DSI เร่งสางคดีเขากระโดง สั่ง 4 หน่วยส่งข้อมูล 15 วัน ก่อนลุยพื้นที่จริง
'ดีเอสไอ' เร่งสอบพิพาทที่ดินเขากระโดง หลังศาลฎีกาตัดสินเป็นของ รฟท. ลุยตรวจโฉนด-ฟอกเงิน หลังพบนิติบุคคลครอบครองกว่าพันไร่ ประสาน 4 หน่วยงานส่งข้อมูลใน 15 วัน จ่อลงพื้นที่สอบผู้เกี่ยวข้อง
4 ส.ค. 2568 - มีรายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนกรณีพิพาทที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยชอบด้วยกฎหมาย คณะพนักงานสืบสวนได้ประสานงานกับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), กรมที่ดิน, สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการถือครองโฉนดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว โดยกำหนดกรอบเวลา 15 วัน ให้หน่วยงานส่งข้อมูลชี้แจง มิฉะนั้นจะดำเนินการทวงถามอย่างเป็นทางการ
รายงานจากดีเอสไอระบุว่า การสืบสวนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน รวมถึงพิจารณาความผิดที่อาจเข้าข่ายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เนื่องจากพบพฤติการณ์ที่ผู้ครอบครองโฉนดที่ดินอาจใช้เอกสารสิทธิ์เพื่อการค้าหรือจำหน่าย จนได้รับผลตอบแทนทางการเงิน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังได้รับเอกสารครบถ้วน ดีเอสไอจะลงพื้นที่จริงร่วมกับ รฟท. เพื่อตรวจสอบและพบปะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการถือครองโฉนด โดยเฉพาะนิติบุคคลรายหนึ่งที่ครอบครองที่ดินกว่าพันไร่ในพื้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลที่มีชื่อเสียง
กรณีนี้สืบเนื่องจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งไม่ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ระบุชัดเจนว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของ รฟท. กระทรวงมหาดไทยได้แถลงผลการตรวจสอบยืนยันว่าที่ดินทั้ง 5,000 ไร่เป็นของ รฟท. และมีคำสั่งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดได้ทันทีตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.2568 เพื่อให้สอดคล้องกับคำพิพากษาของศาลฎีกาและศาลปกครอง
นอกจากนี้ คดีนี้ยังได้รับความสนใจจากสาธารณชน หลังนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ร้องขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาเกิดเหตุ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน และคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยกล่าวหาว่ามีการจงใจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจโดยทุจริตเพื่อออกโฉนดที่ดินไม่ถูกต้อง ซึ่งขัดต่อมาตรา 60 ที่ระบุว่าไม่สามารถออกโฉนดในที่ดินของรัฐที่มีข้อพิพาทได้
ดีเอสไอระบุว่า การประสานงานกับ 4 หน่วยงานดังกล่าว เพื่อขอข้อมูลจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเคยรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านตั้งแต่ปี 2539 จะช่วยให้ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในการสืบสวน โดยเฉพาะประเด็นการครอบครองโฉนดที่ดินโดยบุคคลทั่วไปและนิติบุคคล ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบว่าโฉนดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวถูกใช้เพื่อประโยชน์ใด และมีบุคคลใดเป็นเจ้าของที่แท้จริง
ในส่วนของการเพิกถอนโฉนดที่ดินตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 2568 ดีเอสไอชี้แจงว่า ตราบใดที่โฉนดยังไม่ถูกเพิกถอนอย่างเป็นทางการ ผู้ครอบครองยังมีสิทธิในที่ดินนั้น อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอย้ำถึงความจำเป็นต้องได้รับข้อมูลครบถ้วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการลงพื้นที่ เพื่อให้การสืบสวนมีความชัดเจนและครอบคลุมทุกประเด็น
นอกจากกรณีเขากระโดง ดีเอสไอยังรายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่สนามบินส่วนบุคคล ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับรันเวย์ (Runway) โดยได้ประสานขอข้อมูลจาก 5 หน่วยงาน ได้แก่ อบต.ขนงพระ, กรมที่ดิน, นิคมสร้างตนเองลำตะคอง, สำนักงานการบินพลเรือนฯ และ ส.ป.ก.โคราช แต่ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือน ยังไม่มีหน่วยงานใดส่งข้อมูลให้ คณะพนักงานสืบสวนจึงเตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าในเร็ววันนี้.