DSI เรียก 1,200 ผู้สมัคร-พยานสอบคดีฮั้ว สว. พบเส้นทางเงินพัน 45 จว.
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทน รมว.ยุติธรรม รองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรรมการและเลขานุการ และคณะกรรมการคดีพิเศษ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุม
ที่ประชุมได้รับทราบ รายงานความคืบหน้าคดีพิเศษซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน ได้แก่ คดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดฐาน อั้งยี่ฯ ตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นความคืบหน้าของการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2568 ถึงปัจจุบัน โดยได้มีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องไป ทั้งสิ้น 90 ปาก มีการจัดทำเหตุการณ์จำลองทั้งสถานที่ใช้ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาและกระบวนการคัดเลือก พร้อมขอรับภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุจากหลายหน่วยงาน มีการตรวจสอบร่องรอยทางการเงินพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน 1,200 คน
ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ทราบความสัมพันธ์ของกลุ่มขบวนการได้มีการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่ามีผู้ช่วยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวข้องในพื้นที่ 45 จังหวัด ทั้งนี้ การดำเนินการในลำดับต่อไปทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมออกหมายเรียกผู้สมัครสมาชิวุฒิสภาอีก 1,200 คน เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากทางคดี มีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหน่วยงานภายในสังกัดรวม 10 กองคดีที่เป็นคณะพนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คดีความผิดทางอาญาอื่น จำนวน 1 เรื่อง กรณีการกระทำความผิดของชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมกันกระทำเป็นขบวนการหลอกลวงหรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใด โดยเรียกรับเงินจากนายจ้างและแรงงานต่างด้าว เพื่อให้ได้รับการต่อใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยอันมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม