โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หมอปาดนํ้าตากลางศาล!ให้การป่วยทิพย์

ไทยโพสต์

อัพเดต 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 7.02 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไต่สวนคดีชั้น 14 ครั้งที่ 5 ความจริงปรากฏเพียบ "ทักษิณ" เสี่ยงกลับคุกเพิ่ม หมอถึงขั้นปาดน้ำตา ไม่คิดว่าจะต้องมาขึ้นศาล เผยบางครั้งเห็นผู้ป่วยวิกฤตติดเตียงเป็นตายเท่ากันนั่งบนโซฟา แถมก่อนเข้าห้องวีไอพีถูกริบโทรศัพท์มือถือ ราชทัณฑ์ไม่เคยติดต่อสอบถามอาการ "ชาญชัย" ชูใบเสร็จค่ารักษา พิลึกไม่มีค่ายา

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 5 เป็นการสืบพยานแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ คือแพทย์ใหญ่คนปัจจุบัน แพทย์ใหญ่ในอดีต และทีมแพทย์รักษานายทักษิณ รวม 6 คน

โดยก่อนเข้าห้องพิจารณา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำใบเสร็จการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 มาแสดงต่อสื่อมวลชน ซึ่งเป็นใบเสร็จการรักษาตัวของนายทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.66 ถึง 19 ก.พ.67 รวม 26 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 2,475,276 บาท ซึ่งผู้บังคับบัญชาของตำรวจได้สั่งให้โรงพยาบาลตำรวจรายงานว่า กรณีนายทักษิณเข้าพักรักษาตัวใช้สิทธิประเภทใด ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ต้องขังเป็นจำนวนเงินเท่าใด ผู้ใดเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งขอเอกสารการใช้สิทธิที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด

เขาบอกว่า นายทักษิณย้ายจากราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 ส.ค.66 แต่มีการเก็บเงินในวันที่ 4 ก.ย.66 เป็นครั้งแรก ซึ่งมีการเก็บค่าสารอาหารทางเส้นเลือด 150 บาท นอกนั้นจะเป็นค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางพยาบาล และค่าห้องราว 140,000 บาท ไม่มีค่ายา แต่กลับอ้างว่าป่วยวิกฤต

นายชาญชัยยืนยันว่า ใบเสร็จนี้ไม่ใช่เวชระเบียน เป็นสิ่งที่เปิดเผยได้ ตนท้าให้มาตรวจสอบ เพราะใบเสร็จนี้เป็นของจริง ซึ่งหากดูตามใบเสร็จจะพบว่าไม่มีอาการของโรคที่จะต้องรักษาด้วยยาเลย หากดูในใบเสร็จในวันที่ 19 ก.พ.67 จะพบว่ามีค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค 11,461 บาท ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา 47,324 บาท ค่าห้องและค่าอาหาร 57,350 บาท ซึ่งหลังจากนั้น 7 วันก็ออกไปเดินฉุยๆ ได้แล้ว

“ใครไปบังคับนายทักษิณให้นอนโรงพยาบาลถึง 181 วัน ถ้านายทักษิณไม่สั่งพวกนี้ทำ ข้อมูลทั้งหมดจะส่งให้ศาลอีกครั้งในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ เพื่อจะใช้มัดนายทักษิณว่าสั่งการอะไรที่เกี่ยวข้องกับการไม่จำคุกตามคำพิพากษา" นายชาญชัยกล่าว

สำหรับการไต่สวน ศาลได้ไต่สวนพยานจำนวน 3 ปาก เป็นอดีตแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน และแพทย์ผู้ทำการรักษานายทักษิณที่เข้าเวรช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค.2566

ส่วนพยานที่เป็นแพทย์ใหญ่และอดีตแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจเบิกความว่า ห้องพักชั้น 14 มีผู้ป่วยมาพักก่อนหน้าอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงที่โรงพยาบาลทำการกักตัวผู้ป่วยโควิด ทำให้ต้องใช้ห้องพักผู้ป่วยทุกห้อง

โดยพยานรายที่ 3 ซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลตำรวจที่รับตัวนายทักษิณเข้ารักษาเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 ศาลได้ซักรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์รับตัวนายทักษิณเข้ารับการรักษา รวมไปถึงกระบวนการรักษา โดยถามรายละเอียดเกี่ยวกับบันทึกการรักษาตั้งแต่รับตัวนายทักษิณ ไปจนถึงวันที่นายทักษิณออกจากโรงพยาบาล ที่ให้พยานปากที่ 3 ไล่อ่านบันทึกการรักษา ที่พบว่าบางอาการไม่ได้มีบันทึกไว้ ถือว่ายังเข้าขั้นป่วยวิกฤตและสามารถกลับได้หรือไม่ ซึ่งนายแพทย์ผู้นี้ได้ให้ความเห็นว่า บางอาการถือว่าไม่วิกฤตและสามารถกลับได้ นอกจากนี้ยังสอบถามถึงการใช้ยา รักษาอาการป่วย ที่ไม่ระบุอยู่ในใบเสร็จค่ารักษา

ทั้งนี้ ศาลยังได้ถามถึงการเขียนใบให้ความเห็นแพทย์เรื่องการขยายเวลารักษาตัว 120 วัน รวมถึงสอบถามในประเด็นที่ว่า มีเจ้าหน้าที่จากราชทัณฑ์ได้ประสานสอบถามอาการของผู้ป่วยหรือไม่ ซึ่งนายแพทย์ชนะบอกว่า ไม่เคยมีใครสอบถามมา

นอกจากนี้ ศาลยังสอบถามถึงผู้คุมว่าได้ปฏิบัติการอยู่ตลอดหรือไม่ พยานปากที่ 3 ระบุว่า พบผู้คุมทั้งในห้องและหน้าห้อง โดยก่อนเข้าตรวจจะต้องถูกเก็บโทรศัพท์ไว้ ขณะที่เวลาเข้าตรวจนายทักษิณ บางครั้งจะนอนอยู่บนเตียงคนไข้ และบางครั้งจะนั่งอยู่บริเวณโซฟา

ศาลถามถึงการคำนึงข้อกฎหมายและความรับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยหรือไม่ พยานปากที่ 3 ให้การว่า คิดแค่ว่าเป็นหมอรักษาผู้ป่วย ไม่คิดว่าจะต้องมาขึ้นศาล ก่อนจะใช้มือปาดน้ำตา

ต่อมาศาลเบิกความพยานรายที่ 4 เป็นแพทย์ผู้ช่วยการผ่าตัดอาการบาดเจ็บของจำเลย และควบคุมดูแลการพักรักษาหลังการผ่าตัด โดยจำเลยได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวไหล่ขวาขาดระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และสอบถามเกี่ยวกับประเด็นใบรับรองของแพทย์ เนื่องจากตามหลักฐานที่ศาลมี พยานรายดังกล่าวเป็นผู้ลงชื่อกำกับใบรับรองแพทย์ของจำเลย ซึ่งพยานให้การต่อศาลยืนยันในสองส่วนคือ ใบรับรองแพทย์เป็นการใส่รายละเอียดการป่วยโดยทั่วไปของจำเลยตามจริงเท่านั้น รวมทั้งไม่ทราบว่าใบรับรองแพทย์ดังกล่าวที่มีลายเซ็นตนเองนำไปใช้เพื่อการใด

พยานรายที่ 5 นายแพทย์อายุรกรรมเชี่ยวชาญด้านหัวใจ โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการเบิกความต่อศาลว่า ทำการดูแลและให้คำปรึกษาจำเลยที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวเดิมที่มีประวัติการรักษาจากต่างประเทศ และดูแลอาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุของการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 ส.ค.66 และให้คำปรึกษาอีกครั้งถึงความเสี่ยงระดับกลางของจำเลยที่อาจส่งผลต่อโรคประจำตัวในตอนที่เข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ความเห็นต่อศาลถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ และให้ข้อสังเกตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคของจำเลยต่อศาล

พยานรายที่ 6 เบิกความยืนยันว่า การตรวจรักษานายทักษิณตั้งแต่การผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขาด ซึ่งมีภาวะที่หากไม่มีอาการแทรกซ้อนก็จะส่งตัวกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หลังจาก 7 วัน แต่ตัวนายทักษิณเป็นผู้มี่มีอาการแทรกซ้อน จึงมีเหตุต้องให้รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล นอกจากนี้พยานรายที่ 6 ได้ยื่นเอกสารการรักษาตัวของนายทักษิณ

โดยศาลมีคำสั่งเลื่อนไปไต่สวนพยานบุคคลต่อในวันที่ 25 ก.ค. ตามที่นัดไว้เดิม โดยเป็นการนำแพทย์จากแพทยสภาเข้ามาเบิกความจำนวน 3 ปาก และอนุญาตให้จำเลยนำศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าไต่สวนในวันที่ 30 ก.ค.นี้

นายชาญชัยเปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมฟังการไต่สวนว่า วันนี้ได้รับทราบข้อเท็จจริง ได้เห็นเอกสารเองกับหูได้ดูกับตา และคำให้การขัดแย้งกับแพทยสภาจริงๆ ซึ่งในอาทิตย์หน้าแพทยสภาจะมาเบิกความ เมื่อเช้าตนได้ชี้แจงต่อศาลและศาลได้นำใบเสร็จขึ้นมาถามสรุปแล้ว ก็ถามว่าทำไมใบเสร็จถึงไม่มีค่ายา

"ผู้อำนวยการทั้งเก่าและใหม่เขาบอกว่าไปซื้อยาข้างนอกมาใช้เอง ซึ่งผมงงมากกับระบบของโรงพยาบาลตำรวจ พี่แพทย์จ่ายยาทุกวัน แต่ไม่รู้ว่าจ่ายยาอะไร เป็นเรื่องแปลกประหลาด เป็นพิรุธใหญ่มาก" นายชาญชัยกล่าว

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจหากได้ฟังคำไต่สวน ทีมราชทัณฑ์ให้ข้อมูลไม่ตรงกับทีมแพทย์ ทีมราชทัณฑ์พยายามยืนยันว่านักโทษรายนี้ติดเตียงต่อเนื่อง ในเมื่อถามแพทย์แต่ละท่านเมื่อเข้าไปตรวจเยี่ยมเจอคนไข้นั่งที่โซฟาก็มี บางท่านก็บอกว่าเมื่อเข้าไปตรวจเยี่ยมเจอคนไข้เดินอยู่ข้างเตียงก็มี บทสรุปคือผมว่าน่าจะยกธงขาวได้แล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรมาแก้ตัว

ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. กล่าวเสริมว่า อีกประเด็นที่อยากให้ไปตรวจสอบคือ MOU ของโรงพยาบาลตำรวจกับราชทัณฑ์นั้น อาคารรักษาผู้ป่วยที่ส่งจากราชทัณฑ์ อยู่ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีห้องป่วยฉุกเฉินอยู่ข้างล่าง และอาคารนี้ชั้น 5 มีห้องขัง 4 เตียงมีลูกกรงกั้นควบคุมตัวได้ ไม่ได้ส่งผู้ป่วยเหล่านี้ไปที่อาคารนั้น

ส่วน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งข้อสังเกตว่า แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ทั้งแพทย์เวรและพยาบาลเวรบอกว่าเป็นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่ที่โรงพยาบาลตำรวจไม่มีการตรวจโดยแพทย์โรคหัวใจ โดยปล่อยให้ผ่านไปกว่า 20 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันที่ 24 ส.ค.66 จึงมีแพทย์โรคหัวใจมาตรวจ เมื่อตรวจแล้วพบความดันโลหิตสูงและยาขยายหลอดลม ซึ่งสิ่งเหล่านี้โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ มองว่าการอ้างทั้งหมดนี้น่าจะเป็นโมฆะ เพราะไม่ได้เป็นไปตามมาตรา 55 การส่งตัวตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ และกฎกระทรวง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ขัดพระบรมราชโองการ

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เข้าสู่โซน ‘อันตราย’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฉบับวันที่ 19 กรกฎาคม 2568

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘2 หมอ’ จบวิน-วิน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

จับหัวหน้าแก๊งโจ๋เมืองกำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทิน ตร. ลำดับ 134

สวพ.FM91
วิดีโอ

ลุยค้นโกดังส่งขายยากันยุงเถื่อน ไร้ฉลากไทย ไร้อย. พบลอบขายออนไลน์

สวพ.FM91
วิดีโอ

สืบสวน บช.ทท. กวาดล้างชาวต่างชาติใช้วีซ่าท่องเที่ยวลักลอบทำงาน 37 ราย

สวพ.FM91

รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำข้างทาง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย จ.สุพรรณบุรี

สวพ.FM91

หุ้นไทยเซอร์ไพรส์! พุ่งแรงสุดในโลก จับตาเส้นตายภาษีทรัมป์ชี้นำทิศทางตลาด

TNN ช่อง16

จับ 1 หนี 5 แก๊งค้ายานรก ยึด 1.2 ล้านเม็ด ค่ากว่า 180 ล้าน โยงเครือข่ายว้าใต้

เดลินิวส์

ททท.ปลื้ม TTM+ 2025 ดัน Carbon Neutral Event ขับเคลื่อนท่องเที่ยวยั่งยืน

ฐานเศรษฐกิจ

นิทรรศการ ‘ไปดาวอังคารกัน!’ ในอู่ฮั่น สัมผัสประสบการณ์เยือนดาวแดง

Xinhua

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...