โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

KTC ผนึกพันธมิตรปั้น ‘โซลาร์รูฟ’ สู่ทุกครัวเรือน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเพื่อเป้าหมาย Net Zero

การเงินธนาคาร

อัพเดต 28 สิงหาคม 2568 เวลา 20.26 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เคทีซีร่วมกับกระทรวงพลังงาน SCG, GULF และ HomePro เร่งผลักดันให้ครัวเรือนไทยเข้าถึงการติดตั้ง “โซลาร์รูฟ” ได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นกำลังหลักในการผลักดันประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ

28 สิงหาคม 2568 นางสาวจารุวรรณ พิพัฒน์พุทธพันธ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มติดตามและประเมินผล กองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า “ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2050 และเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 50% ภายในปี 2037 การมีส่วนร่วมของภาคครัวเรือนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะทุกบ้านคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

การพัฒนาความยั่งยืนวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ ‘ควรทำ’ แต่เป็นสิ่งที่ ‘ต้องทำ’ เพื่อให้ประเทศไทยมีพลังงานที่มั่นคง ต้นทุนที่แข่งขันได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกครัวเรือน นโยบายด้านพลังงานของรัฐจึงเดินคู่ไปกับเป้าหมายสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ สร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งประเทศตั้งแต่ผู้บริโภค ผู้ประกอบการ ไปจนถึงชุมชนท้องถิ่น

โดยภาครัฐพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์รูฟ (Solar Roof) ในครัวเรือนอย่างครบมิติ ทั้งการยกระดับมาตรฐานการติดตั้งและความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการอนุญาต การผลักดันเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม โดยเฉพาะมาตรการลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้บริโภค ไปจนถึงการสร้างองค์ความรู้ให้ช่างและผู้บริโภค

นางสาวอำนวยพร ประกอบนพเก้า กรรมการผู้จัดการ GULF1 และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ GULF ในเครือบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) มองว่าความยั่งยืน คือแกนยุทธศาสตร์ที่เราให้ความสำคัญ “ทุกเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้นจากพลังงานสะอาดเป็นประโยชน์โดยตรงต่อภาคครัวเรือนและธุรกิจที่ได้ใช้ไฟอย่างคุ้มค่าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โดย GULF มุ่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ได้มากกว่าร้อยละ 40 ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมภายในปีพ.ศ. 2578 และมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปีพ.ศ. 2593 ทาง GULF1 และแบรนด์โซลาร์บ้านครบวงจร ‘วันอาทิตย์’ จึงมีแผนงานที่ชัดเจนในการทำให้พลังงานสะอาดอย่างโซลาร์รูฟท็อปเป็นเรื่องที่ ‘ตัดสินใจง่าย’

สำหรับทุกครัวเรือน มีจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยและงานติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลการประหยัดไฟได้แบบเรียลไทม์ แบรนด์ ‘วันอาทิตย์’ ไม่ได้เป็นแค่โซลาร์บ้าน แต่เป็นโซลูชั่นที่จะช่วยเติมความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวที่ได้ทำกิจกรรรมร่วมกันได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับค่าไฟ เพื่อให้ทุกวันที่อยู่บ้านเหมือน ‘วันอาทิตย์’ หรือ ‘วันครอบครัว’ นั่นเอง

นอกจากนี้ GULF1 ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย เช่น AIS เพื่อขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่าน AIS Shop ทั่วประเทศ รวมไปถึงเคทีซี พันธมิตรด้านการเงินที่แข็งแกร่ง นำเสนอทางเลือกในการชำระเงินที่หลากหลาย ทำให้การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมีความคุ้มค่าในระยะยาว สะท้อนความมุ่งมั่นของเราใน การส่งมอบโซลาร์รูฟท็อปที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และคุ้มค่าสำหรับทุกคน”

นายเกริก ยิ้มพรพิพัฒน์ผล Smart Residential Director บริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด กล่าวว่า “SCG มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 และยึดหลัก ESG เป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ เราไม่เพียงพัฒนาโซลูชันเพื่อภาคอุตสาหกรรม แต่ยังมุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับทุกครอบครัวในระดับบ้านพักอาศัย ความยั่งยืนวันนี้ไม่ใช่เรื่องสวยหรูอีกต่อไป แต่คือ โครงสร้างต้นทุนใหม่ของบ้าน วัสดุและระบบที่ประหยัดพลังงานช่วยลดค่าไฟลงได้จริง พร้อมยกระดับคุณภาพอากาศและ ความสบายในระยะยาว เราจึงพัฒนาวัสดุที่ลดการถ่ายเทความร้อน ควบคู่กับระบบโซลาร์และการจัดการพลังงาน เพื่อให้เจ้าของบ้านเห็นผลการประหยัดได้ตั้งแต่เดือนแรกที่ใช้งาน”

ONNEX by SCG จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ทั้งด้านพลังงานและสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น SCG Solar Roof ที่ช่วยผลิตไฟฟ้าใช้เอง ONNEX Active Air Flow ที่ระบายความร้อนและทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น และ ONNEX Active Air Quality ที่เติมอากาศสะอาด กรองฝุ่นและมลพิษเพื่อสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย และเพื่อให้เจ้าของบ้านสะดวกที่สุด

เรามี Smart Living plus application แอปเดียวที่รวมเอาทุกอุปกรณ์ของ Onnex เข้าด้วยกัน เหมือนมีผู้ช่วยคอยดูแลบ้าน ทำให้การอยู่อาศัยทั้งสบายขึ้น ฉลาดขึ้น และมั่นใจได้มากขึ้นทั้งหมดนี้คือแนวทางที่ SCG เชื่อมั่นว่า บ้าน Smart ไม่ได้หมายถึงเพียงการมีอุปกรณ์ทันสมัย แต่คือการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ อยู่สบายขึ้น ฉลาดขึ้น และมีความสุขมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดคาร์บอน สร้างความยั่งยืน และก้าวไปสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 ร่วมกัน”

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์และความยั่งยืนองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า“ความยั่งยืนไม่ใช่กิจกรรมเสริม แต่เป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจสินค้าและบริการเรื่องบ้านแบบครบวงจร

โดยพฤติกรรมผู้บริโภคไทยกำลังเปลี่ยนจาก ‘รับรู้’ สู่ ‘เลือกซื้ออย่างมีจิตสำนึก’ มากขึ้น ไม่เพียงแต่ให้ความสนใจในเรื่องราคาหรือคุณภาพสินค้าเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงคุณค่าและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม แม้ราคาและความคุ้มค่ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ลูกค้าจำนวนมากพร้อมสนับสนุนแบรนด์ที่มีนโยบายด้าน Circular Economy และ ESG ที่ชัดเจน

โฮมโปรวางเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่จะบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 และขับเคลื่อน Lifetime Eco-System เพื่อส่งมอบคุณค่าแห่งการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนตลอดช่วงอายุของการใช้งานสินค้าและบริการ เพื่อสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า หรือ Better Living

ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกซื้อสินค้า ออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมแซม รีโนเวท ไปจนถึงบริการหลังการขาย พร้อมยกระดับความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานสะอาด จัดการขยะอย่างถูกวิธี และลดการปล่อยก๊าซกระจกอย่างเป็นรูปธรรม”

“โฮมโปรได้เข้าไปช่วยดูแลจัดการสินค้าเก่าที่ไม่ใช้แล้วจากบ้านลูกค้าโฮมโปร โดยช่วยนำไปจัดการให้อย่างถูกวิธี ภายใต้โครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โฮมโปรทำหน้าที่เป็น ‘สะพาน’ เชื่อมผู้ผลิตที่ต้องการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่กับผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนของเก่าอย่างคุ้มค่าและจัดการอย่างถูกวิธี ปัจจุบันโฮมโปรรับเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ไม่ใช้แล้วกลับมากว่า 300,000 ชิ้น ซึ่งจะนำไปจัดการให้อย่างถูกวิธี

โดยบริษัทที่มีใบรับรองตามกฏหมายเป็นผู้ดำเนินการ และนำกลับมาผลิตเป็นสินค้าใหม่ ที่เราเรียกว่า “สินค้ารักษ์โลก หรือ Circular Products” นอกจากนี้ในปี 2568 โฮมโปรเดินหน้าขยายไลน์สินค้ารักษ์โลก ร่วมกับพันธมิตรหลายหลายแบรนด์ชั้นนำ

เพิ่มรายการสินค้าที่สามารถนำมาแลกได้มากกว่าเดิมถึง 8,000 รายการ เพื่อผลักดันให้ Circular Economy เป็นเรื่องที่ทำได้จริงในทุกบ้าน ตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีลูกค้านำของเก่ามาแลกมากกว่า 300,000 ชิ้น คิดเป็นสัดส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 80% พร้อมตั้งเป้าให้สินค้ารักษ์โลกมีสัดส่วน 20% ของยอดขายภายในปี 2030”

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต หมวดบ้านและเฟอร์นิเจอร์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยถึง มุมมองการทำ SD ของเคทีซีว่า “เคทีซีขับเคลื่อนกลยุทธ์และการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการและรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลง ควบคู่การบูรณาการแนวคิดเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกกระบวนการดำเนินงาน โดยยึดหลักการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบเชิงลบและสร้างคุณค่าในระยะยาว เพื่อส่งเสริมให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมในทุกมิติโดย

  • Environment (E) เคทีซีเข้าร่วมโครงการ “Care the Bear” ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อเนื่อง และสามารถลดการปล่อยก๊าซ CO₂ ได้มากกว่า 110,000 กิโลกรัมในปี 2022 เพียงปีเดียว เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 12,000 ต้น ผ่านการลดการใช้กระดาษและพลาสติกในการประชุมผู้ถือหุ้น โดยปัจจุบันได้มีปรับเปลี่ยนการประชุมเป็นรูปแบบออนไลน์แทนขณะเดียวกันยังเดินหน้า ดิจิทัลโซลูชัน อย่าง E-Application, E-Statement, E-Coupon และ E-Payment ที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรพร้อมอำนวยความสะดวกแก่สมาชิก
  • Social (S) เคทีซีผลักดันความหลากหลายและการมีส่วนร่วม (DEI) ผ่านเวที “Beyond Rainbow” ที่เปิดพื้นที่ให้ธุรกิจและแรงงานไทยตระหนักถึงบทบาทของ LGBTQ+ และสร้างความเท่าเทียมเชิงนโยบายและปฏิบัติ และในด้าน
  • Governance (G) บริษัทได้ยกระดับโครงสร้างด้วยการจัดตั้ง Audit, Corporate Governance, and Sustainability Committee เพื่อดูแลการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส รับผิดชอบ และยังได้รับการประเมิน ESG Rating ระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อเนื่อง รวมถึงเป็นสมาชิก ESG100 มากว่า 9 ปี ยืนยันถึงความจริงจังด้านธรรมาภิบาล”

เคทีซียังมุ่งสร้างระบบนิเวศพลังงานสะอาดสำหรับครัวเรือน โดยร่วมกับพันธมิตรภาคธุรกิจ เปิดแคมเปญ “เซฟคุณ เซฟโลก” เพื่อช่วยสมาชิกเข้าถึง และรับความรู้ความเข้าใจในการเลือกการติดตั้ง ‘โซลาร์ รูฟ’ ได้ง่ายขึ้นอย่างเหมาะสม พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านการเงิน ด้วยทางเลือกผ่อนชำระ 0% เครดิตเงินคืน และคูปองส่วนลด

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนสิทธิพิเศษสำหรับสินค้าวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและบริการประหยัดพลังงาน เพื่อให้ครัวเรือนสามารถร่วมพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อสังคมและโลกของเราในระยะยาวโดยข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดบ้านและเฟอร์นิเจอร์ครอบคลุมโซลาร์รูฟ

ภาพรวมใน 7 เดือนที่ผ่านมาเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีแนวโน้มที่ยังเติบโตสูงขึ้น 3% โดยคาดการณ์จนถึงสิ้นปีนี้ น่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 6% เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงการช่วยให้สมาชิกประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่คือการสร้างคุณค่าเชิงบวกที่ยั่งยืน บ้านที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัว และยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมสู่คาร์บอนต่ำ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ Green Finance ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

3 สมมติฐาน คดีนายกฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

47 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทย ปิดบวก 2.06 จุด Thailand Focus หนุน รอลุ้นผลคดีคลิปเสียงนายกฯพรุ่งนี้ปลดล็อกการเมือง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

JD.com ครองอันดับ 1 บริษัทเอกชนใหญ่สุดในจีน รายได้ทะลุ 1 ล้านล้านหยวน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ปล่อยแอปฯโฉมใหม่ (Beta Version) ชวนลูกค้าร่วมทดสอบฟีเจอร์เด็ด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ซีพี แอ็กซ์ตร้า จัด แม็คโคร โฮเรก้า ภูมิภาค โรดโชว์ ติดอาวุธธุรกิจอาหารทั่วประเทศ จุดพลังผู้ประกอบการไทย ให้แข่งขันได้และเติบโตอย่างยั่งยืน

BTimes

‘วู้ดดี้’จัดDragonfly Summit 2025 บิ๊กอีเวนต์แห่งปี

เดลินิวส์

“สินี-สุนงค์” โต้ “ชนินทธ์” เดือด แจงละเอียดปมขัดแย้ง “ดุสิตธานี”

Manager Online

GULF มอบ 5.3 ล้านบาท จากกองทุน 100 ล้าน ช่วย 6 ทหารกล้าชายแดน

เดลินิวส์

ทำความรู้จัก “Definit Select” พอร์ตลงทุนอัตโนมัติ คัดหุ้นคุณภาพสูง

PostToday

เป็นโสด(จะ)ทำไม เศรษฐกิจโลกบนพลังกลุ่มคนโสดในอนาคต l 27 ส.ค. 68 FULL l BTimes ShowBiz

BTimes

“นับคาร์บ” เห็นผลป่วย NCDs ลดช่วยประหยัดงบ787ล.

เดลินิวส์

เปิดผลสำรวจคนไทย ใช้บริการดูแลรถ จากความคุ้มค่า และสะดวกสบาย

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...