Daily Recap Gold Spot 04-07-2568
แนวโน้มราคาทอง
ฟื้นตัวในกรอบจำกัด
- Non-Farm แข็งแกร่งกว่าคาด
- เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง ในปีนี้
Gold spot
สูงสุด - 3,365 ดอลลาร์
ต่ำสุด - 3,311 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด - 51,400 บาท
ต่ำสุด - 51,200 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวลง 30.84 ดอลลาร์ จากการที่ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีการประกาศตัวเลข Non-Farm และอัตราการว่างงานที่บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยตัวเลข FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า 93.3% คาดการณ์เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.5% ในเดือนนี้ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในเดือนก.ย. และธ.ค. ครั้งละ 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ณ สิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.99 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.03 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ตาม ล่าสุดร่างกฎหมายงบประมาณของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ทางสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว โดยร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งไปยังปธน.ทรัมป์เพื่อเซ็นอนุมัติและบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป ของด้านกองทุนฯ SPDR ยังถือครองเท่าเดิม รวมสุทธิ 947.66 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
เมื่อคืนราคาทองโลกมีการปรับฐานลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 3,311 ดอลลาร์ แต่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จึงประเมินว่าระยะสั้นราคาทองโลกอาจมีการฟื้นตัว โดยมีแนวต้านที่ระดับราคา 3,340 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,325 และ 3,311 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,340 และ 3,360 ดอลลาร์
ราคาทองโลกมีการพักฐานหลังจากไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แนะนำใช้กลยุทธ์รอเข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,333 ดอลลาร์และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,365 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,315 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 50,900 และ 50,600 บาท
แนวต้าน : 51,400 และ 51,700 บาท
ราคาทองในประเทศยังคง Sideway จากการที่ทองโลกปรับตัวลง ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า แนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับทยอยเข้าสะสมที่ระดับ 50,900 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 50,600 บาทลงไป