ดาวโจนส์ร่วงกว่า 400 จุด ตลาดกังวลภาษีทรัมป์เริ่มกระทบเงินเฟ้อ
ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันอังคาร (15 ก.ค.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์Dow Jones Industrial Average
ร่วงลงในวันอังคาร เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐ และผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ที่ผันผวน ฉุดดัชนีบลูชิพให้ร่วงลง แต่ดัชนีแนสแด็กNasdaq Composite ปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยได้รับแรงหนุนจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นของ Nvidia
ดัชนีดาวโจนส์ ของหุ้นยักษ์ 30 ตัว ลดลง 436.36 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 44,023.29 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.40% ปิดที่ 6,243.76 จุด ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในช่วงเช้าของการซื้อขาย
แต่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 0.18% ปิดที่ 20,677.80 จุด ดัชนีที่เน้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากราคาหุ้น Nvidia ที่พุ่งขึ้น 4% หลังจากที่บริษัทชิปรายนี้กล่าวว่า หวังว่าจะกลับมาส่งออกชิป GPU H20 ไปยังจีนได้อีกครั้ง “ในเร็วๆ นี้”
ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม แม้ว่าตัวเลขหลักจะสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนนี้ ทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ที่ 2.7% ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของบริษัทดาวโจนส์ ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหาร และพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าสหรัฐ จะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปและเม็กซิโก 30% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
ข้อมูลยืนยันภาษีทรัมป์เริ่มสร้างปัญหาเงินเฟ้อ
“รายงานเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐ แทบจะยืนยันได้ว่ามาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์มีผลผลักดันให้ราคาผู้บริโภคสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน” แมทธิว ไรอัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของบริษัทบริการทางการเงิน Ebury กล่าว
“แม้ว่าตัวเลขพื้นฐานจะต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย แต่ดัชนีเงินเฟ้อทั้งทั่วไป และพื้นฐานอยู่ในระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน สิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับเจ้าหน้าที่เฟดคือ สถานการณ์ที่เลวร้ายกว่ารออยู่ข้างหน้า เนื่องจากไม่เพียงแต่จะมีความล่าช้าของผลการขึ้นภาษีต่อราคาสินค้าเท่านั้น แต่การขึ้นภาษีเพิ่มเติมในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เกือบจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน” ไรอัน กล่าวเสริม
สกายเลอร์ ไวนานด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Regan Capital กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันอังคารสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ แต่ “มีความเป็นไปได้สูงที่อัตราเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนด้วยภาษีกำลังจะมาถึง”
ผิดหวังผลประกอบการของสถาบันการเงิน
ในด้านผลประกอบการไตรมาสสอง รายงานจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายรายไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนได้
ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก มีผลประกอบการดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่การปรับลดประมาณการรายได้ดอกเบี้ยสุทธิส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงมากกว่า 5% หุ้นของเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แม้ว่าธนาคารจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้จากการซื้อขาย และวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง แบล็คร็อคซึ่งเป็นบริษัทจัดการการลงทุน ร่วงลงเกือบ 6% จากรายได้รายไตรมาสที่ลดลง
ซิตี้กรุ๊ปสวนทางกับแนวโน้มเชิงลบในแวดวงการเงิน โดยราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% หลังจากที่ธนาคารทำสถิติสูงกว่าประมาณการในไตรมาสที่สอง
วอลล์สตรีทหวังว่าฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองจะช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นที่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังยังอยู่ในระดับต่ำก่อนที่จะมีรายงาน ข้อมูลจาก FactSet คาดการณ์ว่ากลุ่มบริษัทS&P 500 จะมีอัตราการเติบโตของกำไรที่ 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจะเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดของดัชนีนับตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2566
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์