ร้องเรียนลดแต่ภัยยังอยู่! ETDA ชูสถิติปลุกคนไทยเช็กแพลตฟอร์มก่อนชอปออนไลน์
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือETDA ยกระดับการกำกับดูแลธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล ด้วยการเปิดช่องให้ประชาชนสามารถ “ตรวจสอบรายชื่อแพลตฟอร์มที่แจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิจตามกฎหมาย” ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน‘ทางรัฐ’ หวังช่วยกรองภัยก่อนใช้งานจริง พร้อมสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่เชื่อถือได้ โปร่งใส และตรวจสอบได้
ร้องเรียนลดจริง แต่มิจฉาชีพยังไม่หมด
ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า แม้จะมีแนวโน้มที่ดีจากสถิติการร้องเรียนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีจำนวนเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ 1212 ETDA อยู่ที่ 35,358 เรื่อง ลดลง 21.74% จากปี 2566 ที่มี 45,190 เรื่อง ขณะที่ยอดความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรวบรวมไว้ในช่วงเดือน ต.ค. 2567 – ก.พ. 2568 ก็ลดลงกว่า 3,300 ล้านบาท จาก 14,683 ล้านบาท เหลือ 11,348 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภัยออนไลน์ ยังคงมีอยู่ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมตัวเป็นร้านค้า การซื้อขายสินค้าหลอกลวง การพนันออนไลน์ หรือการโฆษณาที่จงใจต้มตุ๋น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ศูนย์ 1212 ETDA ยังพบการร้องเรียนกว่า 20,608 เรื่อง สะท้อนว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่สูง
ดันแพลตฟอร์มโปร่งใส ตรวจสอบได้
ETDA ในฐานะ “Co-Creation Regulator” ย้ำแนวทางกำกับดูแลที่ให้ความร่วมมือกับทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้ให้บริการดิจิทัล ขับเคลื่อนกลไกการกำกับตนเอง (Self-Regulation) ภายใต้กฎหมายบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (DPS) ที่บังคับให้ผู้ให้บริการต้องแจ้งข้อมูลธุรกิจ เช่น รายได้ มูลค่าธุรกรรม จำนวนผู้ใช้งาน ช่องทางติดต่อ กระบวนการจัดการร้องเรียน ฯลฯ
ล่าสุด ETDA ระบุว่า ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2568 มีแพลตฟอร์มดิจิทัลที่แจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิจแล้วรวม 1,920 บริการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความโปร่งใสของระบบนิเวศดิจิทัลไทย
ตรวจชื่อแพลตฟอร์มผ่าน ‘ทางรัฐ’
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้สะดวก ETDA จึงร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เชื่อมต่อข้อมูลกับแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นศูนย์รวมบริการภาครัฐที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 42 ล้านบัญชี โดยประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อแพลตฟอร์มที่แจ้งข้อมูลกับ ETDA ได้ทันที
“นี่คืออีกก้าวของการยกระดับบริการรัฐในยุคดิจิทัล ที่ไม่เพียงช่วยให้ประชาชนตัดสินใจเลือกใช้แพลตฟอร์มอย่างมีข้อมูล แต่ยังช่วยให้ผู้ให้บริการเองต้องใส่ใจคุณภาพบริการ และออกแบบระบบที่ปลอดภัย ป้องกันภัยออนไลน์ได้จริง”
ETDA ย้ำว่า การเชื่อมข้อมูลกับแอป ‘ทางรัฐ’ ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดของภาครัฐจาก “ตั้งรับ” เป็น “เชิงรุก” ที่ให้ประชาชนมีเครื่องมือช่วยป้องกันตนเองจากภัยไซเบอร์ ลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงบนโลกออนไลน์ และส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมดิจิทัลอย่างแท้จริง
เราต้องการให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า บริการที่เขาใช้อยู่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐอย่าง ETDA แล้ว และแพลตฟอร์มนั้นๆ พร้อมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง