คลังปฏิรูประบบภาษี ลุย Negative Income Tax ปี 70 เก็บภาษีถ้วนหน้า–อุ้มผู้มีรายได้น้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ว่าขณะนี้ครอบคลุมข้อมูลประชาชนกว่า 60.8 ล้านคน และภาคธุรกิจราว 600,000 กิจการ เพื่อนำไปใช้พัฒนาระบบคะแนนเครดิตของประชาชน หรือ “เครดิตสกอริ่ง” (Ari Score : Credit Scoring)
รวมถึงสนับสนุนการออกแบบนโยบายสวัสดิการในรูปแบบ Negative Income Tax โดยรูปแบบภาษีดังกล่าวกำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี รวมถึงผู้ที่ประสงค์จะรับสวัสดิการจากรัฐ หากมีรายได้ถึงเกณฑ์จะต้องชำระภาษี แต่หากต่ำกว่าเกณฑ์จะได้รับสวัสดิการแทน โดยตั้งเป้าจะสามารถเริ่มบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2570
“จะทำให้รัฐบาลรู้จักคนไทยมากขึ้นและช่วยให้สามารถกำหนดนโยบายการคลังเชิงรายภูมิภาคได้ เพราะคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางการเงินของประชาชนในแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน เช่น ภาคเหนือกับภาคใต้ มีคุณภาพชีวิตและความต้องการไม่เหมือนกัน หรือภาคอีสานกับภาคกลางก็แตกต่างกัน” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซึ่งถือเป็นความร่วมมือสำคัญ เพราะข้อมูลทางการเงินควบคู่กับข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชน ถือเป็นข้อมูลหลักที่รัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายต้องใช้ในการจัดสวัสดิการให้ตรงเป้าหมายและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (KSS) (15 สิงหาคม 2568) ระบุว่า การพัฒนาฐานข้อมูลผู้เสียภาษีเพื่อรองรับระบบ Negative Income Tax จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับสวัสดิการเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งแนะติดตามรายละเอียดการปรับโครงสร้างภาษีอื่น ๆ ในระยะถัดไป
สำหรับ Negative Income Tax หรือ “ภาษีเงินได้แบบติดลบ” เป็นแนวคิดที่ศาสตราจารย์ มิลตัน ฟรีดแมน (Milton Friedman) นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล เสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505)
โดยรัฐบาลไทยจะกำหนด “รายได้ขั้นต่ำ” ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หากผู้มีรายได้ต่ำกว่าระดับนี้ จะได้รับเงินชดเชย เช่น หากกำหนดขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน และบุคคลมีรายได้ 15,000 บาท จะได้รับเพิ่ม 5,000 บาท โดยเมื่อรายได้เพิ่มขึ้น เงินชดเชยจะค่อย ๆ ลดลงจนหมด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :