โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

'สินี-สุนงค์' แถลงการณ์โต้ 'ชนินทธ์' ปมจัดสรรมรดก-ดุสิตธานี

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

2 พี่น้อง "สินี - สุนงค์" ร่อนแถลงการณ์โต้กลับ "ชนินทธ์" พี่ชาย หลังตั้งโต๊ะแถลงข่าวปมปัญหาดุสิตธานี ที่พาดพิงถึงการพยายามเข้ามาถือหุ้นของ "คนนอก" โดยมีการแจงยิบ "เซ็นทรัล" ไม่คิดเทคโอเวอร์ "ดุสิตธานี" รวมถึงปมการจัดสรรกองมรดกยังไม่จบ! พร้อมแย้งการตกลงให้ "ชนินทธ์" ได้หุ้นทั้งหมดในบริษัท ชนัตถ์และลูก" ไม่เป็นความจริง!

บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ("บริษัทฯ") เดินหน้าขอชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายชนินทธ์ โทณวณิก แถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ดังนี้

1. การบริหารจัดการบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด และบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นคนละเรื่องกับการจัดการทรัพย์มรดกของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย

บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 โดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย และให้บริษัทฯ เข้าไปถือหุ้นในบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ("ดุสิตธานี") ซึ่งในครั้งนั้น ท่านมีเจตนารมณ์ต้องการให้บริษัทฯ เป็นบริษัทของ บุคคลในครอบครัวเท่านั้น จึงได้กำหนดให้มีผู้ถือหุ้นหลักอยู่ 4 คน คือ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ และลูกทั้ง 3 คน และได้กำหนดข้อบังคับของบริษัทฯ ไว้ในข้อ 6. ว่า "ห้ามมิให้ผู้ถือหุ้นโอนหุ้นของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอกเว้นแต่จะโอนหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมหรือผู้สืบสันดานของผู้ถือหุ้นเดิมเท่านั้น" และข้อ 7. ว่า "ห้ามมิให้จำหน่าย จ่ายโอนหุ้นของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เว้นแต่เป็นการจำหน่าย จ่ายโอนเพื่อการชำระบัญชีของบริษัทเท่านั้น…."

กรณีที่นายชนินทธ์ฯ แถลงในทำนองว่า การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะมีการเสนอกรรมการใหม่บางคนที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเซ็นทรัล เปิดทางให้คนนอกเข้าควบคุมกิจการ ที่ครอบครัวสร้างมา และเป็นการเปิดประตูให้คนนอกเข้ามาครอบครองกิจการด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เพราะจากข้อบังคับดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ ไม่สามารถขายหุ้นดุสิตธานีให้กับบุคคลภายนอกครอบครัวได้ ซึ่งในเรื่องนี้ นายชนินทธ์ฯ ก็ทราบดีอยู่แล้ว การที่นายชนินทธ์ฯ ออกมาแถลงเช่นนี้ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร และจะเป็นประโยชน์แก่กิจการดุสิตธานีและผู้ถือหุ้นโดยส่วนรวมอย่างไร ในความเห็นของบริษัทฯ นั้น การออกมาแถลงเช่นนี้ ไม่ได้มีประโยชน์ใด ๆ เลยต่อดุสิตธานีและผู้ถือหุ้น

บริษัทฯ ขอเรียนว่า การที่บริษัทฯ ยื่นขอให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของดุสิตธานีในครั้งนี้ ได้กระทำโดยมีเจตนาดีต่อดุสิตธานีและผู้ถือหุ้น

โดยเป็นการใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างมีเหตุมีผลเพราะดุสิตธานีไม่ได้จ่ายเงินปันผลมาเป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว และยังมียอดขาดทุนสะสมกว่า 1,254 ล้านบาท บริษัทฯ จึงไม่สามารถนิ่งเฉยได้ และจำเป็นต้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานของดุสิตธานี โดยเพิ่มเติมจำนวนกรรมการ 10 คน เข้าร่วมในการบริหารกิจการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้กิจการ ดุสิตธานีกลับมามีกำไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยส่วนรวม

ที่สำคัญ คือ บริษัทฯ เห็นว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ("เซ็นทรัลพัฒนา") ถือหุ้นอยู่ในดุสิตธานีเป็นจำนวนถึง 17.09% และเป็นพันธมิตรหลักที่ร่วมลงทุนในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท บริษัทฯ จึงเห็นสมควรเชิญให้เซ็นทรัลพัฒนาส่งตัวแทนเข้ามาร่วมเป็นกรรมการของดุสิตธานีด้วย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้น อันถือเป็นแนวปฏิบัติตามปกติในการดูแลเงินลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจโดยทั่วไป ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เพื่อให้เซ็นทรัล พัฒนาใช้ความรู้และประสบการณ์ของตนเข้ามาสนับสนุน และร่วมกันพัฒนากิจการของดุสิตธานีให้แข็งแกร่งและเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาก็ได้เสนอชื่อกรรมการเข้ามาเพียง 2 คนเท่านั้น จากจำนวนกรรมการที่จะเข้าใหม่จำนวน 10 คน จึงเป็นไปไม่ได้ที่เซ็นทรัลพัฒนาจะเข้ามาควบคุมอำนาจบริหารหรือเข้ามา ยึดกิจการของดุสิตธานี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว อีกทั้ง บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าเซ็นทรัลพัฒนาเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ มีความเป็นมืออาชีพ และดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลมาโดยตลอด ย่อมไม่มีความคิดที่จะเข้ามา Take Over กิจการของดุสิตธานีตามที่ถูกกล่าวอ้างอย่างแน่นอน

บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นดุสิตธานีว่า การดำเนินการในครั้งนี้ บริษัทฯ มีเจตนาดีที่จะเข้ามาบริหารดุสิตธานีให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักการและแนวทางการบริหารงานของ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ เป็นแบบอย่าง ซึ่งนางสินีฯ บุตรสาวที่ได้ร่วมทำงานกับท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ ก็ได้ซึมซับ รับรู้และได้รับการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ จากท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ โดยตรงมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี บริษัทฯ จึงเห็นว่า นางสินีฯ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ มีประสบการณ์ มีความสามารถ และมีความเหมาะสมที่จะเข้าบริหารกิจการของดุสิตธานีได้อย่างแน่นอน อีกทั้ง ดร.กฤษดา กวีญาณ และนายศุภศักดิ์ จิรเสวีนุประพันธ์ ซึ่งจะเข้ามาร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อร่วมกับนางสินีฯ นั้น ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเซ็นทรัลพัฒนา และเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่บริษัทฯ เชื่อว่าจะบริหารจัดการดุสิตธานีได้อย่างโปร่งใส และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ดุสิตธานีประสบความสำเร็จและเป็นแบรนด์ของโรงแรมที่มีความเข้มแข็ง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก และดำรงยังยืนอยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป สมดังเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ ผู้ก่อตั้งดุสิตธานี

ดังนั้น ตามที่นายชนินทธ์ฯ แถลงว่า ".

…. ซึ่งสุดท้ายแล้ว เป็นที่น่าเสียใจและเจ็บปวดอย่างยิ่ง ที่คุณสินีและน้องอีกคนเห็นต่าง และเป็นผู้เปิดประตูเชิญชวนคนนอกที่ไม่เคยบริหารดุสิตธานีมาก่อนเข้ามามีอำนาจควบคุม บมจะดุสิตธานี ที่ยืนหยัดบริหารงานตามหลักการของท่านผู้หญิงชนัตถ์มาโดยตลอด" จึงไม่เป็นความจริง และเห็นว่าเป็นการจงใจหมิ่นประมาทใส่ความ บริษัทฯ นางสินีฯ และนางสุนงค์ฯ อีกด้วย

2. การจัดการทรัพย์มรดกของท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ เป็นเรื่องระหว่างทายาทบริษัทฯ นางสินีฯ และนางสุนงค์ฯ ขอเรียนว่า ความจริงแล้วในเรื่องการจัดการมรดกของท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ เป็นเรื่องภายในของครอบครัว จึงไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำออกไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่น ต้องรับรู้ ซึ่งหากท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ รับรู้ด้วยญาณวิถีใดก็คงเศร้าใจและเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่นายชนินทธ์ฯ บุตรชายคนโตได้นำเอาเรื่องการจัดการทรัพย์มรดกอันเป็นเรื่องภายในครอบครัวออกมาเผยแพร่ต่อ บุคคลภายนอก และพยายามนำมาผูกโยงกับการบริหารจัดการดุสิตธานี จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้รับทราบโดยทั่วกัน

ตามที่นายชนินทธ์ฯ กล่าวอ้างว่า ทายาททั้งสามคนของท่านผู้หญิงชนัตถ์ฯ ได้ตกลงแบ่งทรัพย์มรดกเรียบร้อยแล้ว โดยทุกฝ่ายตกลงให้นายชนินทธ์ฯ ได้หุ้นทั้งหมดในบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะทายาทยังตกลงกันไม่ได้ ข้อตกลงที่อ้างนั้นยังไม่เกิดขึ้น และในเรื่องนี้ เมื่อปี 2566 นายชนินทธ์ฯ ได้ยื่นฟ้องนางสินีฯ และนางสุนงค์ ต่อศาลเพื่อขอบังคับให้โอนหุ้นบริษัทฯ ให้แก่นายชนินทธ์ฯแต่ผู้เดียว แต่ต่อมาเมื่อปี 2567 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องของนายชนินทธ์ฯ โดยวินิจฉัยไว้ชัดเจนแล้วว่า

"ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าการประชุมผู้จัดการมรดกระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสองดำเนินมาถึงเพียงขั้นตอนกำหนดแนวทางและวิธีการแบ่งทรัพย์มรดก" และอีกตอนหนึ่ง "แต่เกิดความขัดแย้งเสียก่อนทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้น ข้อตกลงที่โจทก์อ้างตามฟ้องจึงยังไม่เกิดขึ้น" แต่นายชนินทธ์ฯ ก็ยังคงกล่าวอ้างมาตลอดว่ามีข้อตกลงนั้นอยู่

การที่นายชนินทธ์ฯ แถลงว่า "…. โดยทุกฝ่ายตกลงให้ผมได้หุ้นทั้งหมดในบริษัท ชนัตถ์และลูกจำกัด ในขณะที่น้องแต่ละคนได้หุ้นในอีกสองบริษัทดังกล่าว และให้นำทรัพย์สินอื่น ๆ มาชดเชยกันให้เป็นธรรมและเท่าเทียมกันสำหรับทุกฝ่าย แต่ในภายหลัง ทั้งสองคนเปลี่ยนใจไม่ยอมรับข้อตกลงนั้น ซึ่งผมเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของน้องทั้งสอง น่าจะเป็นผลมาจากโครงการดุสิต เรสซิเดนเซส เกิดขายดีกว่าที่คิดหลังจากโควิดจบลง" จึงเป็นการกล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น และทำให้นางสินีฯ และนางสุนงค์ฯ ได้รับความเสียหาย เพราะกรณีที่เกิดขึ้นมิใช่เรื่องที่นางสินีฯ และนางสุนงค์ฯ เพิ่งมาเปลี่ยนใจในภายหลังแต่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถตกลงแบ่งปันทรัพย์มรดกกันได้ตั้งแต่ปี 2565 แล้ว

ดังนั้น บริษัทฯ นางสินีฯ และนางสุนงค์ฯ จึงขอเรียนยืนยันชี้แจงว่า การดำเนินการในเรื่องของดุสิตธานีและขอให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดุสิตธานีนั้น เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของดุสิตธานีและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามายึดกิจการและควบคุมอำนาจบริหารของดุสิตธานี้อย่างแน่นอน และบริษัทฯ จะทำทุกวิถีทางให้ดุสิตธานีมีการบริหารกิจการอย่างโปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล และพร้อมยอมรับให้มีการตรวจสอบจากทุกฝ่าย เพื่อให้ดุสิตธานีดำรงอยู่อย่างมั่นคง มีความก้าวหน้า และเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

นางสินี เธียรประสิทธิ์ นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาคกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด และในฐานะส่วนตัว

28 สิงหาคม 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ข้าวโพดสหรัฐ ความกังวลในเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ซินโครตรอน ตรวจธาตุทองโบราณ หลุมศพโนนพลล้านโคราช แหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ข้าวโพดสหรัฐ ความกังวลในเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

กรุงเทพธุรกิจ

ซินโครตรอน ตรวจธาตุทองโบราณ หลุมศพโนนพลล้านโคราช แหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์

กรุงเทพธุรกิจ

TOP ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.80 บาท ขึ้น XD 10 ก.ย.68

ข่าวหุ้นธุรกิจ

BBL เคาะปันผล 2 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 10 ก.ย.นี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

รมว.ทส. เปิดโครงการฟื้นฟูแหล่ง “แก้มลิง” หนุนความมั่นคงน้ำ-เศรษฐกิจชุมชน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

‘อีเอสอาร์ไอ’ จัด ‘TUC 2025’ โชว์พลัง GIS ผสาน AI–คลาวด์ ยกระดับการจัดการวิกฤติ

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...