น้ำหนักตัวกับความเครียด: เมื่ออารมณ์กำหนดตัวเลขบนตาชั่ง
คุณเคยสงสัยไหมว่า… ทำไมเรากินคลีน ออกกำลังกายแทบทุกวัน แต่น้ำหนักกลับไม่ลด?
หรือลดได้แป๊บเดียว แล้วก็ดีดกลับเหมือนเดิม
บางทีมันอาจไม่ใช่แค่เรื่อง “แคลอรี่” แต่เป็นเรื่องของ “ความเครียด” ที่เรายังไม่เคยเข้าใจมันจริงๆ
ความเครียดส่งผลต่อน้ำหนักยังไง?
ในภาวะที่เรารู้สึกเครียด ไม่ว่าจะมาจากงาน ความสัมพันธ์ หรือความกดดันในชีวิต
ร่างกายเราจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา
เจ้าฮอร์โมนนี้มีหน้าที่ช่วยให้ร่างกาย “เอาตัวรอด” ในสถานการณ์ตึงเครียด แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ชัดเจน เช่น:
- กระตุ้นความอยากอาหาร โดยเฉพาะของหวาน มัน และแป้ง
- ทำให้ร่างกายสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณ หน้าท้อง
- ลดประสิทธิภาพของการเผาผลาญพลังงาน
- ทำให้คุณภาพการนอนแย่ลง → ส่งผลต่อฮอร์โมนหิว–อิ่ม
ทั้งหมดนี้คือ “คอมโบ” ที่ทำให้เราควบคุมรูปร่างยากขึ้น แม้จะพยายามเต็มที่แล้วก็ตาม
ความเครียดแบบไหนที่ส่งผลกับร่างกายมากที่สุด?
- ความเครียดเรื้อรัง (Chronic stress)
เช่น การทำงานหนักโดยไม่หยุดพัก ความกดดันสะสมโดยไม่มีทางออก - ความเครียดอารมณ์ (Emotional stress)
เช่น ความเศร้า ความรู้สึกโดดเดี่ยว ความไม่มั่นคงในตัวเอง
อารมณ์เหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องการ “ความสบายใจด่วน” ซึ่งหลายคนเลือกใช้การกินเป็นทางออก
สัญญาณว่า “อารมณ์” กำลังทำร้ายสุขภาพเรา
- น้ำหนักนิ่งทั้งที่คุมอาหารแล้ว
- รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา แม้จะไม่ได้ออกแรง
- มีแนวโน้ม “กินเพื่อเยียวยาใจ” มากกว่ากินเพราะหิวจริง
- หงุดหงิดง่ายเวลาหิว หรือเวลาไม่ได้กินในสิ่งที่อยาก
ทางออก: ไม่ใช่แค่คุมอาหาร แต่ต้องคุม “อารมณ์”
1. จัดการความเครียดก่อนเปลี่ยนพฤติกรรม
- ลองหาวิธีระบายอารมณ์ เช่น การเขียน การออกกำลังกายเบาๆ การอยู่กับธรรมชาติ
- ใช้เทคนิคหายใจลึก หรือฝึกสติสั้นๆ ระหว่างวัน
2. เปลี่ยนจากคำว่า “ต้องหุ่นดี” เป็น “อยากรู้สึกดี”
เมื่อเป้าหมายเปลี่ยนจากรูปลักษณ์ภายนอก เป็นความรู้สึกที่ดีภายใน
เราจะเริ่มเลือกสิ่งที่ดีต่อร่างกาย เพราะ “รักตัวเอง” ไม่ใช่ “เกลียดตัวเอง”
3. นอนให้พอคือรากฐานของทุกอย่าง
การนอนหลับเพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน
ช่วยควบคุมฮอร์โมนหิว (ghrelin) และฮอร์โมนอิ่ม (leptin) ให้อยู่ในระดับปกติ
แถมยังช่วยให้เรารับมือกับความเครียดในวันรุ่งขึ้นได้ดีขึ้นด้วย
สรุป
น้ำหนักที่เราพยายามลดอาจไม่ได้เกี่ยวกับ "อาหารที่เรากิน" เพียงอย่างเดียว
แต่อาจเกี่ยวกับ "ความรู้สึกที่เรากำลังแบกอยู่" ด้วยเช่นกัน
การดูแลรูปร่างจึงไม่ควรเริ่มจากห้องครัวอย่างเดียว
แต่อาจต้องเริ่มจาก “ใจ” ของเราก่อน ว่าเราอยากดูแลตัวเองเพราะอะไร
แล้วค่อยใช้วิธีที่อ่อนโยนกับทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #นิสัย #พฤติกรรม