“ฟิลิปปินส์” ประกาศระงับนำเข้าข้าว 60 วัน เริ่ม 1 ก.ย.68 หนุนราคาข้าวเปลือกในประเทศ
"ฟิลิปปินส์" ผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศระงับนำเข้าข้าว 60 วัน เริ่ม 1 ก.ย.68 หนุนราคาข้าวเปลือกในประเทศ
วันที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฟิลิปปินส์ประกาศระงับการนำเข้าข้าวเป็นเวลา 60 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศที่กำลังได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ โดยนายเดฟ โกเมซ เลขาธิการสำนักงานสื่อสารประธานาธิบดี เปิดเผยว่าคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นโดยประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เพื่อปกป้องเกษตรกรท้องถิ่น
ก่อนหน้านี้ ฟรานซิสโก ติอู ลอเรล จูเนียร์ รัฐมนตรีเกษตร ได้เรียกร้องให้หยุดการนำเข้าข้าวชั่วคราว และเสนอให้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าว เนื่องจากข้าวนำเข้าจำนวนมากได้กระทบต่อเกษตรกรในประเทศ และอาจทำให้โรงสีหลายแห่งต้องปิดกิจการ
นโยบายใหม่นี้ถือเป็นการกลับลำจากเมื่อต้นปีที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านความมั่นคงทางอาหาร อันเนื่องมาจากราคาข้าวภายในประเทศพุ่งสูงผิดปกติ และกลายเป็นปัจจัยหนุนเงินเฟ้อ แต่ภายหลังจากอุปทานในประเทศฟื้นตัว ราคาข้าวก็เริ่มปรับลดลง โดยในเดือนกรกฎาคม ราคาข้าวลดลงมากถึง 15.9% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจหยุดนำเข้าข้าวอาจส่งผลให้ปริมาณข้าวส่วนเกินในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และกดดันราคาข้าวในภูมิภาคให้ลดลงต่อไป โดยก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรสหรัฐคาดการณ์ว่าฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวถึง 5.4 ล้านตันในฤดูกาล 2568–2569 ซึ่งสูงกว่าประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่อื่น ๆ เช่น เวียดนาม และไนจีเรีย
ด้านปลัดช่วยกระทรวงเกษตร อาร์เนล เด เมซา กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ระงับการนำเข้านี้ครอบคลุมฤดูเก็บเกี่ยวสูงสุดของประเทศ ซึ่งผลผลิตภายในเพียงพอต่อความต้องการ โดยในช่วงครึ่งปีแรก ฟิลิปปินส์ผลิตข้าวเปลือกได้ 9.08 ล้านตัน และรัฐบาลตั้งเป้าผลิตให้ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20.46 ล้านตันภายในสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีมาร์กอสยังระบุว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าว โดยกล่าวว่า “เราจะดูสถานการณ์ก่อนว่าจำเป็นหรือไม่” ทั้งนี้รัฐบาลเคยลดภาษีนำเข้าข้าวจาก 35% เหลือ 15% ตั้งแต่ปีที่แล้ว และจะคงอัตรานี้ไว้จนถึงปี 2571 เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อในประเทศ
อ้างอิง : bloomberg.com