“ศีลธรรม” และ “ผ้าเหลือง” ย้อนรอย “เปรต อาบัติ ” หนังเรื่องแต่งถูกห้ามฉาย
หลังกรณี “สีกากอล์ฟ” กับพระชื่อดังกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ พร้อมคลิปเสียง แชตหลุด และเส้นทางเงินนับล้านที่โยงถึงพระชั้นผู้ใหญ่ จนศาลต้องออก หมายจับ 3 ข้อหาหนัก ทั้ง “ฟอกเงิน”, “รับของโจร” และ “สนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริต”
เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี 2568 นี้ ทำให้หลายคนหวนคิดถึง ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "อาบัติ" (หรือชื่อใหม่ว่า "อาปัติ") ที่เคยถูกแบนเมื่อปี 2558 ด้วยข้อหานำเสนอภาพพระเณรในทางล่อแหลม โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง “เณรซัน” กับ “สีกาฝ้าย” ซึ่งถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนา แม้หนังมีเจตนาเพื่อสะท้อนศีลธรรมและเวรกรรม แต่ก็ไม่อาจรอดจากการเซ็นเซอร์
ขณะที่ในชีวิตจริง ปี 2568 กลับเกิดเหตุการณ์ที่แรงยิ่งกว่า เมื่อ “กอล์ฟ” หญิงสาวคนหนึ่งถูกแฉว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระหลายรูป มีคลิปหลุด ภาพในรถ และข้อความในเชิงชู้สาว ถูกแชร์ว่อนโซเชียล ชาวเน็ตพากันตั้งคำถามถึงความเหมาะสม การบกพร่องในระบบควบคุม และความเสื่อมศรัทธาที่ลุกลามไปทั่วประเทศ
“อาบัติ” สะท้อนด้วยศิลปะ “กอล์ฟ” ตอกย้ำด้วยข้อเท็จจริง แต่สิ่งที่ทั้งสองเรื่องร่วมกันคือ “การตั้งคำถามต่อวินัยสงฆ์และศีลธรรมในสังคมไทย”
หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์ ทั้งในเชิงจริยธรรม สื่อศาสนา และบทบาทของโซเชียลมีเดียที่ทำให้ข่าวแพร่กระจายอย่างไร้กรอง
คำถามที่ทิ้งไว้ให้สังคมคือ: สุดท้ายแล้ว เรากำลังปกป้องผ้าเหลือง หรือปกปิดพฤติกรรมของคนในผ้าเหลือง?
“อาบัติ” เคยถูกด่าว่า "หมิ่นศาสนา" แต่สิ่งที่เกิดกับ "กอล์ฟ" กลับเลวร้ายกว่าที่หนังเคยเล่า
“เราควรตำหนิหนังที่เตือนสติ หรือควรสะเทือนใจกับพระที่ทำลายศรัทธาด้วยมือของตัวเอง?”
“ในอดีตเราแบนสิ่งแต่งขึ้น วันนี้เรากลับปล่อยให้ความจริงทำลายศาสนา”
ข้อคิดที่ควรตั้งคำถาม
- ทำไมสังคมไทยยอมรับการ "กลบเกลื่อน" ความจริงมากกว่าการ "เผชิญหน้า" กับมัน?
- เมื่อเหตุการณ์ในภาพยนตร์กลายเป็นความจริง ใครกันแน่ที่ควรถูกตั้งคำถาม?
- ศาสนาไทยต้องการผู้นำที่สะอาด หรือเพียงแค่ภาพลักษณ์ที่ดูดี?