที่ผ่านมา ก็เห็นว่าภูมิธรรมก็ออกมาพูดเกี่ยวกับการยุบสภา

“ซึ่งผมขอย้ำอีกรอบว่าถ้าจะยุบก็ไม่ต้องรอ แต่ว่าอย่างไรก็ตามนาฬิกาก็เดินต่อไป ถ้ารักษาการนายกฯ ไม่ดำเนินการยุบสภา ก็จำเป็นต้องเข้าสู่การเลือกนายกฯ คนใหม่ และเราก็จะใช้เสียง 140 กว่าเสียงของเรา เพื่อดำเนินการให้การเลือกนายกฯ คนใหม่นำไปสู่การยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็ว” พริษฐ์กล่าว

พริษฐ์ ระบุเพิ่มเติมว่า สส.พรรคประชาชนไม่ไว้วางใจทั้งคู่ (พรรคภูมิใจไทยและเพื่อไทย) โดยหลายคนมีความรู้สึกกับพรรคเพื่อไทยตอนฉีก MOU และหลายคนก็มีความรู้สึกกับภูมิใจไทยตอนอภิปราย ตอนเลือกพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ

“ดังนั้นเราไม่เอาความรู้สึกมาเป็นตัวตั้ง อดีตเราไม่ลืม แต่เราไม่เอามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ สิ่งที่เราพยายามจะใช้ในการตัดสินใจคือการออกแบบกลไกที่รัดกุมที่สุด ที่ทำให้เราในฐานะฝ่ายค้านสามารถควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้และพยายามจะดูจากข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าทางเลือกไหนมีแนวโน้มที่ทำให้เรารักษาสัญญาได้ดีที่สุด” พริษฐ์ตอบ

เมื่อถามต่อถึงการรักษาสัญญาจะต้องมีการลงลายเซ็นต์หรือไม่ ซึ่งพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องมีการทำเป็นลายลักษณ์อักษรและอะไรที่ทำได้มากที่สุดเพื่อแสดงให้ผู้ที่ตอบรับเงื่อนไขต้องสัญญากับประชาชนอย่างชัดเจน อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร