Tesla เผยรายได้ไตรมาส 2/2025 ร่วง 12%
Tesla เผยรายได้ไตรมาส 2/2025 ร่วง 12%
เมื่อรายได้หด กำไรก็ลดตาม โดยกำไรขั้นต้นรวมของ Tesla ร่วงลง 15% เหลือเพียง 3.9 พันล้านดอลลาร์ และ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) ก็ลดลง 7% เหลือ 3.4 พันล้านดอลลาร์
Tesla ชี้ว่า สาเหตุหลักมาจากยอดส่งมอบรถที่ลดลง รายได้จากเครดิตสิ่งแวดล้อมที่ต่ำลง รวมถึงราคาขายเฉลี่ยต่อคันที่ลดลง นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ในรายละเอียดยอดขาย Model 3/Y ลดลง 12% เหลือ 373,728 คัน ขณะที่รถกลุ่ม "อื่น ๆ" ที่รวม Cybertruck, Model S และ Model X มียอดส่งมอบเพียง 10,394 คัน ลดลงกว่า 52% ซึ่งสะท้อนว่าการเปิดตัว Cybertruck ยังไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้
ความหวังอยู่ที่โมเดลใหม่ แต่ Roadster ยังอยู่ในขั้น "ออกแบบ"
แม้ Tesla จะพยายามให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่า “ไลน์อัปรถยนต์ทั้งหมดได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม” พร้อมย้ำว่ากำลังเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มเติมภายในปีนี้ แต่รถสปอร์ต Roadster ที่เลื่อนมานานก็ยังอยู่ในขั้นตอน “การพัฒนาเชิงออกแบบ” เท่านั้น หมายความว่าระยะเวลาการผลิตจริงยังคงอีกนาน
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ Tesla ชูคือบริการ Robotaxi ที่เพิ่งเริ่มให้บริการในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยบริษัทระบุว่ากำลัง “ปรับปรุงและขยายบริการเพิ่มเติม” ไปยังเมืองอื่น ๆ ทั่วสหรัฐฯ และวางระบบให้สามารถ “ขยายบริการได้รวดเร็ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำ” ซึ่งอาจเป็นหมากสำคัญในอนาคต หากสามารถสร้างรายได้แบบ recurring ได้จริง
ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา Tesla ได้เพิ่มสถานีชาร์จ Supercharger อีก 904 แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับการสร้างรายได้จากเครือข่ายชาร์จ หลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นเริ่มเข้าถึงเครือข่ายนี้มากขึ้น
แม้ Tesla จะยังมีไพ่สำรองอย่าง Robotaxi และ Roadster อยู่ในมือ แต่ตัวเลขไตรมาส 2 ที่ร่วงแรงสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทกำลังเผชิญแรงกดดันหนักจากทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะการปรับตัวท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
ที่มา Carscoops