‘ภูมิใจไทย’ โต้ ‘กุสุมาลตี’ ยืนยันไม่เคยขอไกล่เกลี่ย ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 68 นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่ศาลอาญา แถลงข่าวพาดพิงพรรคภูมิใจไทยในหลายประเด็น ว่ากรณีที่พรรคภูมิใจไทยได้ฟ้องนางกุสุมาลวตี ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง พยานทางโจทก์ และตัวจําเลยได้ไปที่ศาล ศาลได้สอบถามถึงความประสงค์ในการไกล่เกลี่ยประนีประนอม แต่ทางพรรคภูมิใจไทยตอบชัดเจนว่า ไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ย และประสงค์ที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นการหมิ่นประมาทและใส่ร้ายทำให้พรรคเสียชื่อเสียง และต้องการให้มีโทษทางอาญาถึงจำคุก ไม่มีว่าพรรคภูมิใจไทยจะขอไกล่เกลี่ย อย่างที่นางกุสุมาลตีได้พูดในวันนี้ อันนี้คือความเท็จที่นางกุสุมาลตีได้มีการพูด
"สิ่งที่คุณกุสุมาลวตีพยายามอธิบายและแสดงตนเป็นผู้รู้ เป็นเรื่องที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา และเกิดจากการฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด โดยพยายามแสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นผู้ที่รู้จริง ๆ กรณีเรื่องฮั้ว สว. ยืนยันว่า สิ่งที่คุณกุสุมาลวตี พูดมามันไม่ได้เป็นความจริง เป็นการจับเอาข่าวซึ่งมีการปั่นกันมาแล้วมาร้อยเรียง ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ ที่กล่าวหาพรรคภูมิใจไทยนั้น ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่นางกุสุมาลวตีกล่าวถึงเรื่องเขากระโดงนั้น พูดโดยไม่รู้อะไรทั้งสิ้น การทํารถไฟหลวงจาก จ.นครราชสีมา ไป จ.อุบลราชธานี เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2451 สมัยรัชกาลที่ 5 และมีพระราชกฤษฎีกาในปี 2461-2465 ขอเตือนว่าเรื่องอยู่ในศาลปกครอง ซึ่งรอบแรกการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ฟ้องกรมที่ดิน และศาลได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตาม มาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดินขึ้นมาพิจารณา เมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้วเสร็จ เห็นว่าไม่สามารถเพิกถอนโฉนดที่ดิน 5,083 ไร่ได้ เนื่องจากเอกสารและแผนที่จากการรถไฟฯ ไม่มีพฤติการณ์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการออกโฉนดที่ดินนั้นคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย การรถไฟฯ ได้ฟ้องคดีขึ้นใหม่ 4 เรื่อง แต่ศาลยกไป 2 เรื่อง เนื่องจากเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีเดิม
"วันนี้อยู่ จ.มหาสารคาม ก็อย่ามาทำความรอบรู้ในสิ่งตัวเองไม่รู้ใน จ.บุรีรัมย์ ขออย่าได้ขยันที่จะมาพูด เพราะหลายเรื่องที่ทํา ที่พูดมันเป็นการทําผิดกฎหมายอาญาในเรื่องหมิ่นประมาท หรือละเมิดอำนาจศาล เราไม่ใช้คุณไสย แต่เราใช้กฎหมายในการดําเนินคดีกับคนที่ทําผิด เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเพ้อเจ้อเรื่องว่าจะมีคนเสกควายธนูเข้าไปในท้อง" ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย กล่าว
นายศุภชัย ยังชี้แจงกรณีที่นางกุสุมาลวตี นำรูปภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถ่ายกับ สว. ว่า บริเวณที่มีการถ่ายภาพในสภา เป็นพื้นที่ที่ใครก็สามารถขอถ่ายภาพกับรัฐมนตรี สส. ได้ รวมทั้งที่ จ.นครพนม พรรคภูมิใจไทย มี สส. 2 คน นายอนุทินเดินทางไปเป็นประจำ ซึ่งนายอนุทินเป็นคนมีอัธยาศัย ไม่เคยปฏิเสธใคร ยินดีถ่ายรูปกับทุกคน แม้จะรังเกียจก็ยังถ่ายรูปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่มาถ่ายรูปด้วยนั้นจะเป็นพวกผู้ก่อการร้าย หรือคิดการร้ายกันตามที่คิด อย่าไปประติดประต่อเรื่องราวเอาเอง
“ขอเตือนว่า วันนี้อย่าพยายามพูดจาพล่ามและพล่อย การทำหน้าที่พลเมืองเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่เกี่ยวกับความเป็นเพศหญิงหรือชาย อยากจะฟ้องใครก็ฟ้อง แต่อย่ามาโกหก อย่ามาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นด้วยเหตุผลที่มีวาระซ่อนเร้นอยู่” นายศุภชัย กล่าว.