‘Apple’ โชว์รายได้โตทุบสถิติตั้งแต่ 2021 แม้ต้องแบกภาษี 26,000 ล้านบาท
“Apple” บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมา “เหนือความคาดหมาย” ทั้งกำไรและรายได้สูงกว่าที่วอลสตรีทเคยคาดการณ์ไว้ โดยยอดขาย iPhone เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และรายได้โดยรวมเติบโต 10% ซึ่งเป็นการเติบโตของรายได้รายไตรมาสที่ “ใหญ่ที่สุดของ Apple” นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021
นี่คือผลการดำเนินงานของ Apple เทียบกับประมาณการของนักวิเคราะห์สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายน
- กำไรต่อหุ้น (EPS): 1.57 ดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 1.43 ดอลลาร์
- รายได้รวม: 94,040 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 89,530 ล้านดอลลาร์
- รายได้ iPhone: 44,580 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 40,220 ล้านดอลลาร์
- รายได้ Mac: 8,050 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 7,260 ล้านดอลลาร์
- รายได้ iPad: 6,580 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 7,240 ล้านดอลลาร์
- รายได้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Other Products): 7,400 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 7,820 ล้านดอลลาร์
- รายได้บริการ (Services): 27,420 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 26,800 ล้านดอลลาร์
- อัตรากำไรขั้นต้น: 46.5% เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 45.9%
ขณะเดียวกัน Apple รายงานว่า รับภาระค่าใช้จ่ายจากภาษีนำเข้าจำนวน 800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 26,000 ล้านบาท ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ซึ่ง “ต่ำกว่า” ที่บริษัทเคยประมาณการไว้ 900 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม จากคำกล่าวของทิม คุก ซีอีโอของ Apple
สำหรับไตรมาสเดือนกันยายน คุกคาดการณ์ว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ Apple อาจต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากภาษีนำเข้าประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์
คุกเสริมว่า ประมาณ 1 ใน 10 เปอร์เซ็นต์ของการเติบโตของรายได้ของบริษัทนั้น มาจากการที่ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ธุรกิจสำคัญที่สุดของ Apple ยังคงเป็น “iPhone” ซึ่งมีการเติบโต 13% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสนี้ ด้วยยอดขายสูงถึง 44,580 ล้านดอลลาร์
คุกเสริมต่อว่า รายได้จาก iPhone ที่แข็งแกร่ง เป็นผลมาจาก iPhone 16 ที่ได้รับความนิยม ในอัตรา “เลขสองหลักที่แข็งแกร่ง” มากกว่า iPhone 15 ซึ่งวางขายในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว โดยเขาเน้นย้ำถึงความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ iPhone เดิม ที่อัปเกรดเป็นรุ่นใหม่
สำหรับธุรกิจ Mac ของ Apple มีการเติบโตที่เร็วที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Apple ในไตรมาสเดือนมิถุนายน โดยเติบโตเกือบ 15% คิดเป็นรายได้ 8.05 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Apple ได้เปิดตัวแล็ปท็อปรุ่น MacBook Air ที่อัปเดตใหม่ อันเป็น Mac ที่ขายดีที่สุด
ส่วนธุรกิจบริการของ Apple ซึ่งรวมถึงบริการรับประกันสินค้า การสมัครสมาชิกเนื้อหา ข้อตกลงใบอนุญาตกับ Google และ iCloud ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นรายได้ 27,420 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 13% โดยคุกเน้นย้ำถึงการเติบโตของการสมัครสมาชิก iCloud ของบริษัท และกล่าวว่ารายได้จาก App Store เติบโตเป็น “เลขสองหลัก” ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มี “จุดที่ท้าทายสองประการ” ในรายงานผลประกอบการของ Apple คือ “ยอดขาย iPad” และแผนกผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัทในหมวด “ผลิตภัณฑ์สวมใส่” ซึ่งประกอบด้วย Apple Watch, AirPods และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ โดยรายได้จาก iPad ลดลง 8% อยู่ที่ 6.58 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าบริษัทจะเปิดตัว iPad ราคาประหยัดในเดือนมีนาคมก็ตาม ส่วนหมวดผลิตภัณฑ์สวมใส่ของ Apple ก็ลดลง 8.64% อยู่ที่ 7.4 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสนี้
ทั้งนี้ Apple ยังคงประสบความสำเร็จในประเทศจีนในไตรมาสสามนี้ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 15,370 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพลิกกลับจากสองไตรมาสที่ผ่านมา จากเดิมยอดขายของ Apple ในจีนลดลง 2% ในไตรมาสที่สอง และลดลง 11% ในไตรมาสแรก
อ้างอิง: cnbc