โลกร้อน ทุเรียนร่วง
โลกร้อน ทุเรียนร่วง
โลกร้อน ที่เรียกทางการว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแสดงผลร้ายให้ปรากฏกับชาวสวนทุเรียนอย่างชัดแจ้งในฤดูกาลผลิต 2568
ปริมาณเพิ่ม คุณภาพด้อย ราคาตก
อาจเป็นข้อมูลที่ต่างจากกระแสข่าว ความรู้สึกของคนทั่วไปที่พบว่า ทุเรียนราคาถูกลงเพราะการผลิตเยอะ ที่ไหนๆ ก็ปรับที่ปลูกไม้ผลเปลือกหนามกันทังนั้น ยางที่เอาดีไม่ได้สักที ก็ถูกโค่นเพื่อเข้าวงการกับเขา
ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) จัดเสวนาการส่งออกทุเรียนไทย: การปรับตัวของเกษตรกรไทยภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ในงาน อว.แฟร์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568
ผศ. ดร.ยศพล ผลาผล ผู้ช่วยคณบดีคณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี รักษาการนายกสมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่าทุเรียนภาคตะวันออกปีนี้ คุณภาพต่ำสุดในรอบหลายปี เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทบการผลิตทุเรียนถึง 7รุ่น
เริ่มจากฤดูหนาว อุณหภูมิต่ำมากหลายช่วง ลงถึง 12 องศาเซลเซียส เดือนกุมภาพันธ์ยังเจอฝนหนัก ทำให้ทุเรียนออกดอก แต่เจอฝนก็แตกใบอ่อน เนื้อทุเรียนแกร็น(ไม่เจริญเติบโตตามปรกติ) ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ต้องใช้แรงงานเหมา ทีมตัดดอกชุด 1-2 ร่วมกัน รวบชุดเก็บเกี่ยวทุเรียน ผลผลิตจึงมีทั้งแก่จัด ปานกลาง และด้อยคุณภาพ คาดว่าผลผลิตลด 20%
สภาพอากาศมีผลต่อรอบการดูแลไม่สม่ำเสมอ ต้นทุนเกษตรกรสูงขึ้น บางราย ใช้สารควบคุมออกดอกหลายครั้ง เกิดปัญหาการใช้สารเคมีมากเกินไป ต้นทุเรียนคุณภาพไม่ดี
รศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท ผอ.ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวคาดการณ์ความเสียหายของผลิตทุเรียนเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า ยังไม่มีการประกาศตัวเลขที่ชัดเจนจากหน่วยงานใด แต่ประเมินคร่าวๆ รายได้หายไปประมาณ 25%
และจากการเดินทางไปประเทศจีน พบข้อมูลที่น่าตกใจ ราคาทุเรียนจากไทย จำหน่ายถึงผู้บริโภคที่เมืองคุนหมิง เหลือเพียง 50 หยวนต่อกิโลกรัมซึ่งต่ำมาก จากปกติเกิน100 หยวนขึ้นไป หรือกิโลกรัมละ 500 บาท (ประมาณ1หยวน=5บาท)
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอรายงานเรื่องทุเรียนราคาร่วง สะเทือนบัลลังก์ราชาผลไม้ ทางรอดของไทยในเวทีการค้าโลก ระบุว่า 2568 เป็นปีที่อุตสาหกรรมทุเรียนไทยเผชิญกับความท้าทายรอบด้านครั้งใหญ่จากปัจจัยภายนอกและภายใน ทั้งการผลิต การตลาด ราคาผันผวน และมาตรการทางการค้าจากประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่เคยทำสถิตการบริโภคทุเรียนไทยถึง 90 เปอร์เซ็นต์
รายงานนี้ นำข้อมูลปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาแสดง เฉพาะภาคตะวันออกมีพื้นที่ปลูกถึง 469,580 ไร่ ได่ผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 56.89% จากปีก่อน ตัวเลขทั่วประเทศคาดว่าปี 2568 จะได้ผลผลิต 1.682 ล้านตัน เพิ่มจากปี 2567ถึง 30.72%
ส่วนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายงานนี้ ไม่ได้เห็นเป็นผลร้าย โดยระบุว่า ปริมาณเพิ่มเพราะปัจจัยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ทุเรียนติดผลดี แต่ก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงจากภาวะผลผลิตล้นตลาด และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดส่งออก
ทุเรียนไทยเป็นผลไม้ยอดนิยมของผู้บริโภคชาวจีน จึงเป็นแรงดึงดูดให้เกษตรกรประเทศอื่นรวมถึงจีนพยายามปลูกและส่งออกไปขายด้วยกลวิธีต่างๆ รายงานบางกระแสอ้างว่า บางประเทศแอบส่งทุเรียนแกะเนื้อเข้าไทย เพื่อสวมสิทธิส่งไปจีน
เดือนเมษายนที่ผ่านมา จีนเพิ่มมาตรการตรวจสอบเข้มงวด ระงับการนำเข้าทุเรียนจากล้งไทยบางแห่ง เนื่องจากพบทุเรียนเกิน 40% มีคุณภาพต่ำ บางล๊อตปนเปื้อนสารตกค้าง เช่น แคดเมียม และสารย้อมสี Basic Yellow 2 หรือ BY2 ซึ่งส่งผลสั่นคลอนความเชื่อมั่นคุณภาพของทุเรียนไทยในสายตาผู้บริโภคจีน
แต่เวทีการเสวนาการส่งออกทุเรียนไทย: การปรับตัวของเกษตรกรไทยภายใต้สภาพอากาศ ผู้ผลิตที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ เน้นขายออนไลน์กับผู้บริโภคในประเทศยังมั่นใจว่า ตลาดกลุ่มนี้ยังไปได้
ปัจจัยจากโลกร้อน สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง คงแก้ไขได้ยาก แต่การปรับระบบการผลิต ควบคุมคุณภาพและปริมาณ เป็นสิ่งที่ต้องรีบจัดการโดยด่วน
รัฐควรสนับสนุนอำนวยความสะดวก เปิดทางให้ผู้รู้แก้ไข ไม่ต้องจุ้นจ้านจัดแจง เพราะจะชักช้าไม่ทันกาล
ชาวสวนทุเรียนก็ต้องรวมตัวร่วมมือกับหน่วยวิจัยวางระบบจัดการ
เพื่อความอยู่รอด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ติดตามเราได้ที่