เคืองถูกวิจารณ์! ทรัมป์ขึ้นภาษีบราซิล 50% ส่งจ.ม.แจ้งอีก 7 ชาติ เก็บ 20-30%
เคืองถูกวิจารณ์! ทรัมป์ขึ้นภาษีบราซิล 50% ส่งจ.ม.แจ้งอีก 7 ชาติ เก็บ 20-30%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดแนวรบใหม่ในสงครามการค้าด้วยการหันมาจัดหนักกับบราซิล ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม BRICS ในขณะนี้ โดยขู่เก็บภาษี 50% สำหรับสินค้าส่งออกจากบราซิลไปยังสหรัฐ พร้อมสั่งให้มีการสอบสวนการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าของบราซิลเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ในจดหมายถึงประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล เพื่อแจ้งอัตราภาษีใหม่ดังกล่าว ทรัมป์ยังกล่าวหาว่าการดำเนินคดีต่ออดีตประธานาธิบดีฝ่ายขวา ฌาอีร์ โบลโซนารู ที่กำลังเผชิญกับการดำเนินคดีในข้อหาพยายามล้มผลเลือกตั้งว่าเป็นการล่าแม่มด ซึ่งทรัมป์ชี้ว่ามันเป็นการโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่เขารับรู้เป็นอย่างดี ทั้งยังวิจารณ์ว่ารัฐบาลบราซิลกำลังกระทำการโจมตีเสรีภาพในการเลือกตั้งและการแสดงความคิดเห็น
ทรัมป์ยังกล่าวหาว่าบราซิลออกคำสั่งเซ็นเซอร์ที่ลับและผิดกฎหมายต่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของสหรัฐ และสั่งให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดการสอบสวนนโยบายภายใต้ มาตรา 301 ของกฎหมายการค้าปี 1974 ซึ่งเป็นมาตราที่เคยถูกใช้เพื่อกำหนดภาษีตอบโต้จีนในอดีต
การประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มดังกล่าวต่อบราซิล ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 ของสหรัฐ มีมูลค่าการค้ารวมในปี 2024 อยู่ที่ 92,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับบราซิลถึง 7.4 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่สหรัฐมักขาดดุลการค้ากับประเทศอื่น
หลายฝ่ายมองว่า การประกาศขึ้นภาษีต่อบราซิลของทรัมป์ครั้งนี้ น่าจะมีสาเหตุจากการที่ดา ซิลวา ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ในการแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS หลังจากที่ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสมาชิกกลุ่ม BRICS เพิ่ม 10% เพราะมีนโยบายต่อต้านสหรัฐว่า ทรัมป์จำเป็นต้องตระหนักว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และเราไม่ต้องการจักรพรรดิอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังได้ขยายการทำสงครามการค้าของเขาไปยังประเทศเล็กๆ โดยประกาศผ่าน Truth Social ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียของเขาว่า เขาจะขึ้นภาษีกับ 7 ประเทศคู่ค้ารายย่อย โดยจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ 20% บรูไนและมอลโดวา: 25% ศรีลังกา แอลจีเรีย อิรัก และลิเบีย 30%
โดยประเทศเหล่านี้มีสัดส่วนการนำเข้าไปยังสหรัฐรวมกันไม่ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024
เมื่อรวมกับจดหมายแจ้งอัตราภาษีชุดใหม่นี้ที่รวมถึงบราซิล ทรัมป์ได้แจ้งอัตราภาษีใหม่ไปแล้วกับ 22 ประเทศคู่ค้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หากไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จในการเจรจาการค้ากับสหรัฐภายใต้กรอบเวลาที่เหลืออยู่ได้
ท่ามกลางการขึ้นภาษีประเทศอื่นๆ ทรัมป์กลับระบุว่า การเจรจาการค้ากับจีนและสหภาพยุโรป (อียู) กำลังดำเนินไปด้วยดี โดยเขาอาจจะแจ้งอียูภายในอีกสองวันข้างหน้าว่าจะเก็บภาษีในอัตราเท่าใด เพราะขณะนี้อียูให้ความร่วมมือมากขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่พวกเขาเคยปฏิบัติกับเราแย่มากกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ ตอนนี้กลับปฏิบัติกับเราอย่างดีมาก มันเหมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว
แม้จะมีข่าวการเรียกเก็บภาษีครั้งใหญ่ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ที่เด่นชัด ขณะที่กลุ่มวิจัย Yale Budget Lab คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคในสหรัฐจะต้องแบกรับภาษีเฉลี่ยที่ 17.6% เพิ่มขึ้นจาก 15.8% ก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 90 ปีของสหรัฐ หรือสูงที่สุดตั้งแต่ปี 1934
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีนำเข้าได้แล้วราว 100,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เริ่มใช้มาตรการภาษี และคาดว่าอาจเก็บรายได้ได้มากถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
จากเดิมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่สหรัฐมีรายได้จากภาษีนำเข้าที่ราว 80,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้ สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงกับประเทศต่างๆ ได้เพียง 3 ประเทศคือ สหราชอาณาจักร เวียดนาม และจีน ที่มีการระบุว่าตกลงได้ในหลักการแต่ยังคงอยู่ระหว่างการหารือและจัดทำรายละเอียดทั้งหมด นอกจากนี้ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับอินเดียวด้วยเช่นกัน
มอร่า ฮีลีย์ ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์จากพรรคเดโมแครต ออกมาวิจารณ์นโยบายการค้าของทรัมป์อย่างรุนแรงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะเลือกตั้งด้วยคำสัญญาว่าจะลดค่าครองชีพ แต่สิ่งที่เขาทำมีแต่ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น และทำร้ายภาคธุรกิจของเรา นโยบายสงครามการค้าของทรัมป์ถือเป็นความล้มเหลว และไม่ได้สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างที่รัฐบาลกล่าวอ้าง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เคืองถูกวิจารณ์! ทรัมป์ขึ้นภาษีบราซิล 50% ส่งจ.ม.แจ้งอีก 7 ชาติ เก็บ 20-30%
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th