โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

Digital Economy ปลดล็อกเศรษฐกิจดิจิทัล สู่เป้าหมายประเทศรายได้สูง

THE STANDARD

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
Digital Economy ปลดล็อกเศรษฐกิจดิจิทัล สู่เป้าหมายประเทศรายได้สูง

เป็นที่รู้กันว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งที่อยู่จุดศูนย์กลางของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก, สภาพแวดล้อมที่ผู้คนโอบรับทุกวัฒนธรรม หรือแม้แต่ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของคนในประเทศที่ริเริ่มอะไรใหม่ๆ เสมอ

ทว่า ‘กับดักรายได้ปานกลาง’ กำลังทำให้ประเทศของเรายืนอยู่ในจุดที่ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การขาดแคลนนวัตกรรม รวมถึงสถานะผู้นำในภูมิภาคด้านการค้าการลงทุนอย่างเต็มตัว

จากคำถามที่ตามมาว่า แล้ววิธีการใดจะแก้ไขวิกฤตดังกล่าว บทความนี้ทำความรู้จักกับ ‘เศรษฐกิจดิจิทัล’ แนวทางปลดล็อกประเทศสู่เป้าหมายการเป็นประเทศรายได้สูง
เศรษฐกิจดิจิทัลคืออะไร ทำไมจึงได้รับความสนใจ

ปัจจุบัน แนวคิดเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) กำลังได้รับความสนใจจากโลกระหว่างประเทศในยุค Disruptive ในฐานะเครื่องมือต่อสู้ ‘กับดักรายได้ปานกลาง’ (Middle Income Trap) หรือสภาวะที่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางไม่สามารถยกระดับไปสู่การมีรายได้สูงได้

หากจะอธิบายความหมายของเศรษฐกิจดิจิทัลให้เข้าใจอย่างง่ายที่สุด คือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่เชื่อมโยงมนุษย์ ธุรกิจ และข้อมูลสารสนเทศ โดยมีตัวกลางเชื่อมโยงคือเทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ต,เทคโนโลยี, Big Data, และเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ โดยหัวใจสำคัญของแนวคิดดังกล่าวคือ แนวคิด Hyperconnectivity หรือภาวะที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน โดยมีตัวกลางอย่างอินเทอร์เน็ต หรือเทคโนโลยี

สาเหตุที่เศรษฐกิจดิจิทัลมีความสำคัญ และกำลังได้รับความสนใจในฐานะอีกทางเลือกของแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นเพราะ ‘การให้ผลลัพธ์สูงสุด แต่ต้นทุนต่ำ’ กล่าวคือ การมีอยู่ของเทคโนโลยี ทำให้ผลิตผลเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพให้กับภาคเศรษฐกิจ แต่มีข้อเสียน้อย เช่น มีความปลอดภัย รวดเร็ว ราคาไม่แพง เข้าถึงง่าย ประหยัดเวลาและพลังคน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากเศรษฐกิจดิจิทัลคือ อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) หรือการซื้อ-ขายสินค้าในโลกออนไลน์ โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลาง เช่นการค้าบนเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Amazon, Alibaba, หรือ eBay ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันใครหลายคน ทุกคนอยู่ที่ไหนก็สามารถสั่งของที่ต้องการได้ในพริบตา ขณะที่ผู้ขายมีความสะดวก และช่วยลดต้นทุนบางอย่าง เช่น ค่าเช่าที่ ถือเป็นการปฏิวัติโฉมหน้าการค้าและการลงทุนแบบดั้งเดิม

เศรษฐกิจดิจิทัลยังครอบคลุมถึงนวัตกรรมอย่างปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในฐานะเครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะความสามารถในการช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์ธุรกิจ ทั้งมิติการปรับปรุงคุณภาพสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค, การสร้างอัลกอริทึมดึงดูดลูกค้า ไปจนถึงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงาน

มากกว่านั้น เศรษฐกิจดิจิทัลมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม เห็นได้ชัดเจนอย่างการมีของเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่ระบบฐานข้อมูลเอื้อต่อแนวคิดการกระจายอำนาจ (Decentralized) ขณะที่ยังสร้างความโปร่งใสในการตรวจสอบร่วมกัน และปกป้องข้อมูลส่วนตัวในเวลาเดียวกัน

กับดักรายได้ปานกลาง: ปัญหาของไทยที่ก้าวข้ามไม่ได้

สำหรับประเด็นกับดักรายได้ปานกลาง รายงานของธนาคารโลกปี 2024 (Development Report 2024: The Middle Income Trap) เปิดเผยว่า ไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเผชิญสภาวะดังกล่าวร่วมกับอีก 107 ประเทศ เช่น จีน, อินเดีย, บราซิล และแอฟริกาใต้ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 หลังมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่มูลค่าราว 1,136-13,845 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.8 หมื่น – 4.6 แสนบาท) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เข้าข่ายในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางของธนาคารโลก

น่าสนใจไม่น้อยว่า เพราะเหตุใดประเทศที่เคยได้รับสมญานามว่า ‘ว่าที่เสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย’ และครั้งหนึ่งธนาคารโลกเคยเลื่อนสถานะให้เป็นประเทศกลุ่มเศรษฐกิจรายได้สูงในปี 2011 ถึงเดินทางมาสู่จุดนี้

1. การขาดแคลนแรงงาน และอัตราการเกิดรั้งท้ายในอาเซียน ประเทศไทยกำลังเผชิญดังกล่าวมานานเกือบทศวรรษ เนื่องจากอายุเฉลี่ยของแรงงานในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนประชากรลดน้อยลง โดยปัญหาดังกล่าวมีที่มาจากอัตราการเกิดต่ำ โดยมีสถิติเปิดเผยออกมาในปี 2022 ว่า ไทยมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในอาเซียน ยกเว้นแค่สิงคโปร์ ซ้ำปัญหาดังกล่าวอาจรุนแรงกว่าเกาหลีใต้ สะท้อนสถิติในระหว่างปี 2000-2021 ว่า ประชากรไทยลดลงถึง 20% ขณะที่เกาหลีใต้ลดลงเพียง 15%

2. ระบบการศึกษาไม่ตอบโจทย์กับตลาดแรงงาน รายงานจาก Thailand in a Middle-Income Trap ยังเผยว่า ระบบการศึกษาประเทศไทย ‘ไม่ประสบความสำเร็จ’ ในการสร้างแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในสภาวะที่โลกเต็มไปด้วยการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร ความเป็นผู้นำ หรือแม้แต่ภาษา

3. ภาคการเกษตรยังเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ แน่นอนว่า เป็นเรื่องดีที่ไทยได้รับความสำคัญในฐานะ ‘อู่ข้าวอู่น้ำของโลก’ (Kitchen of The World) แต่ข้อเท็จจริงที่น่ากังวล และมีผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศอย่างยิ่งคือ อุตสาหกรรมการเกษตร คิดเป็นเพียง 1 ใน 10 ของ GDP ประเทศทั้งหมด

นอกจากนี้ หากเจาะข้อมูลลงลึกไปจะเห็นว่า ข้าวเป็นพืชหลักในอุตสาหกรรม ที่อยู่ในสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศเพียง 14% ขณะที่หากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างเวียดนาม สปป.ลาว และกัมพูชา ไร่ข้าวของประเทศไทยยังถือว่ามีขนาดเล็กเกินไป รวมถึงสันหลังของชาติอย่างเกษตรกรก็ยังเผชิญกับความยากจน จนไม่สามารถลงทุนหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับผลผลิตได้

4. การลงทุนด้านใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) อยู่ในระดับต่ำ แม้ R&D เปรียบดัง ‘แขน’ และ ‘ขา’ ของการพัฒนาประเทศ แต่กลับพบว่า งบประมาณดังกล่าวคิดเป็นเพียง 0.2% ของ GDP ประเทศทั้งหมดต่อปี ซึ่งในภายภาคหน้า ภาคธุรกิจอาจต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมดังกล่าวมากขึ้น หากต้องการเป็นผู้นำแถวหน้าในบรรดาประเทศที่มีศักยภาพใกล้เคียง

‘กลยุทธ์ 3i’ ต้นแบบเศรษฐกิจดิจิทัล: บทเรียนจากเกาหลีใต้สู่การปลดล็อกเป็นประเทศรายได้สูง

แม้เป็นเรื่องยากที่หลายประเทศจะก้าวข้ามปัญหากับดักรายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ต้นแบบเศรษฐกิจดิจิทัลของโลกที่โด่งดัง คงหนีไม่พ้นเกาหลีใต้ ดังปรากฏการณ์ ‘ปาฏิหาริย์แห่งแม่น้ำฮัน’ ที่ทำให้เกาหลีใต้สามารถรักษาอัตราการเจริญเติบโตมากกว่า 5% มานานถึง 50 ปีได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยสะท้อนจากรายได้ต่อหัวของเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นจาก 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.4 หมื่นบาท) ในปี 1960 สู่ 33,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ในปี 2023

เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกาหลีใต้เติบโตคือ การพึ่งพาเทคโนโลยีมากกว่า 60 ปี ซึ่งโลกอาจถอดบทเรียนเกาหลีใต้จากความมหัศจรรย์ในครั้งนี้ได้ผ่าน ‘กลยุทธ์ 3i’ ซึ่งเป็นแผนการแก้ไขปัญหาของธนาคารโลกในรายงาน Development Report 2024: The Middle Income Trap

จากรายงาน ได้แนะนำให้ ‘ประเทศรายได้ต่ำ’ เน้น 1i หรือการให้ความสำคัญกับการลงทุน (Investment) คือ

  • ปรับปรุงบรรยากาศเพื่อกระตุ้นการลงทุน
  • ลงทุนกับทรัพยากรมนุษย์
  • เพิ่มการลงทุนด้านพลังงานในฐานะรากฐานของการลงทุน
  • ปฏิรูปกรอบการกำกับดูแลเพื่อดึงดูดการลงทุนภาคเอกชน และสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม

ขณะที่ ‘ประเทศรายได้ปานกลาง’ ต้องเน้น 2i หรือการใช้เทคโนโลยีผสมผสานการให้เงินทุน (Investment + Infusion) คือ

  • สร้างวินัยให้กับผู้นำในตลาด
  • กระจายเทคโนโลยี และเพิ่มแรงกระตุ้นให้บริษัทจูงใจลงทุน
  • ให้โอกาสที่เท่าเทียมกับทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัยทางสังคม
  • อนุญาตให้แรงงานที่มีการศึกษา แต่ทักษะไม่ได้สอดคล้องกับความต้องการภายในประเทศ ออกไปทำงานที่อื่น
  • ควบคุมรัฐวิสาหกิจด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ

ส่วน ‘ประเทศที่มีรายได้สูง’ ต้องใช้กลยุทธ์ 3i หรือการผสมผสาน 3 สิ่ง คือ การลงทุน, การให้เงินทุน และนวัตกรรม (Investment + Infusion + Innovation) เช่น

  • ขยายภาคการตลาดและการหาแหล่งเงินทุน
  • เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยงานกำกับดูแลที่ต่อต้านการผูกขาด
  • คุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
  • เสริมสร้างความเชื่อมโยงอุตสาหกรรมและวิชาการภายในประเทศ
  • ส่งเสริมเสรีภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง

โมเดลที่เห็นได้ชัดเจนจากกลยุทธ์ 3i คือ เรื่องราวของซัมซุง (Samsung) บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ หากย้อนความเป็นมาจะพบว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เริ่มต้นเส้นทางด้วยการเป็นร้านขายของชำ บะหมี่ และปลาแห้งในปี 1938 ก่อนที่ขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ, ประกันภัย และบริษัทหลักทรัพย์ในช่วงสงครามเกาหลี

กระทั่งในช่วงทศวรรษ 1960 ซัมซุงขยายกิ่งก้านภาคธุรกิจอีกครั้ง หลังพบว่าผู้คนในประเทศเริ่มให้ความสนใจกับอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มจากการเปิดตัวโทรทัศน์ขาวดำในปี 1969 ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ทางเทคโนโลยีจากบริษัทซันโยและเอ็นอีซี (NEC) จากญี่ปุ่น จนขยายตัวไปยังเทคโนโลยีชนิดอื่นๆ อย่างโทรศัพท์ที่มีนวัตกรรมใหม่และลูกเล่นไม่ซ้ำใคร จนถึงเซมิคอนดักเตอร์ ทรัพยากรสำคัญในการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ซัมซุงไม่ได้เติบโตอย่างโดดเดี่ยว เพราะรัฐบาลเกาหลีใต้ยังดำเนินนโยบายคู่ขนาน เพื่อส่งเสริมศักยภาพประชากรและเสริมสร้างอุตสาหกรรมภายในไปในเวลาเดียวกันคือ ให้การศึกษาและส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ เพื่อตอบรับความต้องการแรงงานของตลาด ขณะที่อัดฉีดเงินทุนและเงินอุดหนุนกับภาคธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนการลงทุนแผนก R&D เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ให้กับประเทศ

ถือว่า โมเดลดังกล่าวยังใกล้เคียงกับการปฏิวัติเมจิ (Meiji Restoration) ช่วงปลายทศวรรษที่ 1800 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจในเอเชีย โดยรัฐบาลในเวลานั้นได้ริเริ่มโครงการโซกุซังโคเกียว (Shokusan Kogyo) ที่มุ่งเน้นปรับปรุงสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานให้ตอบรับกับโลกสมัยใหม่ ขณะที่ยังตั้งโรงงานสาธิต เพื่อให้ความรู้กับภาคเอกชน

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีเป็นเสาหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องอาศัยพยุงธุรกิจ และสนับสนุนทรัพยากรคนไปพร้อมกัน

ภาพ: Shutterstock

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

ใหม่ ดาวิกา เปิดใจน้ำหอมกลิ่นใหม่ของ Gucci Beauty ชวนให้นึกถึงสวนดอกไม้ที่เบลเยียม

28 นาทีที่แล้ว

หุ้น ‘การบินไทย’ กลับเข้าเทรดวันแรกในรอบกว่า 4 ปี พุ่งแตะ 11 บาท หวังอนาคตติด SET50 ผู้บริหารยันไร้แรงกดดันทางการเมือง ปัดดีลทรัมป์-ไทย ไม่เกี่ยวกับแผนซื้อเครื่องบิน

44 นาทีที่แล้ว

ETC. ชวน The Parkinson ถ่ายทอดอาการของคนถูกหักหลังผ่านซิงเกิล เมื่อไหร่จะบอก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอสุดรอบ 5 ปี สัญญาณเตือนภัยเศรษฐกิจโลก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

กองทัพอากาศ เผยจุดสังเกตความต่างระหว่างโดรนกับเครื่องบิน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23
วิดีโอ

พาเที่ยวชม "น้ำตกผาคุคำ" อ.นครไทย | เนชั่นทั่วไทย

NATIONTV
วิดีโอ

มิติใหม่ "ศาลพระภูมิสแตนเลส" | เนชั่นทั่วไทย

NATIONTV
วิดีโอ

พบจรวด BM-21 ไม่ระเบิดเกือบ 20 ลูก | เนชั่นทั่วไทย

NATIONTV

บอร์ด สปสช.ไฟเขียวยืดหยุ่นให้บริการ “ผู้ป่วยแนวชายแดน-น้ำท่วม”

สำนักข่าวไทย Online

รัฐเตรียมเยียวยาใหญ่! ทหาร-พลเรือน เหตุปะทะชายแดน รับสูงสุด 10 ล้าน รอฟังมติ ครม.

The Better

ภาพหายาก พระพันปีหลวง เสด็จฯ เยี่ยม ชาวกัมพูชาหนีตายเขมรแดง น้ำพระไทยต่อชีวิต

Thaiger

“แม่ทัพภาค2” ปัดส่งทหารไทยรุกยึดอนุสาวรีย์ตาอม ตลาดเย็น ช่องอานม้า หลัง "มาลี" แฉทหารไทยละเมิดหยุดยิง

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ส่อง 10 ธุรกิจความงามโตเด่นสวนเศรษฐกิจไทย

THE STANDARD

นักวิชาการเตือน ดีลทรัมป์ไทยได้ประโยชน์ไม่มาก ควรมุ่งสู่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยภาคบริการ

THE STANDARD

เทียบภาษีตอบโต้ของไทยที่ 19% สูง-ต่ำแค่ไหนเทียบกับโลก

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...