Wellness Tourism ธุรกิจดาวรุ่ง-นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด

ปิดฉากไปแล้วสำหรับงานสัมมนา FHT Food & Hospitality Thailand 2025 ภายใต้หัวข้อ ASEAN WELLNESS TOURISM CONGRESS & Thailand Spa and Wellbeing Awards 2025 : Wellness Destination Case Study by Global Wellness Institute : THAILAND/PHUKET

หนึ่งในความตั้งใจของสมาคมสปาไทยในการเปิดพื้นที่รวมผู้คนในวงการ Wellness Tourism ทั่วประเทศและอาเซียน ร่วมเสวนาเพื่อพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของภูมิภาค

โดย Wellness Tourism ประเทศไทยกำลังผงาดขึ้นเป็นดาวเด่นของภูมิภาคอาเซียน ด้วยจุดแข็งจากภูมิปัญญาท้องถิ่น นวดไทย อาหารสุขภาพ ไปจนถึงการเชื่อมโยงชุมชนสู่เศรษฐกิจสุขภาพที่เติบโตเกินคาดกว่า 34.6 พันล้านดอลลาร์

Wellness ไทยเติบโตกว่า 100%

“สุนัย วชิรวราการ” นายกสมาคมสปาไทย ระบุว่า จากรายงานของ Global Wellness Institute (GWI) ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24 จาก 218 ประเทศทั่วโลก และอันดับที่ 9 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีมูลค่าเศรษฐกิจ Wellness รวมกว่า 34.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.45% ของ GDP ประเทศ

โดยหมวดที่เติบโตมากที่สุดคือ “Wellness Tourism” ซึ่งเติบโตถึง 120% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แซงหน้า “โภชนาการ สุขภาพ และการควบคุมน้ำหนัก” ซึ่งเคยเป็นอันดับหนึ่ง

ขณะที่ “นวดไทย” ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ว่าเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2019 โดยถือเป็นเทคนิคการนวดเดียวในโลกที่ได้รับการจารึกในรายการนี้ เนื่องจากมีรากฐานลึกในภูมิปัญญาท้องถิ่น พุทธปรัชญา การรักษาองค์รวม และการสืบทอดผ่านชุมชนอย่างแท้จริง

ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังโตได้

สอดคล้องกับรายงานจาก Visa ที่พบว่า 2 ใน 3 ของรายได้การท่องเที่ยวในไทยมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย 75% เป็นการเดินทางระยะใกล้ เช่น อาเซียน และเอเชียตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เลือกเที่ยวเพียงจังหวัดเดียว

และพบว่า Medical Tourism เป็นหมวดที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงที่สุด ตามด้วยกอล์ฟ ดำน้ำ ไนต์ไลฟ์ และสปานวด ซึ่งสะท้อนโอกาสในการพัฒนา Wellness Tourism เพิ่มเติม

พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ Wellness (Primary Wellness Traveller) มีการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทริป มากกว่ากลุ่มที่มี Wellness เป็นวัตถุประสงค์รอง (Secondary Wellness Traveller) ที่ใช้จ่ายเฉลี่ย 850 ดอลลาร์

“ประเทศไทยยังคงมีสัดส่วนกลุ่ม Primary Wellness Traveller ต่ำกว่าในอดีต ดังนั้นผู้ประกอบการควรวางกลยุทธ์เพื่อแปลงกลุ่มรองให้เป็นกลุ่มหลัก เช่น การต่อยอดแพ็กเกจ การเพิ่มความลึกของประสบการณ์ Wellness”

และย้ำว่า อุตสาหกรรม Wellness Tourism ของไทยยังคงมีศักยภาพสูงและโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในหมวดที่กำลังเป็นกระแสโลก เช่น อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ การแพทย์เชิงป้องกัน และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ประเทศไทยมีต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และการบริการเป็นจุดแข็ง

เสิร์ช Google เพิ่มขึ้นกว่า 30%

ขณะที่ “นภารัตน์ ศรีละพันธ์” นายกสมาคมวิชาชีพสปา (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลว่า จากการวิจัยด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและภาพรวมการใช้โซเชียลมีเดียในหมวด Wellness ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยพบว่า แม้จำนวนข้อความเกี่ยวกับ Wellness บนโซเชียลมีเดียจะลดลงราว 2% ในช่วงกรกฎาคม 2567-กรกฎาคม 2568 แต่การค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับ Wellness บน Google ยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 30% ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจและค้นหาข้อมูลในหมวด Wellness อย่างต่อเนื่อง

โดยช่องทางที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook, TikTok, YouTube, Instagram, X (Twitter เดิม) และ Forum ต่าง ๆ โดย Facebook เป็นช่องทางหลักที่ถูกใช้ในการโปรโมต Wellness Destination ในประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต

“นภารัตน์” บอกว่า การวิจัยพบความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวต่างชาติและคนไทย โดยชาวต่างชาติเน้นการผ่อนคลายหลังเดินทางหรือในช่วงสุดสัปดาห์ นิยมบริการนวดแผนไทย สปา และออนเซ็น และมองการนวดแผนไทยเป็น “ประสบการณ์ที่ต้องลอง” เมื่อมาเยือนไทย ขณะที่มีข้อกังวลด้าน “ราคาที่ไม่เป็นธรรม”

ส่วนคนไทยนิยมทำ Wellness ในวันหยุดหรือโอกาสพิเศษ สนใจเรื่องสุขภาพจิต (Mental Wellness) มากที่สุด รองลงมาคือ ความงามและสมุนไพรไทย ชอบดูแลตัวเองด้วยวิธี DIY ที่บ้าน และให้ความสำคัญกับบรรยากาศ ความเป็นส่วนตัว และผลลัพธ์ที่จับต้องได้

สับสน “นวดไทย-นวดน้ำมัน”

และหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจคือ ความเข้าใจผิดของชาวต่างชาติที่ยังเชื่อว่า “นวดไทย” คือการนวดแบบใช้น้ำมันและไม่สวมเสื้อผ้า เหมือนที่พวกเขาเคยใช้บริการในยุโรป ในขณะที่ “นวดไทยแท้” ตามมาตรฐานของไทยนั้นเป็นการนวดแบบสวมใส่ชุดผ้าไทยและใช้แรงกดตามจุดต่าง ๆ ซึ่งบางรายมองว่า “เจ็บแต่ดี” และยังคงนิยมสูง

กลุ่มผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะวัยรุ่น Gen Z และคนทำงาน Gen Y นิยมดูแลตัวเองแบบ DIY เช่น นวดหน้า/โยคะหน้า (Facial Yoga) การสครับผิวด้วยของธรรมชาติ หรือการใช้สมุนไพรและผลิตภัณฑ์ไทย เช่น ยาดอง ยาหม่อง เทียนหอม

สำหรับกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Sound Healing, Ice Bath, วิ่งแล้วแช่ออนเซ็น และสมุนไพรพอกตัว

แนะสร้างความเข้าใจ “นวดไทย”

สำหรับกลยุทธ์และช่องทางการตลาดนั้นพบว่า ช่องทาง Facebook มีบทบาทสำคัญในแง่ของ “การบอกเล่า” ข้อมูลเกี่ยวกับ Wellness และสถานที่ต่าง ๆ ส่วน TikTok เป็นช่องทางที่ได้รับ Engagement สูงสุด โดยเนื้อหาที่ได้รับความนิยม ได้แก่ รีวิวครั้งแรก (First Time), เน้นความ Affordable และทำได้ในวันหยุด และแชร์ประสบการณ์จริง พร้อมภาพและวิดีโอที่สื่อถึงความสวยงามและการดูแลตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สมาคมวิชาชีพสปามีข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับอุตสาหกรรม Wellness ในไทยคือ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนวดไทย โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจมีภาพจำผิด อีกทั้งยังถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น ทำให้น่าสนใจบนโซเชียล มีแพ็กเกจจิ้งสวยงาม ใช้งานง่าย รวมถึงมีการออกแบบบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่ม

ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการสร้าง Community Wellness ผ่านกิจกรรม เช่น วิ่งสมาธิ ซาวนด์ฮีลลิ่ง น้ำแข็งบำบัด เพื่อสร้างความเชื่อมโยงในสังคม

Wellness ไทยจุดต่างที่ทรงพลัง

“ประชุม ตันติประเสริฐสุข” นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (TICA) บอกว่า ความต้องการของผู้เดินทางในยุคหลังโควิด-19 ได้เปลี่ยนไปสู่ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” (Purposeful Travel) และ “เรื่องราวที่น่าจดจำ” (Story-Worthy Moments) ทำให้แนวคิด Wellness และ Sustainability กลายเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในอนาคต

พร้อมย้ำว่า วันนี้เราไม่ได้แค่จัดงาน แต่เรากำลังสร้าง “โอกาส” และ “ความทรงจำ” ที่ตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก

“เมื่อพูดถึง Wellness หลายคนอาจนึกถึงสปาหรูหรือโยคะริมทะเล แต่ในความเป็นจริง ความหมายของ Wellness สำหรับไมซ์ไทยนั้น อาจเรียบง่าย อย่างการมอบยาดมสมุนไพรไทย ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งแม้เป็นของชิ้นเล็ก ๆ แต่กลับสามารถสร้างความประทับใจระดับสากล”

นี่คือ สิ่งที่ดูธรรมดาสำหรับคนไทย แต่อาจเป็นสิ่งแปลกใหม่และล้ำค่าสำหรับนักเดินทางต่างชาติ ยิ่งเมื่ออธิบายคุณค่าทางสมุนไพรและวัฒนธรรม “สิ่งธรรมดา” จะกลายเป็นประสบการณ์ที่พวกเขาจดจำ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Wellness Tourism ธุรกิจดาวรุ่ง-นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net