BON Coffee ชูกลยุทธ์รุก ตจว. - ออนไลน์โฟกัส B2C รับมือเศรษฐกิจ
BON Coffee ปรับยุทธศาสตร์ ขยายลูกค้าครัวเรือนบาลานซ์พอร์ตรายได้ ชะลอสาขาออฟไลน์หันโฟกัสออนไลน์รับกระแสนักช็อป พร้อมกลยุทธ์เอาสินค้าไปหาลูกค้าเดินสายโรดโชว์-เวิร์กช็อปตะวันออก-ตก ชูเมล็ดกาแฟรักษ์โลก-นมทางเลือกรับเทรนด์ลูกค้าโรงแรม มั่นใจรายได้โต 7% เท่าค่าเฉลี่ยแม้เศรษฐกิจท้าทาย
นางสาวอุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชั่นธุรกิจกาแฟครบวงจรสำหรับกลุ่ม B2B และ B2C กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ ธุรกิจด้านกาแฟมีแนวโน้มท้าทายขึ้น สะท้อนจากธุรกิจช่วง 6 เดือนแรก ยังเติบโตแต่ช้ากว่าช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจอาจทำให้ผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจร้านกาแฟชะลอการตัดสินใจออกไปก่อน ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทต่างมองหาตัวเลือกที่ประหยัดงบฯมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ด้วยแรงหนุนจากเทรนด์มาแรงทั้งกระแสการดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพอย่าง การดื่มกาแฟดำในตอนเช้า ส่วนธุรกิจโรงแรมผู้ประกอบการเริ่มต้องการเมล็ดกาแฟที่ผ่านมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ออร์แกนิก หรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ด้านผู้ประกอบการร้านกาแฟยังต้องการเครื่องชงราคาล้านบาทอัพต่อเนื่อง
รวมไปถึงปัจจัยบวกพื้นฐานอย่าง อัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยที่ 1-2 แก้วต่อวัน ซึ่งยังต่ำกว่าตลาดอื่น ๆ ทำให้ดีมานด์การดื่มกาแฟและธุรกิจกาแฟยังเติบโตต่อเนื่องได้อีก ผลักดันให้ตลาดกาแฟรวมกาแฟสำเร็จรูปมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท หรือหากนับเฉพาะกาแฟคั่วบดจะอยู่ที่ 5,500 ล้านบาท ยังเติบโต
“แม้จะไม่หวือหวาเท่าช่วงหลังโควิด-19 แต่ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายได้เท่ากับปี 2567 ทั้งปีแล้ว สะท้อนถึงศักยภาพตลาดและความแข็งแกร่งของยุทธศาสตร์ของบริษัท”
นางสาวอุษาพรรณกล่าวต่อไปว่า เพื่อรับมือความท้าทายและต่อยอดปัจจัยบวกมาสร้างการเติบโต ครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทจะเดินยุทธศาสตร์ใหม่ 3 ด้าน คือ การรุกตลาดภูธรซึ่งเป็นน่านน้ำใหม่ ขยายฐานลูกค้าครัวเรือนเพื่อบาลานซ์พอร์ตรายได้ และโฟกัสช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้นตามเทรนด์การจับจ่ายของผู้บริโภค
โดยตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมจะเดินสายโรดโชว์และจัดเวิร์กช็อปในภาคตะวันออกและตะวันตกเพื่อแนะนำสินค้า-โซลูชั่นให้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับกาแฟและผู้บริโภคทั่วไป ตามแนวคิดนำสินค้าไปหาลูกค้า ซึ่งนำร่องมาตั้งแต่ต้นปี 2568 และได้รับผลตอบรับดีทั้งภาคเหนือ อีสาน และใต้โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีคู่แข่งน้อย
ทั้งนี้ มีไฮไลต์ อาทิ กาแฟที่ได้รับการรับรองจาก Rainforest Alliance ว่าปลูกแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กาแฟออร์แกนิก โซลูชั่นด้านนมทางเลือกทั้งนมโอ๊ต, นมอัลมอนด์ และนมถั่วเหลืองที่พัฒนามาสำหรับใช้ชงกาแฟ เป็นต้น
ขณะเดียวกันจะนำสินค้า เช่น เครื่องชงกาแฟรุ่นสำหรับครัวเรือนระดับราคาหลักหมื่นบาทเข้ามาจำหน่ายและทำการตลาดมากขึ้น พร้อมกันนี้จะชะลอการขยายสาขาออฟไลน์ออกไป เพื่อโฟกัสทรัพยากรกับช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะช่องทางของบริษัทเอง เพื่อชิงดีมานด์กลุ่มผู้บริโภคครัวเรือนที่นิยมสั่งซื้อทางออนไลน์ ส่วนร้านออฟไลน์จะเน้นรองรับกลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟและโรงแรม เชื่อว่ายุทธศาสตร์นี้จะผลักดันให้รายได้ของบริษัทในปี 2568 นี้อยู่ที่ 762 ล้านบาท โตประมาณ 7% เท่ากับค่าเฉลี่ย และใน 5 ปีจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท พร้อมสัดส่วนรายได้ลูกค้าครัวเรือนจะเพิ่มจาก 20% เป็น 40%
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : BON Coffee ชูกลยุทธ์รุก ตจว. – ออนไลน์โฟกัส B2C รับมือเศรษฐกิจ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net