โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ไทยเสี่ยงวิกฤต'Twin Influx'สินค้าจีน-มะกันทะลัก หากลดภาษีสหรัฐฯเหลือ0%

Amarin TV

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ไทยเสี่ยงวิกฤต 'Twin Influx' สินค้าจีน-อเมริกันทะลัก 2 ทาง หากยอมลดภาษีสหรัฐฯ เหลือ 0%

เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 กำลังเผชิญกับสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน แรงส่งทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนเริ่มอ่อนแรง ขณะที่ความไม่แน่นอนด้านการเมืองและเศรษฐกิจโลกยังคงกดดันการลงทุนภาคเอกชน นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกอย่างความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นความเสี่ยงระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการส่งออกซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไทยได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงถึง 36% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าใหม่ได้ทันเวลา

อัตราภาษี 36% นี้สูงผิดปกติเมื่อเทียบกับอัตราที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากประเทศคู่ค้าอื่น และสูงกว่าระดับที่เวียดนามสามารถต่อรองได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอยู่ที่ 20% สำหรับสินค้าปกติ และ 40% สำหรับสินค้าต้องสงสัยว่าถูกส่งผ่านเวียดนามเพื่อส่งต่อไปยังสหรัฐฯ

การเจรจารอบแรกระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ ไม่ประสบความสำเร็จ แต่รัฐบาลไทยได้ยื่นข้อเสนอทางการค้าที่ปรับปรุงเพิ่มเติม และกำลังเร่งเดินหน้าเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้อัตราภาษีที่ลดลงจากเดิม

กรณีเลวร้าย: สูญเสียส่งออกกว่า 1.62 แสนล้านบาท

ฝ่ายวิจัยกรุงศรีประเมินว่า หากการเจรจาล้มเหลว และสหรัฐฯ เดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าที่ 36% จริง ไทยอาจสูญเสียมูลค่าส่งออกสูงถึง 162,100 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมหลักที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่

  • กลุ่มสิ่งทอ เครื่องหนัง และรองเท้า
  • กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
  • กลุ่มยางและพลาสติก

ผลกระทบนี้จะยิ่งซ้ำเติมภาคส่งออกที่เริ่มอ่อนแรงตั้งแต่ต้นปี และบั่นทอนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในช่วงเวลาที่ความเปราะบางของเศรษฐกิจไทยกำลังขยายตัว

อีกทางเลือก: ดีลแบบเวียดนาม เสี่ยงเกิด Twin Influx

อีกแนวทางที่อยู่ระหว่างการเจรจาคือ การตกลงลดภาษีสินค้านำเข้าจากไทยลงเหลือ 20% เท่ากับเวียดนาม โดยที่ไทยยินดีเปิดตลาดให้สินค้าจากสหรัฐฯ เข้ามาได้โดยไม่มีภาษีนำเข้า (0%) หากข้อตกลงนี้สำเร็จ จะช่วยจำกัดความเสียหายจากการส่งออกเหลือเพียง 17,400 ล้านบาท หรือลดลงจากกรณีเลวร้ายถึง 9.3 เท่า

อย่างไรก็ตาม ผลดีในระยะสั้นอาจนำไปสู่ความเสี่ยงระยะยาว จากการหลั่งไหลของสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 27% หรือราว 188,300 ล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหารและเครื่องดื่มที่อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ซึ่งถือเป็นกลุ่มอ่อนไหวสูง เนื่องจากภาคเกษตรกรรมไทยมีการจ้างงานสูงถึง 28.6% ของแรงงานทั้งหมด (ข้อมูลปี 2567)

กลุ่มสินค้านำเข้าอื่นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลัก ได้แก่

  • ยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง
  • สิ่งทอ
  • เครื่องหนังและรองเท้า
  • ยางและพลาสติก

การเปิดตลาดสินค้าให้กับสหรัฐฯ อาจนำไปสู่ภาวะที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Twin Influx” ซึ่งหมายถึงการไหลทะลักของสินค้าจากทั้งสหรัฐฯ และจีนเข้าสู่ตลาดไทยพร้อมกัน จากแรงกดดันของสงครามการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ ที่ไทยตกอยู่ในฐานะผู้ถูกกดดันมากกว่ามีอำนาจต่อรอง

ไทยต้องวางยุทธศาสตร์เชิงรุก ลดพึ่งพาตลาดใหญ่ เร่งกระจายความเสี่ยง

จากสถานการณ์ทั้งหมด ไทยมีข้อจำกัดในการตอบโต้เชิงการค้า เนื่องจากไม่สามารถใช้มาตรการภาษีสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว จึงควรหันมาให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ระยะยาว ดังนี้

  • กระจายตลาดส่งออกใหม่ ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และจีน โดยหันไปหาตลาดที่มีศักยภาพ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา หรืออเมริกาใต้
  • เร่งเจรจาข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก
  • พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีการผลิต เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ลดต้นทุน และสร้างความแตกต่างของสินค้าไทย
  • ส่งเสริบนวัตกรรมและการแปรรูปสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • ยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ให้สามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในสภาพแวดล้อมการค้าใหม่

การตัดสินใจทางนโยบายในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าอาจกลายเป็นจุดชี้ชะตาของทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะกลางถึงระยะยาว ทั้งในแง่โครงสร้างการค้า ความสามารถในการแข่งขัน และความมั่นคงของอุตสาหกรรมภายในประเทศ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

สำนักพุทธฯ ระบุ เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่ลาสิกขา ขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สีกากอล์ฟ ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แฉแผนสีกากอล์ฟ พยายามเข้าหาเจ้าอาวาสไม่สำเร็จ เลยได้ผู้ช่วยแทน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พระราชรัตนสุธี ยังไม่ปรากฏตัว หลังเจ้าคณะใหญ่หนเหนือเรียกมารายงานตัว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดหลักสูตร Digital Asset for Operators ยกระดับบุคลากรในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยสู่มาตรฐานสากล

BTimes

เปิดใช้แล้ว!สะพานเชื่อมระบบนิเวศ จ.ระยอง-จ.จันทบุรี สาย รย.4060 “เขาอ่างฤาไน - เขาชะเมา - เขาวง”

Manager Online

ไทยฮอนด้า ครบรอบ 60 ปี มอบหมวกกันน็อก มูลค่า 60 ล้านบาท ให้สถานศึกษาและหน่วยงานรัฐทั่วประเทศ

MATICHON ONLINE

ครม.ไฟเขียว 4 เก้าอี้บิ๊ก กระทรวงหูกวาง "ปิยพงษ์" ขึ้นอธิบดีทล. "สรพงศ์" สมหวัง คุมกรมขนส่งฯ "ปัญญา-ชาครีย์" นั่งรองปลัดฯ

สยามรัฐ

เดือด! ตลท. คุมเข้ม "DV8" ระดับ 2 ห้าม Net Settlement - ซื้อขายผ่าน Auction

PostToday

เฟรเซอร์สฯบุกสุขุมวิทตอนปลาย เปิดแบรนด์ใหม่'โกลดีน่า'พรีเมียมทาวน์โฮม ชูทำเลดี-ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่

Manager Online

กรมการท่องเที่ยวชี้งาน TCX 2025 เป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิงไทยสู่เวทีโลก

สยามรัฐ

ฮุนได เปิดตัว “The all-new SANTA FE” พลิกโฉมวงการ SUV ชูดีไซน์ Boxy หรูหรา สมรรถนะไฮบริด ราคาเริ่มต้น 1.599 ล้านบาท

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

สหรัฐฯเปิดช่องยืดเจรจาอีก3สัปดาห์แต่ขู่ฟันภาษีBRICSและพันธมิตรเพิ่ม10%

Amarin TV

“พิชัย”เชื่อไทยลดภาษีทรัมป์ต่ำกว่า36%ทัน1ส.ค. เสนอเก็บ0%สินค้าสหรัฐฯ

Amarin TV

ภาษี 36% บีบไทยจนมุม เปิดตลาดหรือเสียมูลค่าส่งออก เสี่ยงตามหลังคู่แข่ง

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...