เอาจริง! บก.จร.กวาดล้างแก๊งแว้นวิภาวดี ส่งศาลขังคุก-ปรับ-ริบรถ ทุกราย
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผบก.จร., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เชื้อเดช รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.2 บก.จร. สั่งการให้ พ.ต.ท.ดามพวร ทองอิ่ม รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. และ พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. จับกุมตัวผู้ต้องหา รวม 36 ราย แบ่งเป็น ผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป) รวม 9 ราย และเด็กและเยาวชน (อายุต่ำกว่า 20 ปี) รวม 27 ราย พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ 28 คัน
โดยจับกุมได้ขณะมีการรวมกลุ่มกัน บริเวณสถานีเติมน้ำมัน ถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นได้ขี่ออกจากสถานีเติมน้ำมัน เข้าถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) ผ่านบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว (ขาออก), ผ่านบริเวณหน้าวัดเสมียนนารี (ขาออก), ผ่านแยกหลักสี่ (ขาออก), ผ่านหน้าตลาดใหม่ดอนเมือง (ขาออก), กลับรถสะพานกลับรถธูปะเตมีย์, ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) และหน้าท่าอากาศยานดอนเมือง นอกจากนี้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 มีการรวมกลุ่มกันบริเวณ ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) ผ่านหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และหน้าสโมสรทหารบก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 01.56 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กก.2 บก.จร. ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ รวมตัวกันบริเวณสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง บนถนนวิภาวดีรังสิตขี่รถด้วยความเร็วสูง ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ใช้เส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงสืบสวน พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานในพื้นที่จนสามารถทราบตัวผู้กระทำผิดได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 19 ราย แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 3 ราย และเยาวชน 16 ราย พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 13 คัน ซึ่งศาลได้ดำเนินการพิจารณาตัดสินแล้ว จากนั้นจึงขยายผลติดตามจับกุมเพิ่มเติมอีก 13 ราย แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 5 ราย และเยาวชน 8 ราย ส่วนของผู้ใหญ่ 5 ราย ได้ถูกส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.68 โดยศาลแขวงพระนครเหนือมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 2 ปี แก้เป็นกักขัง 2 เดือน พร้อมปรับเงิน 10,000 บาท โดยให้รอลงอาญา 1 ปี คุมประพฤติ 1 ปี พร้อมริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ส่วนเยาวชน 8 ราย ถูกส่งตัวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยศาลมีคำสั่งให้ควบคุมพฤติกรรมในสถานพินิจ พร้อมยึดรถจักรยานยนต์เพิ่มเติมอีก 12 คัน
จากนั้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ศูนย์วิทยุได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุบนถนนวิภาวดีรังสิต พบกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวน 7 คัน ขับขี่ด้วยความเร็วสูงเต็มทุกช่องทาง มีพฤติกรรมขับขี่หวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น จนเกิดเหตุเฉี่ยวชนบริเวณหน้าสโมสรทหารบก จากการสืบสวนขยายผล จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ศาลแขวงดุสิตมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย คนละ 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ส่งผลให้ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 36 ราย พร้อมยึดรถของกลางดังกล่าว ที่รวมกลุ่มขับขี่ โดยใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นเส้นทางในการรวมกลุ่ม และมีพฤติกรรมพยายามแข่งรถในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาต
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันเป็นผู้ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของผู้อื่น” และ “ร่วมกันพยายามแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต” ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย “ถนนปลอดภัย วิภาวดีโมเดล” ภายใต้การกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวดของงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการใช้เส้นทางสัญจรอย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรขอยืนยันว่าจะดำเนินการป้องกัน และปราบปรามพฤติกรรมแข่งรถในทางและการขับขี่รถโดยประมาทอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ปกครองในการสอดส่องดูแลบุตรหลาน และจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสเพื่อความปลอดภัยร่วมกันของสังคม