WWE เซ็นสัญญาราคากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์กับช่อง ESPN ในอเมริกา
นับว่าเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการสื่อกีฬาเมื่อรายการแข่งขันมวยปล้ำยักษ์ใหญ่ที่อยู่คู่วงการกีฬาและความบันเทิงมายาวนานอย่าง WWE เซ็นสัญญาระยะเวลา 5 ปีกับช่องมีเดียกีฬาสัญชาติอเมริกันอย่าง ESPN ในราคาสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยมอบสิทธิสตรีมมิ่งการแข่งขัน WWE Premium Live Events เฉพาะในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดให้ Disney แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งข้อตกลงในครั้งนี้ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จของ WWE รวมไปถึงความเชื่อมั่นในการสร้างแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใหม่ของ ESPN ด้วย
ข้อตกลงนี้จะเริ่มต้นในปี 2026 โดยรายการการแข่งขันของ WWE ทั้ง WrestleMania, SummerSlam, Royal Rumble และ Survivor Series จะย้ายไปฉายผ่านทางช่องทางต่างๆ ของ ESPN ในสหรัฐฯ ทั้งหมด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ WWE อยู่ใต้ปีกช่อง Peacock ของ NBCUniversal มาหลายปี และกำลังจะหมดสัญญาในเดือนมีนาคม 2026 ซึ่งการเคลื่อนไหวของ WWE ก็คล้ายกับ UFC ที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลังอยู่ภายใต้การดูแลของ ESPN
สำหรับ ESPN แล้ว การเซ็นสัญญากับ WWE ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเดินหน้าแพลตฟอร์ม Direct-to-Consumer ใหม่ของพวกเขาที่จะเปิดตัวในวันที่ 21 สิงหาคม โดยคิดราคา 29.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งประธาน ESPN เผยว่ารายการ WWE จะสามารถดึงดูดฐานแฟนอันกว้างขวางของพวกเขา ที่ทั้งทุ่มเทและเต็มไปด้วยแพสชันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อ WWE มีอีเวนต์การแข่งขันใหญ่ต่างๆ ที่จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในอนาคตของ ESPN อีกทั้งทางแพลตฟอร์มยังสามารถสร้างคอนเทนต์ก่อนและหลังอีเวนต์เหล่านั้นได้อีกด้วย
ช่วงที่ผ่านมา ESPN เดินหน้าลงทุนสำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใหม่อย่างเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งปิดสัญญากับการแข่งขันของ NFL ได้สำเร็จ และยังมีการรายงานว่า ESPN กำลังพูดคุยกับ Major League Baseball เพื่อที่จะได้ลิขสิทธิ์ในการออนแอร์การแข่งขัน ซึ่งสำหรับการเซ็นสัญญากับ WWE ก็นับเป็นการเสริมทัพที่สำคัญในการแข่งขันอันดุเดือดของเหล่าแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ครอบคลุมทั้งด้านกีฬาและความบันเทิงเพื่อดึงดูดผู้ชมอย่างหลากหลาย
ภาพ: Rich Freeda / WWE via Getty Images
อ้างอิง: