ปรากฏการณ์ ‘หมอบี’ จากศรัทธาสู่ข้อกังขา
หมอบี หรือ เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์จากบทบาททูตสื่อวิญญาณในฐานะเจ้าของเพจ ‘งมงายสไตล์หมอบี’ ที่ออกตัวว่าเป็น ผู้สามารถสื่อสารกับสิ่งลี้ลับ ผ่านการใช้สติและเหตุผล
อีกด้านหนึ่ง เขายังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ขับเคลื่อนโครงการบุญและกิจกรรมจิตอาสาที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี
ไม่นานนี้ชื่อของหมอบีกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวพันกับการใช้เงินบริจาคในทางที่มีพิรุธ
THE STANDARD ชวนย้อนไปทำความรู้จักหมอบี ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงบทบาทปัจจุบัน และพร้อมทำความเข้าใจกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยคุณสมบัติของไวยาวัจกร
จุดเริ่มต้นทูตสื่อวิญญาณ
หมอบี เกิดในครอบครัวคนจีน อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และจบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงินจากประเทศสหรัฐอเมริกา การที่หมอบีเลือกเดินเส้นทางโลกแห่งวิญญาณ เนื่องจากมีจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก ระหว่างเทศกาลสารทจีนที่บ้าน เขาระบุว่าได้สัมผัสกับโลกที่มองไม่เห็นเป็นครั้งแรก เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการตั้งคำถามกับโลกหลังความตาย
เสกสันน์ เริ่มช่วยเหลือผู้คนจากเหตุการณ์ลี้ลับตั้งแต่อายุ 17 ปี จนเป็นที่รู้จักและได้รับงานในหลายประเทศ โดยบางเคสมีค่าตอบแทนสูงถึง 50 ล้านบาท ก่อนเลิกเรียกรับเงิน เพราะรู้สึกไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริง
เมื่อมีชื่อเสียง เขานำประสบการณ์เหล่านั้นมาถ่ายทอดผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพจงมงายสไตล์หมอบี YouTube หรือรายการโทรทัศน์ พร้อมทั้งเผยแพร่หลักคิดทางพุทธศาสนาในเชิงเหตุผล ควบคู่กับการทำงานเป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้คน โดยเน้นการฟังและเยียวยาด้วยความเข้าใจ
อุทิศตนเป็นเด็กวัด ช่วยเหลือผู้ป่วย HIV
นอกจากบทบาทด้านวิญญาณ ปัจจุบันหมอบียังอุทิศตนเป็นเด็กวัด คอยติดตามหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ทำงานจิตอาสาต่างๆ และช่วยเหลือผู้ป่วย HIV พร้อมทั้งก่อตั้งร้านนาถะ คาเฟ่ ซึ่งรายได้ทั้งหมดนำไปถวายวัดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ และเปิดบัญชีภายใต้ชื่อ ‘ใจฟ้า อาทรประชานาถ โดย นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล’ เพื่อรับบริจาค
จากการอุทิศตนเพื่อผู้คนทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ทำให้ตัวหมอบีได้รับรางวัล GQ Men of the Year 2022 ในสาขา Philanthropist of the Year
หมอบี กับบทบาทจิตอาสาในวัดพระบาทน้ำพุ
พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดใจเล่าถึงความสัมพันธ์กับหมอบีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ว่า รู้จักกับหมอบีมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยหมอบีได้เสนอตัวเข้ามาเป็นจิตอาสา หลวงพ่อย้ำว่าหมอบีไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในวัด
หลวงพ่ออลงกต กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2562 หมอบีได้ขออนุญาตเปิดบัญชี ‘ใจฟ้า อาทรประชานาถ โดย นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล’ โดยใช้ชื่อนี้ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และรับบริจาคเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของวัด แต่ไม่ใช่บัญชีของวัดโดยตรง
ในปีแรกบัญชีมีเงินเข้ามาประมาณ 4 – 5 ล้านบาท แต่ต่อมาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามกระแสนิยมของหมอบีในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ มีผู้ศรัทธาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก รวมแล้วกว่าร้อยล้านบาท
หลวงพ่อ อธิบายว่า กิจกรรมที่หมอบีจัดขึ้น เช่น โครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ เมื่อได้รับเงินบริจาคแล้วก็จะโอนเงินไปยังโรงฆ่าสัตว์โดยตรง และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2567 ได้มีผู้มาร้องเรียนกับหลวงพ่อว่า หมอบีมีการถวายเงินไม่ครบถ้วน หลวงพ่อจึงสอบถามหมอบีโดยตรง และพบประเด็นที่ควรตั้งข้อสังเกตหลายประการ เช่น ทรัพย์สินของหมอบี บ้าน รถ และกระเป๋าแบรนด์เนม จึงอยากให้หมอบีออกมาชี้แจงด้วยตนเอง
มติการประชุมวัดพระบาทน้ำพุล่าสุด
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการวัด ทนายความ เจ้าคณะปกครอง และคณะกรรมการมูลนิธิ โดยมีมติดังนี้
- ห้ามหมอบียุ่งเกี่ยวกับกิจการของวัดทั้งหมด และต้องดำเนินการปิดบัญชีธนาคาร
- ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะมีการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน
- ยุติโครงการที่หมอบีมีส่วนร่วม เช่น ร้านกาแฟ
- ยุติกิจกรรมที่บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจิตอาสาทั้งหมด
หมอบีเล่าปมเงินบริจาคร้อยล้าน
ในวันเดียวกัน 7 สิงหาคม หลังหมอบีออกจากโรงพยาบาล ได้ทำการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้สัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ ช่อง GMM25 เวลา 21.30 น.
หมอบีเผยว่า ไม่มีการยักยอกเงินวัดแต่อย่างใด ถวายเงินครบถ้วน โดยให้เป็นเงินสดเพื่อให้หลวงพ่อนำไปใช้ได้ตามดำริ และเงินไม่ได้เข้าวัดเพราะตั้งใจถวายให้หลวงพ่อโดยตรง ทุกอย่างมีคำอนุมัติจากหลวงพ่อทั้งหมด ส่วนประเด็น 70-30 นั้นไม่มีจริง ถวายเงินครบถ้วน และในตอนถวายต้องเปิดซอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
หมอบี กล่าวถึงที่มาของรายได้ว่า มาจากน้ำใจของผู้ที่ไปให้ความช่วยเหลือ ซึ่งแต่ละคนจะให้เป็นซองตามน้ำใจของเขา แต่หมอบียืนยันว่าไปช่วยใครไม่เคยเรียกเก็บเงิน ส่วนบ้านที่กำลังเป็นประเด็น เป็นเรื่องส่วนตัว มีมูลค่าเพียง 30 ล้านบาท
ประเด็นเรื่องรูปภาพ หมอบีเผยว่า เอามาจากใน Google จริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากสมัยก่อนมักไปทำงานคนเดียว ไม่ได้ถ่ายรูป เมื่อทำงานเสร็จก็กลับ จึงนำภาพมาประกอบเพื่อสื่อว่ามีเคสลักษณะนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หมอบีอยู่กับหลวงพ่อมา 10 ปี ยืนยันว่าไม่มีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทุกอย่างผ่านการอนุมัติจากหลวงพ่อทั้งหมด และมีโครงการต่างๆ มากมาย เช่น โครงการไถ่ชีวิตโคกระบือที่ไถ่ได้แล้วกว่า 600 ตัว โดยหมอบีโอนเงินตรงไปยังฟาร์ม ซึ่งมีหลักฐานครบถ้วน
สำหรับเหตุผลที่ต้องใช้ชื่อบัญชีโดยหมอบี หมอบีเล่าว่า มูลนิธิจะมีข้อกำหนดการใช้เงินตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ แต่บัญชีนี้หมอบีทำขึ้นเพราะมีผู้ศรัทธาเชื่อมั่นว่าสิ่งที่หมอบีทำอยู่เป็นรูปธรรม จึงมอบให้หมอบีเป็นตัวแทนนำไปถวายหลวงพ่อ กระบวนการใช้เงินทุกครั้งจะผ่านการอนุมัติจากหลวงพ่อก่อน และให้อดีตเลขาฯ เป็นผู้ไปเบิก หมอบีไม่เคยตรวจสอบ เมื่อได้รับเงินมาก็นำไปถวายหลวงพ่อ
นอกจากนี้ หมอบีอธิบายว่า ไม่เคยสารภาพว่านำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ แต่เพียงไปชี้แจงให้หลวงพ่อทราบ พร้อมนำหลักฐานไปแสดง ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ได้ปิดบัญชีใจฟ้าโดยชื่อหมอบี เพราะเข้าโรงพยาบาล และในประเด็นที่กล่าวหาว่าสร้างสถานปฏิบัติธรรมแล้วนำเงินไปสร้างบ้านนั้น หมอบีย้ำว่าไม่เป็นความจริง และไม่ได้ขอเงินจากหลวงพ่อแต่อย่างใด
ไวยาวัจกรตามกฎมหาเถรสมาคม
ทั้งนี้แม้จะมีการยืนยันจากหลวงพ่ออลงกตว่า หมอบีเป็นเพียงจิตอาสา ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งใดๆ ของวัด
อย่างไรก็ตาม THE STANDARD ได้สรุปลักษณะของ ไวยาวัจกรตามกฎมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นผู้ได้รับแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสให้ทำหน้าที่ดูแลจัดการทรัพย์สินของวัด และทำกิจธุระแทนพระสงฆ์ มีลักษณะดังต่อไปนี้
- ผู้ชาย สัญชาติไทย นับถือพระพุทธศาสนา
- อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี
- เป็นผู้มีหลักฐานมั่นคง
- สามารถปฏิบัติหน้าที่ไวยาวัจกรได้
- เลื่อมใสในการปกครองตามระบอบรัฐธรรมนูญ
- ไม่มีภาวะทุพพลภาพ ไร้ความสามารถ จิตใจไม่สมประกอบ หรือโรคที่เป็นที่รังเกียจของสังคม
- ไม่บกพร่องในศีลธรรม เช่น เสเพล เล่นการพนัน ดื่มสุรา หรือติดยาเสพติด
- ไม่เป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว
- ไม่เคยถูกลงโทษให้ออกจากราชการ องค์การของรัฐบาล หรือบริษัทเอกชน ในกรณีทุจริตด้านการเงิน
- ไม่เคยถูกลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นลหุโทษหรือความผิดโดยประมาท