BANPU Q2/68 พลิกขาดทุน 942 ล้าน ขาดทุนค่าเงิน 75 ล้านดอลลาร์จากบาทแข็งค่า
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 จากสภาวะราคาพลังงานหลักทั้งถ่านหินและก๊าซธรรมชาติอ่อนตัวลง สาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้พลังงานที่ลดลง ปริมาณสำรองพลังงานในประเทศหลักๆ ยังอยู่ในระดับสูง ในขณะที่การผลิตจากประเทศผู้ส่งออกหลักยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายดังกล่าว
บริษัทฯ ยังคงรักษาวินัยในการดำเนินงาน โดยให้ความสำคัญกับการ บริหารต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารพอร์ตธุรกิจ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ รายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 28.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้เป็นผล ระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ที่แข็งค่าขึ้น 1.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสที่ 1 ส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 75.17 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ผลกระทบ ดังกล่าวเป็นรายการที่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ และไม่ส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของการดำเนินงานในไตรมาสนี้ บริษัทฯ รายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA2 ) รวม 303 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย EBITDA จากธุรกิจถ่านหินจำนวน 157 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 26จากไตรมาสก่อนหน้า) ธุรกิจ ก๊าซธรรมชาติจ านวน 63 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 26จากไตรมาสก่อนหน้า) ธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 86 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 58จากไตรมาสก่อนหน้า) และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานจำนวน -3 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯรายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 29 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขาดทุน 945 ล้านบาท ลดลง 55 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 212 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีกำไร 937 ล้านบาท โดยหลักจากธุรกิจถ่านหิน ตามราคาตลาดของถ่านหินที่ปรับตัวลดลง ในขณะที่มีปริมาณขายถ่านหินรวมเพิ่มขึ้นและมีต้นทุนขายเฉลี่ยต่อตันที่ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการบริหารจัดการต้นทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีการรับรู้ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจาก อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทต่อสกุลเงินสหรัฐในระหว่างไตรมาส ในขณะที่รับรู้กำไร จากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน โดยบริษัทฯยังคงดำเนินมาตรการในการบริหารจัดการต้นทุนและ ค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม เพื่อให้บริษัทสามารถเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดพลังงานได้อย่างมั่นคงและ มุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ BKV Upstream Midstream, LLC บริษัทย่อยของ BANPU ผ่าน BKV Corporation (“BKV”) ซึ่งจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: BKV) สหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในสัญญาการซื้อสัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัท (“Membership Interest Purchase Agreement” หรือ “MIPA”1 ) กับ Bedrock Energy Partners, LLC เพื่อเข้าซื้อบริษัท Bedrock Production,LLC เจ้าของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ(Upstream) และธุรกิจกลางน้ำ (Midstream) ในแหล่งบาร์เนตต์ (Barnett) รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 370 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 11,966 ล้านบาท) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขาย โดยเงินลงทุนสำหรับโครงการนี้มาจากการออกหุ้นสามัญใหม่ ของ BKV ให้กับ Bedrock Energy Partners, LLC ด้วยมูลค่าเทียบเท่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้เงื่อนไขจำกัดการขายหุ้น (Lock-up Period) เป็นระยะเวลา 60 วัน และเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน อีกจำนวน 260 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวอยู่ในระหว่างการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในสัญญา
คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ตุลาคม 2568 การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตสินทรัพย์ของ BKV ด้วยแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ คุณภาพสูง รวมถึงระบบธุรกิจกลางน้ำที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และระบบท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ