โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ด่วนที่สุด! ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง นายกฯ แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่

Thaiger

อัพเดต 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.14 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thaiger ข่าวไทย

ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมพิจารณาคำร้องของ สว. ที่ขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกฯ ของ แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ มติ 7 ต่อ 2 มีผลทันที

เกิดแผ่นดินไหวทางการเมืองครั้งใหญ่ในวันนี้ (1 ก.ค. 68) เมื่อองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติรับคำร้องของกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 7 ต่อ 2 มีคำสั่งสำคัญให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลทันที

คำสั่งดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีที่ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้เป็นตัวแทนยื่นคำร้องของ สว. 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร

ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดมาจากคลิปเสียงสนทนาอื้อฉาวระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งกลุ่ม สว. ผู้ร้องมองว่ามีเนื้อหาที่พาดพิงและด้อยค่ากองทัพ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นอกจากจะรับคำร้องไว้วินิจฉัยแล้ว ศาลยังมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการเลือกแนวทางที่ 2 จาก 4 แนวทางที่เป็นไปได้ และเป็นแนวทางที่ส่งผลกระทบต่อสถานะของรัฐบาลรุนแรงที่สุดในขณะนี้

สถานการณ์การเมืองไทยหลังจากนี้จึงเข้าสู่ภาวะสุญญากาศทางอำนาจ และทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดปัจจุบันต่อไป

คำสั่งดังกล่าวเป็นการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยในคดี ส่วนการวินิจฉัยว่าจะให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการถาวรหรือไม่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดไต่สวนและพิจารณาในลำดับต่อไป

ผลการพิจารณาการวินิฉัยจาก ศาลรัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคสาม กรรมาธิการและพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗ (๑) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ มีคำสั่งรับ คำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน ๑๕ วัน นับแต่รับได้รับ สำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๔

สำหรับขอให้สั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (๗ ต่อ ๒) เห็นว่า ประธานรัฐมนตรีควรสั่งให้ผู้ถูกร้องมีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคสอง มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้นวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย แจ้งให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทราบ

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน ๒ คน คือ นายคณินทร์ เมฆไตรรัตน์ และนายอุดม สิทธิวิวรรณ เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ยุติชัดเจน ให้ปรากฏความตรงสวนว่าถูกร้อง มีกรณีตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคสอง แต่เมื่อป้องกันความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง ไม่ใช้มาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗๑ ห้ามมิให้ผู้ร้องใช้ หน้าที่และอำนาจดำเนินการตามดำรงตำแหน่ง และการดำเนินการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

สาเหตุ “ภูมิใจไทย” รอดยุบพรรค ศาล รธน.ตีตก คำร้อง ปมล้มล้างการปกครอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : ศาลรัฐธรรมนูญ, NBT Connext

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thaiger

ณัฐวุฒิ ไม่เห็นด้วย ชี้ ปลดนายกฯ ยุบพรรค เกิดง่ายเกินไป ไม่ส่งเสริม ปชต.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เที่ยวไทยคนละครึ่ง จ่ายเงินก่อน ได้สิทธิก่อน ไม่ต้องแย่งลงทะเบียน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สุดซึ้ง สามเณรีเจนี่ โพสต์ข้อความถึงลูกสาว น้องโนล่า ลั่น แม่บวชเพื่อรักโลก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สามเณรี คือใคร เส้นทางนักบวชหญิง ทำไมยากกว่าผู้ชาย ต้องถือศีลกี่ข้อ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...